6 ก.พ. 2021 เวลา 04:30 • ท่องเที่ยว
ย้อนเวลาไปหาเมืองเก่า “สุโขทัยธานี”
ถ้ามีพรหนึ่งข้อให้ย้อนเวลากลับไปค้นหาประวัติศาสตร์ของตัวเอง เพื่อนๆจะย้อนกลับไปสมัยไหนกัน...ถ้าเป็นเราจะขอย้อนไปสมัย “สุโขทัย” สุโขทัยธานี เมืองแห่งประวัติศาสตร์ เราเจอเมืองนี้ในหนังสือเรียนตั้งแต่สมัยประถมที่กล่าวถึงจังหวัดสุโขทัย ทำให้คิดว่าถ้าเราอยู่สมัยนั้นจริงๆ มันจะงดงามและน่าจดจำแค่ไหน
ทริปนี้เป็นอีกนึงเรื่องราวการเดินทางของเรา ที่เรารู้สึกประทับใจอีกจังหวัด แม้ว่าเราจะไม่ได้ไปเที่ยวทั่วทั้งหวัด แค่ได้มาปั่นจักรยาน รอบๆ “อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” ก็รู้สึกดีแล้ว ก็ได้มาไหว้พระ และได้ชมโบราณสถานในอดีตของบ้านเมืองเราในสมัยก่อน หากใครชอบปั่นจักรยานกินลมชมวิวชิวๆ เราว่าที่นี่ดูสโลไลฟ์ดีนะ เราแนะนำทุกคนมาตอนเย็น ก่อนพระอาทิตย์ตกดินจะทำให้ได้ภาพสีสวยมากกว่าตอนเช้า
1
อุทยานแห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ.2534 เมืองมรดกโลกแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่โบราณสถานกรุงสุโขทัย ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า (เขตเทศบาลตำบลเมืองเก่า) อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ห่างจากตัวเมืองสุโขทัยปัจจุบัน (เขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี) ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 12 กิโลเมตร อุทยานแห่งนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์โดยกรมศิลปากรด้วยความช่วยเหลือจากยูเนสโก มีผู้เยี่ยมชมหลายแสนคนต่อปี ซึ่งสามารถเดินเท้าหรือขี่จักรยานเที่ยวชมได้ ส่วนภายในอุทยานมีสถานที่ใดบ้างเราไปดูกันด้านในได้เลย
ที่แรกที่เราได้ไปกันก็คือ “ วัดโบราณกับตำนานพระพูดได้” นั่นคือ วัดศรีชุม อยุ่ในเขตโบราณสถานของอุทยาน วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ซึ่งมีนามว่า "พระอจนะ" องค์พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในมณฑป ซึ่งปัจจุบันยอดพระมณฑปได้พังทลายหมดแล้ว เหลือแต่เพียงผนังกำแพงโดยรอบ ไม่มีหลังคาปกคลุม เป็นพระพุทธรูปกลางแจ้งจนถึงทุกวันนี้
ภายรอบวัดมีต้นมะม่วงต้นใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ทำให้ได้ภาพที่สวยและเราว่ามันดูยิ่งใหญ่อันซีนมากๆๆ เป็นอีกสถานที่ที่ต้องมาเชคอินและถ่ายภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำเลยล่ะ
พระพุทธรูปด้านในเป็นพระพุทธรูปปางมาร วิชัย และลักษณะของวิหาร สร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมลักษณะคล้ายมณฑป แต่หลังคาพังทลาย ลงหมดแล้ว เหลือเพียงผนังทั้งสี่ด้าน ผนังแต่ละด้านก่ออิฐถือปูนอย่างแน่นหนา ผนังทางด้านใต้มีช่องให้คนเข้าไปภายใน สามารถขึ้นไปตามบันไดแคบๆ ถึงผนังด้านข้างขององค์ แต่ตอนนี้ปิดไม่สามารถเดินขึ้นได้นอกจากเจ้าหน้าที่ของอุทยาน
พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2518 ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของวัดมหาธาตุ ลักษณะพระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราชเป็นพระบรมรูปหล่อด้วยโลหะทองเหลืองผสมทองแดงรมดำ ขนาด 2 เท่าขององค์จริง สูง ๓ เมตร ประทับนั่งห้อยพระบาทบนแท่นมนังคศิลาบาตร พระหัตถ์ขวาถือคัมภีร์ พระหัตถ์ซ้ายอยู่ในท่าทรงสั่งสอนประชาชน แท่นด้านซ้ายมีพานวางพระขรรค์ไว้ข้าง ๆ ลักษณะพระพักตร์เหมือนอย่างพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยตอนต้น ที่ถ่ายทอดความรู้สึกว่า พ่อขุนรามคำแหงมหาราชมีน้ำพระทัยเมตตากรุณา ยุติธรรม มีความเด็ดขาดในการปกครองแบบพ่อปกครองลูก ที่ด้านข้างมีภาพแผ่นจำหลักจารึกเหตุการณ์เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ตามที่อ้างถึงในจารึกสุโขทัย
