ข้อเท็จจริง 9 ข้อ เกี่ยวกับ “อาหารเค็ม และสุขภาพ”
1. “โซเดียม” (Sodium) 1 กรัม เท่ากับ “เกลือ” 2.5 กรัม - จำเป็นต้องรู้เพราะในบทความแต่ละบทความ หรือข้อมูลส่วนประกอบอาหารแต่ละชนิดอาจเขียนไม่เหมือนกัน
2. นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า บรรพบุรุษของมนุษย์ในอดีต ก่อนจะมีการค้นพบเกลือ ทานอาหารที่ไม่ปรุงแต่ง มี “เกลือ” เพียงแค่ 0.5 กรัมต่อวันเท่านั้น
3. ในปัจจุบันองค์การอนามัยโลก แนะนำให้รับประทาน “โซเดียม” น้อยกว่า 2 กรัมต่อวัน หรือเท่ากับ “เกลือ” น้อยกว่า 5 กรัมต่อวัน
(เทียบได้กับ “เกลือ” 1 ช้อนชา น้ำปลาหรือซีอิ๊วขาว 3-4 ช้อนชา)
4. จากการสุ่มตรวจการทานเค็ม พบว่าคนไทยทาน “เกลือ” เฉลี่ย 10 กรัมต่อวัน(หรือมากกว่าในบางพื้นที่) เกินเกณฑ์ที่มาตรฐานกำหนดไว้ถึง 2 เท่า
BMJ Open 2013
5. การทานเค็มมากเกินไป เพิ่มความเสี่ยง โรคหัวใจ และโรคเรื้อรังอื่นๆ
🔺 ความดันโลหิตสูง
🔺 กล้ามเนื้อหัวใจหนา
🔺 โรคหลอดเลือดสมอง ความจำเสื่อม
🔺 ไตวายเรื้อรัง
🔺 นิ่วในไต
🔺 กระดูกพรุน
6. ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมีการศึกษาที่บอกว่า การทานเกลือน้อยเกินไปทำให้ตายเร็วขึ้น!?!?
แต่.. แพทย์หลายๆท่านให้ความเห็นว่า เป็นการศึกษาที่เก็บตัวอย่างไม่ดี และมีอคติทางการวิจัยมาก (bias) จึงไม่มีความน่าเชื่อถือ
ในการศึกษา observational cohort ปี 2014 พบว่าการทาน “โซเดียม” มากเกินไปทำให้ “อัตราการเสียชีวิต” มากขึ้น (ซึ่งก็เป็นข้อมูลเดิม)
แต่...ปริมาณ “โซเดียม” ที่น้อยเกินไปก็ทำให้ “อัตราการเสียชีวิต” เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
เราเรียกว่าปรากฏการณ์ตัว U “U phenomenon”
อย่างไรก็ตาม แพทย์และนักวิจัยหลายๆท่านก็ลงความเห็นว่า การศึกษาเป็นเพียงการสุ่มเอาปัสสาวะแช่แข็งของผู้ป่วยที่อยู่ในการศึกษาอื่นมาตรวจเท่านั้น และยังเป็นการตรวจชนิดเวลาเดียว (ไม่ใช่ 24 ชั่วโมง) ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ
7. วิธีการตรวจปริมาณ “เกลือ” ที่ทานต่อวันโดยการวัดปริมาณ “โซเดียมในปัสสาวะ” ใน 24 ชั่วโมง แล้วเข้าสูตรคำนวณเป็นปริมาณ “โซเดียม” ที่ทานต่อวัน ปัจจุบันเชื่อว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด
การวัดปริมาณ “โซเดียมในปัสสาวะ” ครั้งเดียว แล้วเข้าสูตรคำนวณเป็นปริมาณ “โซเดียม” ที่ทานต่อวัน มีตัวแปรที่รบกวนมาก ทำให้ผลการศึกษาออกมาไม่แม่นยำ
8. มีข้อมูลของการลดการทาน “เกลือ” แล้วได้ประโยชน์ชัดเจน คือข้อมูลจากประเทศฟินแลนด์ และอังกฤษ เป็นการศึกษาที่เรียกว่า Natural Experiment
ในประเทศฟินแลนด์ ได้มีการทำแคมเปญเรียกการลดความเค็มในอาหาร สามารถลดการทาน “เกลือ” จาก 14 กรัมต่อวันในปี คศ 1972 เป็น 9 กรัมต่อวันในปี คศ 2002 ทำให้ความดันโลหิตลดลงเฉลี่ย 10 มิลลิเมตรปรอท และอัตราตายจากโรคหัวใจลดลง 75-80%
ในประเทศอังกฤษ ลดการทาน “เกลือ” จาก 9.5 กรัมต่อวัน ในปี คศ 2003 เหลือ 8.1 กรัมต่อวัน ในปี คศ 2011 (ลดลง15%) ทำให้อัตราการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองลดลงด้วย
J Am Coll Cardiol. 2020 ลดเค็ม ลมความดัน ลดโรคหัวใจ และสมองได้
9. สรุปแล้ว การลดปริมาณ “เกลือ” หรือ “โซเดียม” ที่ทานลง สามารถลดการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้ (NCDs : non-communicable diseases) และเป็นวิธีที่คุ้มค่าต่อการลงทุนมากที่สุด ที่ทุกคนควรทำเป็นอย่างยิ่งครับ
นพ. วีรพันธ์ วิวัฒน์วรพันธ์
อายุรแพทย์โรคหัวใจ อนุสาขาสรีระไฟฟ้าหัวใจ
(ช่างไฟฟ้าหัวใจ)
Ref.
J Am Coll Cardiol. 2020 Feb, 75 (6) 632–647
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
