21 ม.ค. 2021 เวลา 02:05 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
• in to the wild • เข้าป่าหาชีวิต 🚶🏻‍♂️🪵🍃
(มีพี่ชายคนนึง มาคอมเม้นในโพสของเพจว่าอยากให้นำหนังแนวเข้าป่าหาชีวิตมาโพสแนะนำ อายนึกถึงเรื่องไหนไม่ได้เลยจริมๆ 🌳เพราะเรื่องนี้ตรงคอนเซ็ปเป๊ะๆ เลยละฮะ สำหรับใครที่ไม่เคยดูลองอ่านบทความนี้ดูนะคะ )
Into The Wild สร้างจากเรื่องจริงของ...
" คริสโตเฟอร์ แมคแคนเดิลส์ "
ทำออกมาเป็นหนังสือ อายยังไม่มีโอกาสได้อ่านแต่เคยดูหนังมาเมื่อนานแล้วฮะ ตัวหนังค่อนข้างเรียบๆเรื่อยๆไม่ได้มีแอ็คชั่น แต่พอมีฉากให้เราได้ตื่นเต้นกันบ้าง โทนของหนังค่อนข้างนิ่ง มีการย้อนไปมาระหว่าง ปัจจุบันและอดีต ต้องตั้งใจดูกันเลยละฮะ 🤓 ใครที่อยากดูหนังตื่นเต้นอาจจะเลิกดูกลางคันไปซะก่อน แต่พอลองคิดเล่นๆ โทนหนังไม่ได้ชวนระทึกอะไร แต่อย่าลืมว่านี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง! พอคิดว่าถ้าเป็นตัวเราเจออะไรแบบนี้ ก็ตื่นเต้นและหวาดกลัวอยู่เหมือนกันนะเนี่ย..
เป็นเรื่องราวของ คริส แม็คแคนด์ เลสส์ ชายหนุ่มวัย 22 ปี ที่เพิ่งจบมหาลัยหมาดๆ แอตแลนตาเป็นเมืองจุดเริ่มต้นของเขา คริส แม็คแคนด์เลสส์เคยวาดฝันมานานถึงการเปลี่ยนแปลงโลก การไปใช้ชีวิตรูปแบบอื่นที่แตกต่างจากพ่อแม่ อยากก้าวออกจากสังคมชีวิตทุนนิยม.. ก่อนตัดสินใจออกเดินทางเขานำเงินเก็บทั้งหมดบริจาคให้องค์กรเพื่อสังคมและไม่เขียนจดหมายลาคนในครอบครัว
คริสไม่บอกกล่าวใครถึงอุดมการที่เขาตั้งใจเอาไว้.
จุดมุ่งหมายที่เขาอยากไปให้ได้คือ อลาสก้า❄️
คริส เขียนบันทึกการเดินทาง ถ่ายภาพกับผู้คนที่เข้าพบเจอ สถานที่ต่างๆในระหว่างการเดินทางของเขา และยังมีภาพที่คริสจุดไฟเผาเงินของเขาด้วยหล่ะ!! เขาตัดบัตรประจำตัวทุกอย่างทิ้งไป เพื่อใช้ชื่อใหม่ว่า "อเล็กซานเดอร์ ซูเปอร์แทรมป์ "
บนเส้นทางการผจญภัย แม็คแคนด์เลสส์พบเจอนักเดินทาง บุปผาชน และชาวนาชาวไร่ เขาโบกรถ กระโดดลงบนหลังคารถไฟที่กำลังแล่น พายเรือแคนูจากแม่น้ำไปสู่ท้องทะเล ต้องเผชิญกับอันตรายถึงชีวิตหลายต่อหลายครั้ง เขากลับเข้าไปพักในเมืองไม่กี่สัปดาห์ เพื่อทำงานในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด หาเงินซื้อของที่จำเป็นระหว่างเดินทางของเขา🍟และก็ออกมาโบกรถ เพื่อผจญภัยอีกครั้ง
แม็คแคนด์เลสส์ใช้เวลากว่าสองปีเพื่อไปถึงอลาสกา ❄️ เขาคาดหวังว่าธรรมชาติป่าที่นั่นจะทำให้เขาค้นพบชีวิตแบบบริสุทธิ์และดั้งเดิม การเอาตัวรอดในภูมิประเทศเวิ้งว้างและทุรกันดาร🏔
สำหรับคริส แล้วนับเป็นเรื่องยากกว่าที่คิดแฮะ!
บ่อยครั้งเขาต้องอดอยาก ร่างกายของเขาซูบผอมลงอย่างรวดเร็ว🧔🏻เขาใช้ชีวิตในรถบัสสีเขียวที่พบเจออยู่ในป่าอลาสก้า กระทั่งเมื่ออาหารที่พกพามาด้วยใกล้หมดเต็มที หนุ่มนักผจญภัยก็เริ่มใจคอไม่ดี เขาตัดสินใจที่จะผละออกจากซากรถบัส และเดินทางกลับเข้าสู่เมือง 🏘สภาพภูมิประเทศในฤดูหนาวจะปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็งเขาเดินข้ามแม่น้ำมาอย่างสบาย แต่ในฤดูร้อนมันคือแม่น้ำสายเชี่ยวที่กั้นขวางเอาไว้ คริสไม่สามารถข้ามผ่านแม่น้ำนั้นไปได้ มันเป็นอุปสรรคของเขาอย่างมาก 🌊🌪เขาต้องย้อนกลับไปที่ซากรถบัสที่พักอย่างผู้แพ้ และเขียนระบายลงในสมุดบันทึก…
วันที่ 30 กรกฎาคม 1992 คริสเขียนบันทึกเอาไว้ “รู้สึกหมดแรง คงเพราะเมล็ดมันฝรั่ง แทบยืนไม่ไหวแล้ว หิว ถึงขีดสุดของอันตราย”
และในอีกหกวันถัดมา เขาบันทึกว่า “ครบร้อยวัน! สำเร็จแล้ว! แต่ไร้เรี่ยวแรงเหมือนคนใกล้ตาย ไม่น่าเชื่อ อ่อนแรงเกินกว่าจะออกไปจากที่นี่ ติดกับดัก”
วันที่ 18 สิงหาคม…133 วันของการเดินป่า แม็คแคนด์เลสส์ยุติการบันทึก
เดือนกันยายน 1992 น้ำหนักตัวของเขาเหลือเพียง 33 กิโลกรัม ภาพสุดท้ายบนแผ่นฟิล์มเป็นภาพแม็คแคนด์เลสส์โบกมือให้กับกล้อง ผมเผ้ากระเซิง ร่างกายซูบผอม เขายิ้ม ส่งข่าวเป็นข้อความสุดท้ายในกล้อง…
“ที่ผ่านมาผมมีชีวิตที่มีความสุข และรู้สึกขอบคุณพระเจ้าสุดหัวใจ ลาก่อน และขอพระเจ้าอวยพรทุกคน!”
แม้การออกเดินทางตามหาความหมายครั้งนี้จะจบลงด้วยการแลกชีวิตของเขา แต่อย่างน้อย คริส ก็ได้ทำตามเป้าหมายของชีวิตสูงสุดที่เขาตั้งเอาไว้แล้ว 🍂 ชีวิตที่แตกต่าง การผจญภัยที่เกินคาด...
มันทำให้เขาสามารถจากโลกนี้ไปได้อย่างสุขสงบ
แม้หลายๆคนอาจไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาทำและคิดว่าโง่เขลาเหลือเกิน ตรงข้ามกับบรรดาสาวกของแม็คแคนด์เลสส์ ที่ยกย่องเขาเป็นวีรบุรุษ
ที่แสวงหาอารยธรรมดั้งเดิมของความเป็นอเมริกัน พวกเขาชื่นชมในอุดมการณ์และความมุ่งมั่นของเขา
คะแนน 8.5/10
ไม่ใช่หนังการเดินทางที่สนุกซักเท่าไหร่ แอบเบื่อไปบ้าง แต่ระหว่างทางให้ข้อคิดเรามากมายเลยละฮะ มีคำคมเล็กๆน้อยๆอยู่ในเรื่องราวของหนังให้เราได้เก็บไปคิดตาม 😇
#เพื่อนมาแสดงความคิดเห็นกันเลยฮะ
ใครเคยดูหรืออยากลองดู มาคุยกัน
ติชมแนะนำ จะนำไปปรับปรุง🎞🎬📽
โฆษณา