ภายในอาณาเป็นอุทยานกว้างๆ ที่ประกอบไปด้วยวัดและเจดีย์เก่าๆมากมาย เป็นอุทยานที่ใหญ่มากๆ ร่มรื่นสบายตาและลมเย็นสบาย มีทางปั่นจักรยานไปชมวัดต่างๆ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอุทยานจะพบกับ เจดีย์กลางสระน้ำคือ วัดสระศรี เดิมชื่อตระพังตระกวน มีสะพานไม้สีแดงเชื่อมต่อไปยังเจดีย์ เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ทรงลังกา ด้านหน้าวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย
วัดสระศรี มีซุ้มพระพุทธรูป 4 ทิศ ด้านหน้ามีเกาะกลางน้ำขนาด ย่อมเป็นที่ตั้งของพระอุโบสถขนาดเล็ก วัดแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นจุดที่มีทัศนียภาพที่สวยงามในเวลายามเย็น
ต่อมาเราปั่นจักรยานไปตามทาง ทางทิศใต้ ต้องบอกเลยว่า ฟินสุด เพราะเส้นปั่นร่มรื่น ต้นไม้เยอะและสงบมาก แล้วเราก็มาถึง วัดศรีสวาย ที่อยู่ติดกับกำแพงของอุทยาน วัดนี้ทำเรานึกย้อนไปถึงปราสาททางฝั่งลพบุรี คล้ายๆกับพระปรางค์สามยอด ศิลปะลพบุรี เหมือนหลงมาอีกมิติหนึ่งเลย
ด้านหลังของวัดศรีสวาย เห็นแล้วนึกถึงพระปรางค์สามยอดที่ลพบุรีเลย แต่ที่นี่จะมีขนาดเล็กกว่า
หากปั่นย้อนออกมาทางประตูใหญ่ เราจะพบกับจุดไฮไลท์ของอุทยาน ที่ใครๆ มาสุโขทัยก็ต้องมาถ่ายภาพและเชคอินที่นี่ “วัดมหาธาตุ” หลายคนอาจเคยเห็นวัดนี้ตามานิตยสารท่องเที่ยว ที่ด้านหน้าเป็นสระบัวและมีวัดโบราณเป็นฉากประกอบ เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุด และเราว่าสวยที่สุดในอุทยานนี้แล้ว บริเวณวัดกว้างขว้างมาก ประกอบไปด้วยองค์พระและเจดีย์ใหญ่เล็กรอบๆ วัด และต้นโพธิ์ต้นใหญ่ให้ความร่มรื่นเหมาะกับการพักผ่อน และถูกใจสายวัดแน่นอน จุดนี้สวยงามมากควรเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกจริงๆ
วัดมหาธาตุ เป็นวัดใหญ่อยู่กลางเมือง สร้างสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ มีพระเจดีย์ต่างๆ รวมถึง 200 องค์ นับเป็นวัดสำคัญประจำกรุงสุโขทัย
งวดนี้ขอสามตัวตรงนะคะหลวงพ่อ ไม่ขออะไรมากเลย
ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย นอกจากปั่นจักยาน เราสามารถใช้วิธีนั่งรถเข้าชมโดยใช้บริการรถรางได้ ซึ่งจะพาเราไปยังจุดต่างๆ ครบทุกจุดในอุทยาน แต่ถ้าใครต้องการความสะดวกจักรยานน่าจะเหมาะสุดแล้ว เพราะแต่ละที่ในอุทยานอยู่ไม่ได้ไกลกันมาก
ช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกดินเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการมาท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยที่สุดแล้ว เพราะอากาศเย็นสบายและถ่ายรูปออกมาสวยมากๆ
วัดตระพังทอง ตั้งอยู่บนเกาะกลางสระน้ำที่เรียกว่า“ตระพังทอง” เป็นวัดที่ตั้งอยู่ภายในกำแพงเมืองทางทิศตะวันออกของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง จ.สุโขทัย
ยามค่ำคืนสะพานทางเข้าวัดจะประดับด้วยโคมไฟยาวทั้งสะพาน ใครผ่านมารับรองจะต้องสะดุดตามีแวะลงมาถ่ายรูปแน่ๆ
ค่าเข้า คนไทย 20 บาท ต่างชาติ 100 บาท
ค่าเช่าจักรยาน 30 บาท
Tel :055-697527
Time: 06.30 - 18.00 น.
ฝากติดตามการเดินทางของเราที่ IG ด้วยนะครับ
ติดตาม เที่ยวแหลก ทางเฟสบุ๊คได้ตามนี้นะครับ
โฆษณา