Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
OrdinaryKid
•
ติดตาม
22 ม.ค. 2021 เวลา 00:54 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
-- ก่อนอื่นคงต้องออกตัวก่อนว่าบทความที่จะได้นำเสนอนับต่อแต่นี้ เป็นความชอบส่วนตัวของผมเลยจริงๆ อาจหาสาระตามสูตรไม่ค่อยได้หรือขัดใจผู้อ่านบางท่าน *ก็ขออภัยนะครับ* โดยเฉพาะการวิจารณ์และแสดงความเห็น (ก็รีวิวนั่นแหละ ฮา) ต่อภาพยนตร์และดนตรีเป็นหลัก
ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไร เชิญชวนทุกท่านเข้ามาแวะทักทายแลกเปลี่ยนกันได้ครับ เพื่อเป็นความรู้และต่อยอดพัฒนางานผู้เขียนต่อไป ---
1. ถ้าให้ถามว่าหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่ชอบที่สุดคือเรื่องไหน คำตอบคงไม่พ้น “Spider man 2 (2004)” อันดับ 1 ในใจเสมอมา และเป็นหนังฮีโร่เรื่องแรกและเรื่องเดียวที่เรียกน้ำตาได้ดีเลย หลังจากที่ภาคแรก เปิดตัวในปี 2002 ทำรายได้ถล่มทลาย Box office สร้างปรากฏารณ์และเขย่าวงการหนังแอ็คชั่นฮีโร่ในยุคนั้นมาก รวมถึงตัวผมด้วยที่ยังเด็กและตื่นเต้นพอสมควรหลังจากได้ดูตัวอย่างไป พอได้ดูเต็มเรื่องแล้ว ยิ่งชื่นชอบ ชื่นชมและหลงรักไอ้แมงมุมตัวนี้ซะจริง
2. โดยส่วนตัวถือเป็นฮีโร่รุ่นแรกๆลำดับที่ 2 ต่อจาก X-Men(2000) ที่ได้ดูก็ว่าได้ ซึ่งผมประทับใจมากทั้งสองเรื่อง ถือว่าเปิดโลกทัศน์การดูหนังในวัยเด็กเป็นอย่างมาก และ Spider man เวอร์ชั่นของ Sam raimi นี่เองเป็นอีกเรื่องที่สร้างมาตรฐานและการตีความแบบใหม่ที่ต่างและฉีกออกจากต้นฉบับของการ์ตูนไปเลย แต่ผมเองก็ไม่เคยอ่านคอมมิคหรือรู้จัก Spidey มาก่อนอยู่แล้ว จึงง่ายมากที่จะติดภาพลักษณ์ไอ้แมงมุมชุดนี้ไปโดยปริยาย
3. พอหยิบ Spider man 2 กลับมาดูอีกครั้งในยุคนี้หลังจากผ่านมากว่า 16 ปี มันยังคงเป็นเรื่องที่สุดยอด ประทับใจและตราตรึง ในทุกๆครั้งที่ดูจนนับไม่ถ้วน ความครบรส กลมกล่อม ความดราม่า ที่ทำให้อินและลุ้น น่าเอาใจช่วยเป็นอย่างยิ่ง ในชีวิตอันแสนจะเรียบง่ายแต่ทุลักทุเล การดิ้นรน กระเสือกกระสน ของ Peter Parker ยิ่งสะท้อนและตอกย้ำว่าให้เห็นว่าชีวิตเราจริงๆนั้น ไม่ค่อยต่างจากในหนังเลย ไม่ได้เกิดมาเพียบพร้อมทุกด้าน ในสภาซะที่ต้องเจอปัญหารุมเร้า ต้องจัดการกับชีวิตประจำวันของตนเองหลายด้าน ทั้งการแบ่งเวลาเรียน, การทำงาน, บริหารเงิน, เรื่องเพื่อนหรือแฟน ซึ่งในโทนหนังดูจะออกแนวประชดประชันเสียดสีแกมตลกหน่อยๆ ดูแล้วคงหัวเราะได้อย่างไม่เต็มปาก ที่สำคัญความสู้ชีวิตและอดทนของ Pete ที่มีความเป็นมนุษย์ธรรมดาๆสูงมาก หรือติดดินก็ว่าได้ ยิ่งทำให้เรามองว่าชีวิตลำบากและน่าเห็นใจจริงๆ ซึ่งนำพาผู้ชมไปสู่การเรียนรู้ ปรับปรุงและพัฒนาการในการใช้ชีวิตไปพร้อมๆกับปีเตอร์ กับความคิดที่โตขึ้นตามวัย การพยายามเติมเต็มเพือจะรักษาสมดุลในชีวิต ทั้งในเรื่องส่วนตัวและเรื่องส่วนรวมที่ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะออกพิทักษ์ชาวเมือง New york ในฐานะ Spider man หลังจากที่ลุงเบนได้ให้ทางเลือกไว้ก่อนจะเสีย
4.ในช่วงวัยที่ก้าวผ่านวัยรุ่นสู่วัยทำงานแบบผู้ใหญ่เต็มตัว การตัดสินใจทำเรื่องต่างๆ จึงมาพร้อมกับภาระและความรับผิดชอบหลายอย่างที่หนักหนาเกินกว่าจะรับไหว จนอาจมีแกว่งหรือหลงผิดไปบ้าง เพราะถึงแม้ปีเตอร์จะเป็นเด็กเนิร์ดหัวไบรท์แค่ไหน แต่ยังไงซะ เขาก็ยังคงมีนิสัยความเป็นเด็ก ความดื้อ ความขี้เกียจ ในบางครั้ง ทั้งนี้จะรับมือได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะ
5.โดยหลักๆแล้วจุดอ่อนของปีเตอร์ก็คงติดที่เรื่องความรักกับเอ็มเจนี่แหละ เพราะเธอก็คือหนึ่งในเข็มทิศนำใจของปีเตอร์ แต่สิ่งที่คอยย้ำเตือนและเป็นแรงผลักดัน การก้าวไปข้างหน้ามากกว่าความรักหนุ่มสาว ก็คือคำสอนต่างๆ ที่ท่านๆทั้งหลายอย่าง ลุงเบ็น ป้าเมย์ หรือแม้แต่ ดร.ออคเตเวียส ได้มอบและสอนสั่งแก่ปีเตอร์ไว้ เปรียบเสมือนคุณครูที่คอยเตือนสติและชี้แนะตอนเราหลงทาง
6.นอกจากนี้การนำประเด็นเรื่อง “ความฝัน” มาใส่ทำให้หนังมีความ Real และส่งบทออกมาให้แข็งแรงมากขึ้น เพราะทุกคนย่อมมีความฝันที่ต่างกัน มีชีวิตที่มีอุปสรรคต้องเดินข้ามตลอด การรับมือเรื่องต่างๆที่ประเดประดังเข้ามาพร้อมๆกัน ทำให้การตัดสินใจ"เลือก" เป็นสิ่งที่ลำบากใจจริงๆ โดยหนังสื่อออกมาได้อย่างดี และหาจุดลงตัวได้อย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งสอนคนดูเป็นระยะๆ
7.ฉากที่ประทับใจ ตื่นเต้น และลุ้นน้ำตาซึมทุกครั้งที่ดูและเป็นฉากในความทรงจำ คงไม่พ้น “ฉากหยุดรถไฟในตำนาน” ได้ใจไปเต็มๆในความเสียสละจริงๆ และเห็นได้ชัดว่าชาวเมืองรักเขาแค่ไหน ถ้าเทียบกับภาคแรกก็คงต้องเป็น “ฉากช่วยเด็กในตอนท้าย และชาวเมืองคอยช่วยบนสะพาน” หรือแม้แต่ฉากการพบกัน และพูดคุยระหว่างป้ากับหลาน ที่สอนหลายอย่างๆของการใช้ชีวิต ออกทีไรต่อมแตกทุกทีโดยเฉพาะ “ฉากเก็บของตอนจะย้ายบ้าน” (ใครไม่ซึมตอนนี้คงใจแข็งน่าดู) และมันอยู่ในบริบทที่แสดงถึงครอบครัวที่ถึงแม้จะไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็พยายามก้าวต่อไป ประคับประคองกัน ผ่านพ้นปัญหากันไป เรียกว่าจี้จุดมาก
และสุดท้ายนี้ สำหรับผม Spider man 2 (2004) คือหนังซุปเปอร์ฮีโร่ Feel Good เรื่องเยี่ยม ที่พูดได้เต็มปากเลยว่าสำคัญต่อชีวิตวัยเด็กจนถึงปัจจุบันจริงๆ และเป็นหนังภาคต่อที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา มีความสมบูรณ์ในหลายๆองค์ประกอบ อาทิ บท, งานภาพ เทคนิคพิเศษ CG, เพลงประกอบ เพลงบรรเลง และข้อคิดต่างๆ ฯลฯ โดยทุกรอบที่ดูซ้ำไปซ้ำมา มันได้แง่คิด ได้พลังงาน จนต้องย้อนกลับมามองตัวเอง ที่สำคัญทำให้ลืมความเหนื่อยล้าบางประการที่เรามี ไม่ว่าจะเรื่องการใช้ชีวิต, การทำงาน เป็นต้น
ขอบคุณภาพประกอบ :
https://thisorthatedition.com/spider-man-2-2004/
My best scene of all time.
บันทึก
2
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย