22 ม.ค. 2021 เวลา 13:11 • นิยาย เรื่องสั้น
บันทึกวันที่ 8 : “แด่ท่านผู้บริหาร!”
ไอ้เจ้าทหารม้าขี้แกล้ง เจ้า Kaeya ตาเดียวนั่น คนเพิ่งฟื้นไข้แท้ๆ ยังไม่ทันไรก็ส่งไปที่ Dragon Spine อีกละ เห้อ....แถมดูท่าไม่ใช่อะไรง่ายๆ ด้วยสิ ทำไมหมอนั่นเส้นสายเยอะชะมัด
ยังไงก็ตาม คงต้องบันทึกเรื่องของกลุ่ม Fatui ก่อนละนะ ป้องกันการลืม
เท่าที่เข้าใจ Fatui คือกองทหารจาก Snezhnaya เมืองที่ว่ากันว่าสภาพอากาศถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งและหิมะแทบตลอดเวลา กองทหารนี้มีความแข็งแกร่งมากๆ พวกเขาใช้อุปกรณ์อะไรซักอย่างที่ปลดปล่อยพลังงานธาตอกมาได้โดยไม่ต้องพึ่งพา Vision แม้แต่น้อย
อ่าฮะ Vision มันคืออะไรที่ผมเองก็ไม่เข้าใจและไม่ได้ใช้มัน เห็นว่ามันทำให้คนปลดปล่อยพลังงานธาตุออกมาได้อย่างใจนึก เป็นอะไรที่สุดยอดมากเมื่อใช้ต่อสู้ แต่เห็นว่าต้องเป็นผู้ที่ถูกเลือกโดยเทพเท่านั้นจึงจะได้มาครอบครอง
หนึ่งในกองทหาร Fatui ซึ่งหมอนี่ใช้เวทหินที่ทรงพลังมาก
สุดยอดไปเลยน้า
ยังไงก็ตามพลังของพวกทหาร Fatui ไม่ใช่เล่นๆเลย ทักษะการต่อสู้ ความทดทานของร่างกาย เมื่อรวมกับอุปกรณ์ที่ว่านั้นพวกนั้นเลยแข็งแกร่งมากๆ แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมดของกองทหาร Fatui
Fatui มีจำนวนไม่มากที่สามารถใช้อุกรณ์ที่ว่า แม้ว่าจะแข็งแกร่งแต่ก็มีจำนวนไม่มาก ทำให้กำลังที่สำคัญที่สุดของ Fatui นั่นก็คือ เหล่า “ผู้บริหาร” ซึ่งทรงพลังมาก เพราะนอกจะครอบครอง Vision แล้วยังมีอุปกรณ์ที่ว่าเสริมเข้าไปด้วย ยิ่งทำให้ยากจะต่อกรมากๆ ไม่ควรสู้ลำพัง หรือไม่มีแผนเด็ดขาด
และใช่ครับ ผมต้องไปซัดกับพวก “Fatui” ที่ “Dragon Spine” ครบจบในที่เดียว ถ้าเจอผู้บริหารคงคิดไปได้แค่ว่า นี่ถึงวันตายเราแล้วสินะ
ผมมุ่งตรงไปยังภูเขาโดยมีความช่วยเหลือของกลุ่มนักผจญภัยที่ประจำอยู่แถวนั้น ทำให้การตามหาจุดกางเต๊น(?) ของ Fatui ได้โดยง่าย
ค่ายพวก Fatui
เอาเข้าจริงวันนี้ก็ไม่ได้มีอะไรให้พูดถึงมากมายนักเว้นแต่จะบันทึกการต่อสู้ ซึ่งก็จะเหมือนเขียนนิยายกำลังภายใน
อย่าเช่น
พอผมเห็นพวกนั้นซึ่งมีกันสองคน ผมรีบชักดาบพุ่งเข้าไปโดยโน้มตัวลงให้ต่ำที่สุดเพื่อลดพื้นที่โดนโจมตี และเพื่อหลบเข้าจุดอับสายตา ผมสไลด์ออกทางด้านข้างเพื่อจู่โจมคนแรกจากทางด้านหลัง ผมเสียบดาบเข้าไปตรงจุดที่เป็นรอยต่อของเกราะบริเวณหลังเข่าเพื่อผนึกการเคลื่อนไหวของศัตรู ทว่าขนาดตัวทำให้ผมประมาท มันฟาดค้อนขนาดใหญ่เหวี่ยงกลับเฉี่ยวผ่านผมไปไม่กี่มิล เสียงลมวูบดังบาดหูพร้อมกับกระแสไฟฟ้าจากค้อนของมันที่เผาปลายผมไปเสี้ยวหนึ่ง ผมกระโดดหลบออกมาตั้งหลัก แต่นั่นเปิดโอกาสให้เจ้าผอมเล็งปืนมาทางผม ผมพุ่งต่ำเข้าใส่ในจังหวะเดียวกันกับเสียงปืนที่ดังเปรี้ยง ผมสัมผัสถึงความร้อนของกระสุนที่แฉลบผ่านไหล่ของผมไป นั่นไม่ใช่กระสุนธรรมดาแน่ ผมเข้าใกล้เจ้าผอมเพื่อโจมตี แต่ความเร็วของเจ้าค้อนนั่นเร็วผิดมนุษย์ มันฟาดเข้าที่กลางลำตัวผมแต่ผมใช้ดาบต้านไว้ และกระโดดถอยตามแรงเหวี่ยง เข่าผมทรุด แรงของมันมีมากเหลือเกิน ทั้งสองกระชับอาวุธ ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าหุ้มตัวเจ้าค้อน และเป็นไอร้อนปกป้องเจ้าผอม นี่มันตึงมือมาก ผมกระชับดาบ และใช้พลังงานธาตุลมสปริงเข้าไปด้วยความเร็วที่สูงมาก และดูเหมือนพวกมันตามไม่ทัน ผมโจมตีทั้งคู่ไปยังข้อมพับแขนทั้งสองเพื่อปลดอาวุธ แต่เกราะธาตุของพวกมันทำให้มันได้บาดแผลที่เล็กน้อยมากๆ ผมยื่นมืออกไปเพื่อใช้กระแสลมดึงอาวุธที่หล่นของพวกมัน และเหวี่ยงมันลงไปในแอ่งน้ำข้างหลังเพื่อยุติการต่อสู้ ส่งผลให้พววกนั้นยอมทำการล่าถอยแต่โดยดี
...แบบนี้เหรอ ยังไงก็เถอะ หลังการต่อสู้ผมได้รับค่าตอบแทนอย่างงาม เป็น mora และแน่นอน ไวน์ของคุณ Diluc
ลองตั้งกล้องถ่ายดู เหมือนไม่ค่อยเวิร์คแฮะ
ยังไงก็เถอะวันนี้เหนื่อยจริงๆ คงเขียนได้เท่านี้ล่ะนะ
เห้อ เหนื่อยแฮะ
โฆษณา