21 ม.ค. 2021 เวลา 05:00 • กีฬา
[ THE OUTLANDER : แนะนำผู้เล่นต่างชาติ ไทยลีก ]
" DERLEY - แดร์เลย์ "
สัญชาติ : บราซิล
อายุ : 33
ตำแหน่ง : กองหน้า
สโมสร : เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
หมายเลข : 87
เล่น ไทยลีก ตั้งแต่ : 2019
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในสโมสรที่ไม่เคยขาดแคนศูนย์หน้าที่สามารถผลิตสกอร์ได้อย่างต่อเนื่อง ไล่ตั้งแต่ ธีรศิลป์ แดงดา, คเลตัน ซิลวา และ เฮแบร์ตี้ ซึ่งจัดเป็นหัวหอกระดับชั้นนำของ ไทยลีก ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เคยค้าแข้งกับกิเลนผยอง
แม้ผลงานปัจจุบันของยักษ์ใหญ่แห่งย่านแจ้งวัฒนะจะยังไม่สามารถหวนคืนสู่วันวาน ทว่าพวกเขาก็ยังคงมีดาวยิงอันตรายไว้คอยข่มขวัญคู่ต่อสู้อยู่เช่นเคย
แดร์เลย์ คือกองหน้าที่ 'Cheerball' จะกล่าวถึงในวันนี้
ศูนย์หน้าจาก เซา หลุยส์, มารับเญา ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือบราซิล เริ่มต้นอาชีพกับ เชอาร่า ทีมในลีกรองของประเทศ ทว่าที่นี่เจ้าตัวไม่ค่อยได้รับโอกาสสักเท่าไหร่ เลยต้องระหกระเหินเดินทางไปค้าแข้งกับทีมใน ดิวิชั่น ระดับล่าง อย่าง ติราเดนเดส และ คูเซยโร่-อาร์เอส
จะว่าไปกว่าที่ แดร์เลย์ จะเริ่มเฉิดฉายก็ต้องใช้เวลาอยู่นานพอสมควร เพราะตอนที่เจ้าตัวยิงได้กระฉูด เวลานั้นเขาก็ล่วงสู่ปีที่ 25 ในชีวิตเข้าไปแล้ว ซึ่งนั่นคือสมัยที่เล่นให้ มาดูเรยร่า ในปี 2012
ที่ มาดูเรยร่า นี่เอง แดร์เลย์ ได้พบกับ อเล็กซานเดร กามา อดีตเฮดโค้ชของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (ปัจจุบันคุม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) ซึ่งทั้งคู่คงไม่คาดคิดว่าวันหนึ่งจะได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งยังประเทศไทย
ผลงานที่ มาดูเรยร่า นั่นแหละที่ทำให้ชีวิตของเขาถึงเวลา 'ขาขึ้น' เพราะยิงไปได้ 10 ประตู จากการลงเล่น 32 เกม ตัวเลขอาจจะไม่มากนัก แต่เมื่อเทียบประโยชน์ต่อทีมนั้นมหาศาลจนทำให้ถูกหลายๆ สโมสรในยุโรป เมียงมอง
ฟอร์มของ แดร์เลย์ เด่นเป็นสง่า จนในฤดูกาล 2013-14 มาร์ติโม ทีมในลีกโปรตุเกส ก็มาสู่ขอและได้ลงเอยกันในที่สุด
ซีซั่นแรกของ แดร์เลย์ ก็สวยหรูไม่เบาเมื่อกดไปถึง 16 ประตู จนได้ 'รองดาวซัลโว' ของลีก ต่อจาก แช็คซอน มาร์ตีเนซ ของ ปอร์โต้ คนเดียวเท่านั้น
ร้อนแรงขนาดนี้มีหรือที่จะเล็ดรอดสายตาทีมใหญ่ และหลังจบฤดูกาลนั้นเอง ชื่อของ แดร์เลย์ ก็ถูกโยงเข้ากับ 2 ทีมเต็งของโปรตุเกส อย่าง สปอร์ติ้ง ลิสบอน และ เบนฟิก้า
จากการเจรจาพักใหญ่ ในที่สุด 16 กรกฏาคม 2014 แดร์เลย์ ก็จัดการจรดปากกาเซ็นสัญญากับ เบนฟิก้า 4 ปี
-+ที่ เบนฟิก้า เขาย้ายมาพร้อมความหวัง และได้สวมเสื้อหมายเลข 9 ในทันที
โดยทีมชุดนั้นของเหยี่ยวแห่งลิสบอนมีผู้เล่นดังหลายราย ไม่ว่าจะเป็น ลุยเซา เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติบราซิล, นิโกลัส ไกตาน แนวรุกทีมชาติอาร์เจนติน่า, แม็กซี่ แปเรยร่า กองหลังทีมชาติอุรุกวัย, เบเบ้ อดีตนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และดาวรุ่งในเวลานั้นอย่าง วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ปราการหลังจอมแกร่งทีมชาติสวีเดน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเกมประเดิมสนามในสีเสื้อ เบนฟิก้า นั้นจะได้แชมป์ ซูเปอร์ คัพ ของโปรตุเกส ทว่า แดร์เลย์ ซึ่งได้โอกาสลงสนามในฐานะตัวสำรองนั้นดันยิงลูกจุดโทษพลาดในการดวลลูกจุดโทษตัดสิน ยังดีที่วันนั้นเพื่อนคนอื่นๆ ซัดตุงตาข่ายกันหมด ไม่เช่นนั้นคงจะกร่อยกว่านี้เป็นแน่
