20 ม.ค. 2021 เวลา 14:38 • การเกษตร
มูซานคิง ทุเรียนแห่งอนาคตหรือแค่กระแส ?
มีกระแสทุเรียนมูซานคิงจากสื่อในโซเชียลมา จนมีหลายคนมาถามว่า พี่ควาย จริงๆแล้วเนี่ยทุเรียนมูซานคิงมันน่าปลูกและมีอนาคตเหมือนที่เค้าพูดไหมพี่
ซึ่งส่วนตัวทางเพจควายดำทำเกษตร เคยเขียนเรื่องทุเรียนมูซานคิงไว้ตั้งแต่สองปีก่อน เลยไปนั่งย้อนอ่านแล้วหาข้อมูลเพิ่มเติมจากคนที่ปลูกจริงเอามาให้ลูกเพจได้อ่านกัน
ถามว่ามูซานคิงมีอนาคตไหม ต้องบอกตรงๆว่า มีครับ
แต่อย่าเพิ่งใจร้อนอยากปลูกหรือคนที่ปลูกหมอนทองจะมาดรามาใส่ควายดำว่าจะมาปั่นกระแสให้มูซานคิง
แต่จากการติดตามข้อมูลในเชิงลึกทั้งเรื่องรสชาติ ลักษณะพันธุ์ รวมถึงการทำตลาดของมาเลเซียที่เป็นประเทศที่เอามูซานคิงไปเป็นตัวชูธงในการทำตลาดทุเรียนทั้งในจีนและประเทศอื่นๆ จะปฎิเสธได้ว่ามันไม่มีอนาคตเลยคงไม่ได้
งั้นก่อนจะปลูกมาอ่านลักษณะของมันกันก่อนว่ามันมีลักษณะแตกต่างจากหมอนทองของเราอย่างไรบ้าง
มูซานคิง ราชาทุเรียนมาเลเซีย (ที่เค้าตั้งให้นะ ) มีต้นกำเนิดจากมาเลเซีย แต่มีคนให้ข้อมูลอีกด้านมาว่า จริงๆแล้วมันคือ ทุเรียนไทยที่ถูกอังกฤษ ปล้นไปให้มาเลย์เพราะขึ้นในแผ่นดินไทยเดิมๆในดินแดนนั้นทุกวันนี้ ยังมีคนไทยพลัดถิ่นอาสัยอยู่เยอะมาก ซึ่งสันนิษฐานเองนะว่าน่าจะแถวๆ ยะลา ปัตตานี แถบนี้เองก็มีทุเรียนสายพันธุ์ท้องถิ่นเหมือนกัน
ทีนี้มาดูลักษณะของทุเรียนมูซานคิงกันว่ามีลักษณะเฉพาะอย่างไรบ้าง
ทุเรียนมูซานคิง จะมีลักษณะ เมล็ดลีบ เนื้อมีฟิมล์หุ้มหนา เนื้อแป้งครีมแน่นและเหนียวมาก รสชาติเข้มข้น ติดขมอ่อนๆที่โคนลิ้น แต่คำที่ 2 จะไม่ขมแล้ว เนื้อคงตัวดีมาก หลังจากสุกแล้วไม่เละ ต้นแข็งแรง โยงกิ่งน้อย มีการอายุเก็บเกี่ยว 90-95 วัน ซึ่งมีข้อดีคือไม่ตีกับตลาดหมอนทองที่มีอายุการเก็บเกี่ยว 120 วัน
ทีนี้มาดูข้อเสียของมันบ้างว่าถ้าจะปลูกต้องเจอปัญหาอะไร
มูซานคิง อ่อนไหวต่อใบอ่อน ในต้นสาวๆ แบบหมอนทอง และหลงลับแล เพราะเป็นทุเรียนเมล็ดลีบไปแย่งอาหารกับใบไม่ไหว ต่างกับพวงมณี หรือ กระดุม ที่รับมือใบอ่อนได้ง่ายเพราะเมล็ดใหญ่ ตูดแตกง่าย หล่นสุก 1 คืน ตูดเริ่มแตก แต่มีการจัดการได้ถ้าเข้าใจ
แต่มูซานคิง ไม่ชอบที่แฉะ โตช้ากว่าหมอน กิ่งถี่ กิ่งตั้ง กิ่งข้างอยากจะเป็นกิ่งยอดอยู่ตลอดเวลา อย่างอื่นก็ทั่วๆไป จัดการเหมือนหมอนทอง แต่ที่เจอยังไม่เจอต้นเน่าด้วยไฟทอปเหมือนหมอน แต่ก็ไม่ได้ทนเพลี้ยทนไรแดง ต้องดูแลเหมือนกัน และต้องแต่งกิ่งบ่อยๆ ไม่งั้นจะโตช้า และเมื่อเทียบกับหมอนทองในอายุเท่ากัน มูซานคิงจะโตช้ากว่าหมอนทอง
ส่วนเรื่องการตลาด ตลาดต่างประเทศรองรับแน่นอน ตอนนี้ทางสิงคโปร์รับ 100 % ถ้าพร้อมและมีของก่อน เพราะตอนนี้หาทุเรียนผลสดของไทยแทบไม่มี และทางจีนเองก็รู้จักมูซานคิงผ่านการทำตลาดเชิงลุกของมาเลเซีย
