ก่อนวิชาแพทย์จะเป็นวิยาศาสตร์
ตอนที่ 3 : ฮิปโปคราตีสบิดาของวิชาแพทย์ตะวันตก
ตอนที่ 3
10.
ฮิปโปคราตีสเกิดเมื่อประมาณ 460 ปีก่อนคริสต์ศักราช ตัวของฮิปโปคราตีสเป็นลูกของหมอของหมอของหมอแล้วก็ของหมอ
ฮิปโปคราตีส
เกร็ดความรู้ : ในสมัยนั้นวิชาแพทย์จะออกแนวอุตสาหกรรมในครัวเรือน รับช่วงต่อกันเรื่อยๆ
และตำนานเล่าว่า ฮิปโปคราตีส สืบเชื่อสายตรงจาก อัสคลิปิอุส
เล่าเรื่องขั้นเวลา
อัสคลิปิอุส เป็นลูกของเทพอพอลโล (เทพแห่งการรักษา) กับ นางไม้ชื่อโคโรนิส แต่นางไม้ดันไปมีชู้กับมนุษย์ เทพอพอลโลเลยจัดการฆ่านางไม้แล้วนำ อัสคลิปิอุสที่อยู่ในท้องออกมา แล้วก็เอาไปฝากให้กับเซนทอร์ (ครึ่งคนครึ่งม้า) ชื่อไครอนเลี้ยง
พอโตขึ้นด้วยความที่เป็นลูกของเทพแห่งการรักษาและได้อาจารย์ดี อัสคลิปิอุส จึงมีความสามารถด้านการรักษาที่สูงมาก แม้แต่คนตายก็ยังช่วยให้ฟื้นได้
เทพอพอลโล่นำอัสคลิปิอุสไปฝากไครอนเลี้ยง
ฮิปโปคราตีสเกิดมาในครอบครัวหมอแบบ Askepion (อัสเคลไพออน) วิชาแพทย์ที่เรียนมาจึงเป็นแบบ Askepion
เล่าเรื่องขั้นเวลา
Askepion หมายถึง วิหารที่ใช้รักษาคนป่วย พบได้ทั่วไปในประเทศกรีกสมัยโบราณ
Askepion
เมื่อมาถึง Askepion จะเจอนักบวช การรักษาจะแบ่งเป็น 2 ระยะ
ระยะแรก : คุณต้องชำระล้างร่างกาย จิตใจ และวิญาณ เช่น อาบน้ำ กินคลีน สวดมนต์
ระยะสอง : นักบวชจะให้นอนที่วิหาร 1คืน ถ้าโชคดี อัสคลิปิอุสจะมารักษาในฝันหรือไม่ก็ทำให้คุณฝัน พอตื่นมาคุณก็เล่าให้นักบวชฟังแล้วนักบวชจะไปตีความว่าต้องทำอะไรถึงจะหายป่วย
แต่ฮิปโปคราตีสไม่ได้ทำการรักษาแบบ Askepion เขามีวิธีการรักษาแบบเขาเองนั้นคือ เขาจะจดบันทึกรายละเอียดต่างๆของโรค จดบันทึกแบบวันต่อวัน เช่น เช้านี้ผู้ป่วยหายใจยังไง ถ่ายยังไง อุจจาระสีอะไร เป็นต้น ฮิปโปรคราติสทำถึงขนาดชิมปัสวะของผู้ป่วยบางคนด้วย
เมื่อเขาจดบันทึกมาก เห็นผู้ป่วยมาก ประสบการณ์ก็มากขึ้นตาม ถึงจุดหนึ่งเขาเริ่มมองออกว่าความเจ็บป่วยจริงๆแล้วเป็นสภาวะธรรมชาติประเภหนึ่ง
เขาไม่เชื่อว่าความเจ็บป่วยเกิดขึ้นมาจากพลังเหนือธรรมชาติ สาเหตุการป่วยซ่อนอยู่ในธรรมชาติที่มนุษย์ทั่วไปเข้าถึงได้
การรักษาของฮิปโปคราตีส
เมื่อฮิปโปคราตีสเจอผู้ป่วย สิ่งแรกที่เขาให้ผู้ป่วยทำไม่ใช่บอกให้ไปอาบน้ำแต่เป็นการถามคำถามให้ผู้ป่วยเล่าอาการให้ฟังว่าเป็นมายังไง
เมื่อถามจนพอใจแล้ว เขาจะตรวจร่างกายโดยเน้นไปที่สารคัดหลั่งต่างๆ เช่น เหงื่อออกไหม ไอมีเสมหะหรือไม่ เสมหะสีอะไร ฯลฯ คือให้ความสำคัญกับของเหลวต่างๆมากกว่าส่วนที่เป็นเนื้อ เช่น กระเพาะ ม้าน ปอด
และฮิปโปคราตีสยังให้ความสำคัญกับผู้ป่วยมาก การรักษาจะไม่ใช่แค่การเจอกันระหว่างคนแปลกหน้า แต่จะเป็นการทำความรู้จักกันอย่างจริงจังระหว่างหมอกับผู้ป่วย หมอที่จบจากสำนักฮิปโปคราตีสส่วนใหญ่จะเดินทางไปรักษาผู้ป่วยทีบ้าน ดังนั้นหมอจะเข้าใจสภาพความเป็นอยู่และสภาพแวดล้อมของผู้ป่วยเป็นอย่างดี
11.