ชีวิตที่โปรตุเกส แม้จะไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก เพราะวัฒนธรรมและภาษานั้นคล้ายคลึงกับบราซิล ทุกกระบิ ทว่าสิ่งที่ แดร์เลย์ ไม่สามารถทำได้คือการเบียดแย่งตัวจริงกับ โชนาส อีกหนึ่งศูนย์หน้าตัวเป้าเพื่อนร่วมชาติที่ย้ายมาพร้อมๆ กันจาก บาเลนเซีย
แดร์เลย์ ต้องตกเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้ง สวนทางกับ โชนาส ที่ได้รับโอากาสมากกว่า และก็ทำได้เสมอ
ฤดูกาล 2014-15 เบนฟิก้า สามารถป้องกันแชมป์ลีกได้สำเร็จ พ่วงด้วยถ้วย ลีก คัพ อีกหนึ่งใบเป็นเกียรติยศให้กับ แดร์เลย์ แต่ผลงานส่วนตัวของเขาดร็อปลงไปมากเมื่อเทียบกับตอนที่ยิงกระจุยให้ มาร์ติโม
เขาทำได้เพียง 2 ประตู จากการลงเล่น 27 เกม ซึ่งส่วนใหญ่ลงมาในฐานะตัวสำรองเสียด้วย
พอผลงานไม่เป็นไปดั่งหวัง แดร์เลย์ จึงถูกปล่อยไปให้ เคย์เซริสปอร์ ทีมในลีกตุรกี ใช้งานในรูปแบบของการยืมตัวในฤดูกาล 2015-16 แต่ที่นั่นก็ไม่โสภานัก เพราะยิงได้เพียง 5 ประตู จาก 23 เกม ยังดีที่มีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมไม่ตกชั้นสู่ ดิวิชั่น 2
ชีพจรของ แดร์เลย์ ลงเท้าอีกหน เพราะที่ เบนฟิก้า นั้น โชนาส ยังถล่มประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ความสำคัญของเขาจึงถูกลืมเลือน และซีซั่น 2016-17 ก็เป็นอีกครั้งที่ถูกปล่อยยืมตัว คราวนี้ถูกส่งไปที่ เชียปาส สโมสรในลีกเม็กซิโก
ความมั่นใจของ แดร์เลย์ ดูจะเหือดหายไปเยอะ เพราะที่เม็กซิโก เขาเองก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร และทำให้กลายเป็นนักเตะ 'ฟรีเอเยนต์' เมื่อสัญญากับ เบนฟิก้า หมดลงในปี 2017
อาเวส หนึ่งในทีมระดับกลางๆ ของ โปรตุกีสลีก คือทีมที่มาคว้าตัวเขาเมื่อเป็นฟรีเอเยนต์ แต่ก็เหมือนเดิม ผลงานของ แดร์เลย์ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทว่าก็ได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอและอยู่ยาวถึง 2 ซีซั่น
กระทั่งเลกที่สองของ ไทยลีก ซีซั่น 2019 จากการแนะนำของ กามา ซึ่งขณะนั้นยังเป็นกุนซือของ เมืองทอง ได้ดึงตัว แดร์เลย์ มาหาความท้าทายใหม่ในเมืองไทย พร้อมกับ บรูโน่ กัลโล่ เพื่อนร่วมชาติ และก็เป็นกำลังหลักให้กิเลนผยองนับตั้งแต่บัดนั้น
การย้ายออกไปของ เฮแบร์ตี้ ในฤดูกาล 2020-21 ทำให้บทบาทของ แดร์เลย์ เด่นชัดขึ้นมาก เขาคือความหวังสูงสุดในการทำประตูของ เมืองทอง และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อส่งบอลสู่ก้นตาข่ายไปแล้ว 9 ลูก เป็นรองเพียง เดนนิส มูริลโล่ (11 ประตู), วิคตอร์ คาร์โดโซ่, บาร์รอส ทาร์เดลลี่ และ จอห์น บาจโจ้ (10 ประตู) เท่านั้น
จุดเด่นของหัวหอกวัย 33 ปี คือความแข็งแกร่ง เพราะไม่ว่าจะลูกภาคพื้นหรือกลางอากาศ เขาสามารถเบียดแย่งและบังบอลได้ชนิดที่คู่ต่อสู้เข้ามาแย่งได้ยาก
หากเขายังสามารถรักษามาตรฐานไว้ได้แบบนี้ต่อ เชื่อว่า เมืองทอง จะได้ประโยชน์จาก แดร์เลย์ อีกมากมาย
แต่ปลายทางจะถึง 'แชมป์' หรือเปล่านั้น เรื่องนี้คงต้องดูกันยาวๆ
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา