20 ม.ค. 2021 เวลา 13:41 • ไลฟ์สไตล์
"ไตวาย ไร้สติ และมะม๊าที่จากไป"
โพสต์นี้หนูจะมาเล่าถึงอาการไม่มีสติของหนูระหว่าง
ที่ไตกำลังวายค่ะ นอกจากนั้นในวันเดียวกัน
นั้นเองที่หนูได้เสียคุณแม่สุดที่รักไป
เกริ่นก่อนว่าคุณแม่ของหนู ตลอดปี 62-63 ที่ผ่านมา
แกเองต่อสู้กับโรค "มะเร็งต่อมน้ำเหลือง" ระยะสุดท้าย
วาระสุดท้ายของแกคือ 10 ธันวาคม 63 ที่ผ่านมาค่ะ
และใช่ค่ะ วันที่ 10 ธันวาฯ คือวันเดียวกับที่หนูแอดมิท
และทราบว่าตัวเองไตวาย
ช่วงเช้าของวันที่ 9 ธันวาฯ หนูได้รับสายจากแฟนของ
คุณแม่ ว่าคุณแม่ทรุดลง ตอนนี้อยู่รพ.และต้องใช้
เครื่องช่วยหายใจ หนูเองหลังจากวางสาย พยายาม
พยุงสติและร่างกายตัวเองไปหาแม่ที่รพ. แต่ยากมากๆ
เนื่องด้วยช่วงนั้น หนูเกิดอาการไตวาย
(แต่ตอนนั้นยังไม่ทราบค่ะว่าไตวาย นึกว่าแค่ไม่สบาย)
จู่ๆหนูก็กลายเป็นคนที่ คิดช้า ทำอะไรช้า มึน งง
พิมพ์ พูด ไม่รู้เรื่องเลย ถ้าจะให้บรรยายละก็
ถ้าเป็นคนปกติ โดนถามว่า "กินข้าวหรือยัง?"
คนทั่วไปก็คงจะตอบได้ทันที แต่ถ้าถามหนูตอนนั้นละก็
หนูรู้เรื่องนะ เข้าใจด้วยว่าใครพูดอะไรด้วย แต่หนูคิดคำตอบ
ไม่ออก คิดช้า หนูจะแบบ เอ่อ...อ่า..กินแล้วค่ะ
เวลาใครพูดด้วยจะเหมือนวิญญาณมากๆ
วันนั้นหลังจากที่วางสาย หนูพยุงตัวเองลุกขึ้น
เปลี่ยนเสื้อผ้า เรียกแกร๊บไปรพ.
รู้ไหมคะว่าหนูไปรพ.ด้วยสภาพแบบไหน?
หนูหนีบรองเท้าผ้าที่ไว้ใส่ในบ้าน ขึ้นแกร๊บ ลืมแมส ไปรพ.
เดินหายใจหอบ เหนื่อย ขึ้นลิฟต์ไปห้องที่แม่นอน
ระหว่างที่ยืนอยู่ในลิฟต์ ผู้ช่วยพยาบาลถามหนู
"มาแต่ไหนนิน้อง เหนื่อยมั้ย เหนื่อยมากเลยนิ"
(ภาษาใต้นะคะ หนูอาศัยอยู่จ.ตรัง)
หนูพึ่งรู้ตัวเอง ว่าตอนนั้นใส่รองเท้าอยู่บ้านมารพ.
แถมลืมแมส ช่วงโควิดแบบนี้ แต่ลืมแมส ไร้สติมากๆ
พอเข้าวันที่ 10 ธันวาฯ สุดท้าย คุณแม่หนูก็จากไปช่วง
เที่ยงของวันนั้นเอง และพอๆกับอาการไตวายของหนู
หนักขึ้นเรื่อยๆ หนูพูดไม่ไหว เดินเหมือนวิญญาณ
ตอนอยู่ข้างเตียงแม่ หนูทำได้แค่นั่งจับมือแม่เฉยๆ
หนูเสียใจนะ ก็รู้ทั้งรู้ว่าแม่เราไม่ไหว กำลังจะจากไปแล้ว
แต่ ณ ตอนนั้นหนูเองทรมานมาก นั่งอยู่เฉยๆแต่เหนื่อยไปหมด
ปวดหล้ง อยากนอน อยากเอนหลัง
หนูมารู้ทีหลังว่า ตอนนั้นพี่ชายหนูโกรธหนูมาก
ที่หนูไม่พูดอะไรกับแม่เลย แค่นั่งจับมือเฉยๆ
(ก็นางไม่รู้ว่าหนูเป็นหนักจริงๆ 5555)
พอแม่จากไป ครอบครัวและญาติๆก็วุ่นอยู่กับพิธีต่างๆ
ที่ต้องจัดการ เข็ญร่างแม่ออกจากวอร์ดช่วงบ่ายสาม
หนูเองก็ไปร่วมด้วยทุกกิจกรรมทั้งๆที่สภาพแบบนั้นแหละ
พอตอนอยู่วัด หนูได้แต่ยืนงง เบลอ นั่งลอยๆ
มีอาการปวดท้องเป็นพักๆ ทรมานตลอดงาน
และหนูมารู้ทีหลังว่า หล่าญาติๆนินทาว่าหนู
"ติดยา,แอบใช้ยาทำแท้ง"
1
wtf 555555555 เอาจริงๆให้หนูติดยายังดีกว่านะ
อย่างน้อยก็บำบัดเลิกได้ นี่เป็นไตเลิกไม่ได้นะคะ 5555
แต่เอาเถอะ ตอนนั้นมันไม่มีใครรู้จริงๆว่าหนูเป็นอะไร
ปากคนแก่ก็แบบนี้ ก็ขำๆไป
1
สุดท้ายครอบครัวหนูเล็งเห็นแล้วว่าหนูหนักและไม่ไหว
เลยลากไปแอดมิทช่วงทุ่มกว่า อย่างโพสต์ที่ผ่านมาค่ะ
หนูอยู่ในห้องฉุกเฉินร่วม 5 ชม.
หนูเองตอนอยู่ในนั้นไม่รู้วันเวลาหรอก
พี่หนูบอกว่าเข้าไปทุ่ม ออกมาเที่ยงคืน
ตอนซักประวัติ หนูตอบคำถามพยาบาลแบบงงๆ
พี่หนูต้องคอยบอกให้เอง ประมาณว่า จู่ๆน้องก็
พูดไม่รู้เรื่อง ใครถามอะไรก็ต้องย้ำ คิดช้า เบลอ
พยาบาลงงเป็นแถบ หนูเกือบโดนส่งไปพบจิตแพทย์แล้ว เพราะเขาคิดว่าหนูโดนทำร้ายกักขังหน่วงเหนี่ยว 5555555
พยาบาลต้องจับหนู กับพี่แยกกันให้ตอบคำถาม
เพราะเขากลัวหนูโกหก ซึ่งกว่าหนูจะตอบได้ ก็ลำบากอยู่
สุดท้ายแล้วผลตรวจเลือดออกมาค่าไตไม่ดี
หนูได้นอนวอร์ดเดียวกับแม่เลยค่ะ พยาบาลบนวอร์ด
จำหนูได้ทุกคน แหะๆ
2
เข็ญร่างแม่ออกจากวอร์ดบ่ายสาม
และเข็ญหนูกลับเข้ามาตอนเที่ยงคืน ตลกร้ายจริงๆ
1
โพสต์นี้รู้สึกว่าจะยาวไปหน่อย อย่าพึ่งเบื่อนะคะ
แรกๆดราม่าหน่อย แต่หลังๆจะเริ่มเฮฮาแล้ว
เพราะตอนนี้หนูดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ หัวเราะได้ กินข้าวอร่อย
แต่ที่ยังเศร้าอยู่หน่อยๆคือคิดถึงแม่แค่นั้นเอง
หนูชอบเรียกคุณแม่ว่า "ยัยโล้นซ่า" 55555555
หนูเองมีคุณแม่ที่ คุยได้ทุกเรื่อง เหมือนมีแม่เป็นเพื่อน
แกเป็นคนเล่นโซเชี่ยล เวลาหนูอยู่คนละบ้านกับแก
หนูจะคุยแชทกับแกตลอด เวลาหนูเป็นอะไร หนูมักจะ
บอกแก หลังจากแกไม่อยู่ แล้วรู้ว่าตัวเองเป็นไต
หนูไม่รู้จะไปร้องไห้กับใคร ไม่รู้จะพิมพ์ไปบอกใคร
ทุกอย่างมันว่างเปล่าไปหมด หนูต้องคอยย้ำตัวเองทุกวัน
ว่าแกไม่อยู่แล้วจริงๆ
แด่มะม๊าคนสวยของหนู🖤 10 ธันวาคม 63.
โฆษณา