ฮิปโปคราตีส ได้ยกระดับวิชาชีพแพทย์ให้มีความน่าเชื่อถือและมีเกียรติ เพราะในยุคนั้นมีคนอ้างตัวว่าเป็นนักบำบัดรักษาคนป่วยมากมาย เพราะไม่มีกฎหมายควบคุมทำให้ใครจะอ้างตัวเป็นหมอก็ได้
ลูกศิษย์ของฮิปโปคราตีสจะเริ่มต้นการเข้ามาเป็นนักเรียนด้วยการสาบานต่อเทพอพอลโล่ ต่ออัสคลิปิอุสและเทพเจ้าอื่นๆ ว่าจะเป็นหมอที่ไม่เอาเปรียบผู้ป่วย และฮิปโปคราตีสยังกำหนดมาตรฐานคนที่จะมาเป็นหมอว่า จะต้องเป็นคนที่ได้รับการศีกษาที่ดีมาตั้งแต่เด็ก ผิวต้องดูสะอาด ร่างกายสะอาด แต่งกายดีแต่ห้ามหรูหรา ใส่น้ำหอมแต่พอดีกลิ่นหอมจางๆ แต่ไม่มากจนคนอื่นรู้ว่าใส่น้ำหอม บุคลิกต้องต้องสงบเสงี่ยม สุขุม ไม่หัวเราะมากเกินไป การนั่ง การพูด การแสดงออกทางสีหน้าต้องดูหน้าเชื่อถือ เมื่อมีปัญหาต้องไม่แสดงออกทางสีหน้าให้ผู้ป่วยเห็น
ทฤษฎีของฮิปโปคราตีสเชื่อว่า ร่างกายของเราประกอบด้วยของเหลว 4 สี 4 อย่างได้แก่ เสมหะ น้ำดีสีเหลือง น้ำดีสีดำ และเลือด ของเหลว 4 อย่างนี้จะต้องผสมผสานกันอย่างสมดุล ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงสมดุลไปร่างกายก็จะเจ็บป่วย
แต่สมดุลภายในยังไม่พอ สมดุลภายในจะทำงานร่วมสมดุลภายนอกด้วย คือ สมดุลที่เป็นสากลของโลก ได้แก่ เปียก แห้ง หนาว ร้อน
ฮิปโปคราตีส มองว่า สุขภาพของเราเกิดมาจากการบรรจบระหว่างสมดุลของโลกภายใน (ของเหลวทั้ง4) และสมดุลของโลกภายนอก (เปียก แห้ง หนาว ร้อน) และฮิปโปคราตีสไม่พูดถึงอวัยวะภายใน ด้วยเหตุนี้เองการผ่าร่างกายมนุษย์เพื่อศึกษาจึงไม่จำเป็นสำหรับวิชาแพทย์ในแบบฮิปโปคราตีส
12.
หมอฮิปโปคราตีสมองว่าเป้าหมายของการรักษาโรคมีอยู่ 2 อย่าง คือ
1 : ช่วยให้ร่างกายกลับเข้าสู่สมดุลได้ง่ายขึ้น
2 : อย่าไปยุ่งหรือรบกวนกระบวนการของร่างกาย
การวินิจฉัยโรคของหมอฮิปโปคราตีสจะเน้นถามอาการว่าเป็นไปในทางไหน ร้อนหรือเย็น สีของเหลวต่างๆเป็นอย่างไร ส่วนวิธีการรักษาก็จะมีตั้งแต่การเปลี่ยนอาหารเพื่อปรับสมดุล เปลี่ยนที่อยู่อาศัย หลั่งเลือด(ใช้ปลิงดูด) ใช้สมุนไพร ออกกำลังกาย
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คือการวางรากฐานทางการแพทย์ ของหมอฮิปโปคราตีส ไม่ว่าจะเป็นวิธีการรักษา การวินิจฉัยโรค และแนวทางต่างๆ จึงไม่แปลกใจเลยที่จะถูกยกย่องว่าเป็น บิดาของวิชาแพทย์ตะวันตก
และในตอนต่อไปเราจะพูดถึงบุคลคลที่จะมีบทบาทมากๆในประวัติศาสตร์การแพทย์ ผู้ที่เรียกตนเองว่า ผู้ที่ทำให้การแพทย์แบบฮิปโปคราตีส สมบูรณ์แบบกันครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือ สงครามที่ไม่มีวันชนะ ประวัติศาสตร์การต่อสู้ระหว่างมนุษย์และเชื้อโรค
รูป ฮิปโปคราตีส
รูป อัสคลิปิอุส
รูป Askepion
รูปการรักษาของฮิปโปคราตีส
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