มาเลเซียชูธงมูซานคิงและมีการเข้าไปทำตลาดในจีนในเชิงรุก แต่ถ้าว่ากันตรงๆแบบไม่เข้าข้างตัวเอง ถ้าเราปลูกกันแบบจริงจัง มาเลเซียเองก็กลัวเราเหมือนกันเพราะถ้าว่ากันด้วยเรื่องระบบการจัดการสวนของเราค่อนข้างดีกว่าของเค้าเยอะ แต่การตลาดเค้าทำดีกว่าแค่นั้น
มาเข้าเรื่องของรสชาติ อันนี้บอกก่อนว่าเขียนจากการชิมเอง ซื้อเอง จ่ายเงินเอง ไม่ได้มีคนมาให้กินฟรีแต่อย่างไร
หลังจากผ่ามาแล้ว กัดไปคำแรก ขม (แต่ไม่ได้ตกใจอะไรเพราะเจ้าของสวนบอกแล้วว่าจะขมคำแรก) พอกัดคำต่อไป มีรสมัน หวาน หอม เข้มข้นมาก รสจัด เนื้อเหมือนครีมข้นๆเหนียวๆ ไม่มีเสี้ยน เนื้อเยอะ เม็ดลีบ กินไปเรื่อยๆ อร่อยวะ มันเหมือนทุเรียนกวนนุ่มๆ เด้งสู้ลิ้น รสชาติมันกลมกล่ม อร่อยจริงวะ ไม่เสียดายเงินที่ซื้อมาชิมเลย บางคนบอกต้องกินเละๆจะอร่อย แต่ว่าระยะนี้ชอบมาก มันมีรสสัมผัสกำลังดีสำหรับควายดำนะ และที่ชอบส่วนตัวเลยคือเป็นทุเรียนที่ระยะคงรูปหลังจากผ่ามาแล้วอยู่ได้หลายวัน และสุกจัดๆยังกินได้ ไม่เละ ไม่เป็นปลาร้า ต่างจากพันธุ์อื่นๆที่เคยกิน
แต่ถามว่าชอบที่สุดไหม ส่วนตัวยังให้ กบพิกุล เป็นทุเรียนที่อร่อยที่สุดในใจของควายดำนะจากที่ชิมมาหลายๆพันธุ์ คือชอบแบบไม่มีที่ติเลย ถ้าว่าด้วยเรื่องของรสชาติอย่างเดียว
มาสรุปข้อดี-ข้อด้อย ของทุเรียนมูซานคิง
ข้อดี
- ระยะเวลาคงรูปของเนื้อนานมาก ตูดแตกแล้วยังไม่เละ รสชาติอร่อย
- ตลาดขยายกว้างขึ้นจากการทำตลาดของมาเลเซีย ในอนาคตถ้าปลูกกันเยอะ มีตลาดรับรอง
-เป็นทุเรียนพันธุ์เบา 90-95 วันตัดได้ เหมาะปลูกแซมกับหมอนทองเพราะช่วงเวลาไม่ชนกัน อารมณ์เหมือนปลูก กระดุม พวงมณี ที่เอาไว้ตัดก่อนเอาค่าปุ๋ย ค่ายา
-ทนโรคไฟท๊อปมากกว่าหมอนทอง
ข้อเสีย
-กิ่งพันธุ์ยังมีราคาแพง การลงทุนยังสูง
-โตช้า ต้องดูแลเอาใจใส่มากกว่าหมอนทอง แต่งกิ่งบ่อย เห็นคนที่ปลูกบางคนบอกติดลูกยากด้วย
-การรับซื้อในประเทศยังไม่มาก ซื้อเป็นบางล้งที่มีตลาดเท่านั้น
-คู่แข่งคือมาเลเซีย ทำตลาดเชิงรุก ต้องไปแข่งขันกับมาเลเซีย แต่ข้อดีคือเรามีหมอนทองเป็นเรือธงอยู่แล้ว ถ้าไปเสริมได้คิดว่าน่าจะดี
น่าจะประมาณนี้เรื่องของทุเรียนมูซานคิง อ่านแล้วก็ตัดสินใจกันเอง ไม่ต้องมาดรามาใส่ควายดำ เพราะเขียนจากข้อมูลจริงทั้งคนปลูก ทั้งการตลาดของมาเลเซียเท่าที่รู้ และจากการชิมด้วยตัวเอง
ส่วนใครจะชอบพันธุ์อะไร คิดว่าพันธุ์นู้นอร่อยกว่า พันธุ์นั้นอร่อยกว่า อันนี้เป็นเรื่องของรสนิยมส่วนตัว ไม่ดรามากันนะจ๊ะ นะจ๊ะ
ส่วนคำตอบที่ว่า มูซานคิง มีอนาคตไหม ก็บอกว่าวันนี้ยังมีอนาคต อ่านข้อดี ข้อเสีย แล้วก็ตัดสินใจเอง
การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนการลงทุน
ด้วยรักจากควายดำทำเกษตร เพจเกษตรอันดับหนึ่งในจักรวาล
โฆษณา