21 ม.ค. 2021 เวลา 12:22 • ธุรกิจ
“Gary Vaynerchuk แกรี่ เวย์เนอร์ชัค”
เจ้าพ่อออนไลน์ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คดันยอดขายพันล้านภายใน 5 ปี
Gary Vaynerchuk เศรษฐีที่สร้างฐานะขึ้นมาได้ด้วยตนเอง ที่ถือว่าเป็นราชันในโลกโซเชียลฯ ที่เปลี่ยนธุรกิจครอบครัวให้กลายเป็นธุรกิจพันล้านภายใน 5 ปี โดยใช้ ‘คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง’ แบบเพียว ๆ
Gary เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ปี 1975 ณ ประเทศเบลารุส (ซึ่งตอนนั้นยังใช้ชื่อว่า Gennady) โดย ณ ขณะนั้นยังเป็นอดีตสหภาพโซเวียต ก่อนที่ครอบครัวของเขาที่มีเชื้อชาติยิว ที่ได้รับสิทธิ์การลี้ภัยทางการเมือง ไปยังสหรัฐอเมริกา ในปี 1978
คุณพ่อของเขานั้น เป็นคนที่ขยันแข็งและพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา ทำให้ก้าวขึ้นเป็นผู้จัดการร้าน และกลายเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับเจ้าของร้านเหล้า โดยใช้เวลาไม่นาน โดยใช้ชื่อร้านว่า Shopper’s Discount Liquors
และด้วยความที่ Gary นั้น ได้หัวการค้าและความขยันขันแข็งจากคุณพ่อของเขามาเต็ม ๆ เขาจึงเริ่มต้นทำธุรกิจตั้งแต่อายุได้ 8 ขวบ ด้วยการนำน้ำมะนาวไปวางจุดต่าง ๆ ตามหมู่บ้าน แล้วตระเวนเร่ขายและเก็บเงินตามจุดต่าง ๆ
แต่เมื่อวันเวลาเปลี่ยนไป โอกาสการค้าใหม่ ๆ ก็เริ่มเข้ามา ซึ่งในตอนนั้นเอง เป็นช่วงที่ผู้คนชอบในการสะสมการ์ดนักเบสบอล
Gary จึงเข้ามาค้าขายกับเขาด้วย ซึ่งในตอนนั้นเขาได้เงินทุนจากคุณพ่อประมาณ 1,000 เหรียญในการตั้งตัว และด้วยความกระหายเขาก็เริ่มซื้อการ์ดเบสบอลจากห้างมาหลายกล่อง และคาดหวังเอาไว้ว่าจะได้การ์ดดี ๆ กับเขาบ้าง จนในท้ายที่สุดนั้น การ์ดที่ซื้อแบบสุ่ม ๆ นั้น มันมีมูลค่าเพียง 200 เหรียญเท่านั้น นี่แค่เริ่มต้นก็เจ๊งไม่เป็นท่าซะแล้ว
แต่การทำธุรกิจล้มเหลวก็คือการเรียนรู้อย่างหนึ่ง ซึ่งครั้งต่อไป Gary ได้เรียนรู้ว่า เริ่มแรกจะต้องศึกษาตลาดให้ดีซะก่อน ซึ่งเขาทำการสำรวจร้านค้าในบริเวณนั้นเพื่อศึกษาราคาของการ์ดแต่ละใบ จากนั้น ก็มาตั้งราคาให้ร้านของตัวเองมีราคาถูกกว่าทุกร้าน ทำให้ร้านเขาขายดีเป็นเทน้ำเทท่ากว่าร้านอื่น ๆ
และนอกจากนั้น ปกติแล้วการ์ดที่มีอยู่ในคู่มือของนักสะสมนั้นจะมีราคาสูง แต่อยู่ดี ๆ Gary ก็คิดตรงกันข้ามซะดื้อ ๆ เลยว่า การ์ดของเขาไม่มีอยู่ในคู่มือสะสม มันต้องเป็นการ์ดที่หายากและมีราคาสูงแน่ ๆ
ว่าแล้ว Gary ก็สร้างตลาดขึ้นมาเอง กำหนดราคาตลาดเองเอาดื้อ ๆ ซะเลย
และเมื่อ Gary Vaynerchuk จบการศึกษาจาก Mount Ida College เขาก็ได้กลับมาช่วยดูแลกิจการที่บ้าน อาศัยความหลงใหลที่มีต่อไวน์บวกกับความคิดริเริ่มที่จะผันร้านไวน์ออฟไลน์ให้กลายเป็น E-Commerce เขาจึงเปิดตัวเว็บไซต์ Winelibrary.com ในปี 1997 และทำการบันทึกวีดีโอรีวิวไวน์ทุกตัวของร้านแเผยแพร่ลงในเว็บไซต์และ Youtube โดยตั้งชื่อรายการว่า Wine Library TV ซึ่งผลิตรายการมาแล้วกว่า 1,000 Episode
ผลของการทำวีดีโอออกเผยแพร่เป็นจำนวนมากและทำอย่างต่อเนื่องทำให้ธุรกิจของครอบครัวเป็นที่รู้จักและเกิดยอดขายสะสมก้าวกระโดดจาก 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปสู่ 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในระยะเพียง 5 ปี
และตัว Gary เองก็กลายเป็นเซเลบในวงการนักดื่มไวน์ไปโดยปริยาย แม้ว่ากูรูในวงการจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าและการพูดการจาแบบขวานผ่าซากของเขาสักเท่าไหร่นัก เพราะนอกจากจะรีวิวไวน์ไม่ตรงตามตำราแล้ว ยังเป็นคนที่พูดเสียงดังแถมยังมีคำสบถออกมาทุก ๆ 2 ประโยค ซึ่งแหกตำรากูรูไวน์แบบไม่เหลือเค้าโครงเดิมกันเลยทีเดียว
หลังจากประสบผลลัพธ์จาก Wine Library TV เขาได้ผันตัวไปเป็น ที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์ ที่ชื่อว่า VaynerMedia ทั้งยังเป็น นักพูดและนักเขียน และมีรายการออนไลน์ของตัวเอง ซึ่งในโลกออนไลน์มีผู้ที่ติดตามเขาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
Facebook ที่มีผู้ติดตามกว่า 2.8 ล้านคน
Youtube ที่มี Subscriber กว่า 1.1 ล้านคน
Twitter ที่มีผู้ติดตามกว่า 1.6 ล้านคน
Instagram มีผู้ติดตามกว่า 2.9 ล้านคน
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มของเจ้าไหนเฮียแกก็สามารถทำได้ปังแทบทั้งสิ้น
จึงทำให้ลูกค้าไว้วางใจในการว่าจ้างเขาเป็นที่ปรึกษา ได้แก่ Johnson & Johnson, Google, Pepsi, Proctor & Gamble และ Disney เป็นต้น
และด้วยความที่ Gary มี Social Media ที่สตรอง จึงได้มีสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่อย่าง HarperBusiness จับเซ็นต์สัญญาในการเขียนหนังสือกับทางสำนักพิมพ์เป็นจำนวน 10 เล่มด้วยกัน ซึ่งสัญญานี้มีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว ๆ กว่า 30 ล้านบาท
แม้ว่าจะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบในสไตล์การนำเสนอของเขา แต่สิ่งหนึ่งที่ Gary ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า คอนเท้นต์ที่เขาขยันหมั่นเพียรทำออกมา ไม่ว่าจะเป็นบทความก็ดี วีดีโอก็ดี หนังสือก็ดี มันมีจำนวนอย่างมหาศาล ซึ่งมันไม่ใช่เกิดจากพรสวรรค์ แต่มันเกิดจากพรแสวงและการทำงานอย่างหนัก ทำให้โซเชียลมีเดียของเขาเติบโต และต่อยอดธุรกิจให้เติบโตแบบก้าวกระโดดในที่สุด
🐝 B E E 🐝
โฆษณา