Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Money&More by MoNoManZ
•
ติดตาม
23 ม.ค. 2021 เวลา 10:59 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เคยเป็นกันไหมครับสำหรับคนที่เริ่มจะลงทุนโดยซื้อกองทุนรวมแล้วอาจจะงงๆว่ากองทุนรวมมีเป็นร้อยเป็นพันจะซื้อกองทุนไหนดี จะกระจายความเสี่ยงแบบไหนดี เลือกกันไม่ถูกเลย ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี
บทความนี้ผมจะมาแนะนำให้แบบคร่าวๆนะครับสำหรับมือใหม่ที่อยากจะเริ่มต้นซื้อกองทุนรวมดู ซึ่งต้องขอบอกก่อนเลยนะครับว่าพอร์ตแบบที่ผมแนะนำให้นั้นเน้นการเติบโตด้วยกองทุนหุ้นหรือตราสารทุนจากต่างประเทศ และไปลดความเสี่ยงหรือความผันผวนของการลงทุนด้วยกองทุนตราสารหนี้ ดังนั้นผู้ลงทุนก็ต้องรับความเสี่ยงตรงนี้ได้นะครับ
พอร์ตกองทุนรวมสำหรับมือใหม่
ก่อนจะแนะนำอะไร ผมต้องเริ่มต้นด้วยการบอกว่าการลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน มันมีความเสี่ยงและความผันผวนในการลงทุนนะครับ บอกไว้แค่เป็นแนวทางในการลงทุน ไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องลงทุนแบบนี้เป๊ะๆเลย สามารถปรับยืดหยุ่นได้ตามใจผู้ลงทุนเองเลย
โดยสำหรับพอร์ตที่ผมแนะนำนั้นเน้นรูปแบบการลงทุนแบบง่ายๆ เลย คือ การกระจายการลงทุนไปยังกองทุนรวมตราสารหนี้และตราสารทุน (หุ้น) ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยแบ่งเป็น 5 ส่วนเท่าๆกัน ดังนี้
พอร์ตกองทุนรวม
1.กองทุนรวมตราสารหนี้ไทย 20%
2.กองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ 20%
3.กองทุนรวมหุ้นไทย 20%
4.กองทุนรวมหุ้นอเมริกา 20%
5.กองทุนรวมหุ้นจีน 20%
รวมกันเป็น 100% พอดี ง่ายไหมครับ
บางคนก็อาจจะสงสัยว่าทำไมผมถึงจัดพอร์ตแบบนี้ โดยแบ่งตามประเภทสินทรัพย์เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ 40% และหุ้น 60% หรือว่าถ้าจะแบ่งตามประเทศที่เข้าไปลงทุน คือ ไทย 40% และต่างประเทศ 60%
สำหรับการลงทุนกับกองทุนรวมตราสารหนี้นั้นถึงแม้ว่าจะได้รับผลตอบแทนไม่สูงเท่าหุ้น มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ไม่มาก แต่ว่าความผันผวนในการลงทุนถือว่าต่ำกว่าหุ้น และที่แบ่งออกมาเป็นในไทย 20% และต่างประเทศ 20% เพื่อป้องกันความผันผวนของค่าเงินและผลตอบแทนที่อาจจะได้มากกว่าของกองทุนไทยนั้นเอง
ส่วนกองทุนรวมหุ้นที่มีถึง 60% ก็เพื่อจะเน้นการเติบโตของเงินลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว เพื่อให้เงินลงทุนที่เราคาดหวังงอกเงกมากกว่าตราสารหนี้ แต่ผมจึงแบ่งการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นออกเป็น 3 กองไปเลย เน้นแค่ที่ 3 ประเทศพอ ไม่ต้องไปโฟกัสอะไรเยอะ เราเป็นมือใหม่ อย่าเพิ่งไปโฟกัสอะไรหลายจุด
อย่างแรกเลยกองทุนรวมไทยแบ่งไปเลย 20% ถึงแม้ว่า 2-3 ปีมานี้จะไม่ค่อยสดใสมากนักเท่าไร แต่ว่าการลงทุนในประเทศของตัวเอง เราก็น่าจะพอเลือกกองทุนรวมมาลงทุนได้ไม่ยากสักเท่าไร เราก็น่าจะพอดูออกได้ว่าบริษัทไหนทำอะไร ผลประกอบดีไหม อนาคตจะเป็นแบบใด ซึ่งตอนนี้หลายเว็บก็มีการเปรียบเทียบผลการดำเนินการของกองทุนอยู่ เราชอบแบบไหนก็ไปเลือกแบบนั้นได้ หรือว่าไม่รู้จะลงทุนในกองทุนรวมหุ้นไทยตัวไหนดี ก็ยังมีกองทุน SET50 ไว้รอคุณอยู่
อย่างที่สอง กองทุนหุ้นอเมริกา ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีปัญหาต่างๆมากมาย แต่ด้วยความเป็นเจ้าแห่งนวัตกรรมและเทคโนโลยี ตลาดหุ้นสหรัฐก็ยังสามารถเดินต่อไปข้างหน้าได้อยู่ ดังนั้นการเลือกจะลงทุนในหุ้นอเมริกาจึงยังมีความน่าใจอยู่ ไม่ว่าจะลงในกองทุนหุ้นดัชนีหรือหุ้นเทคโนโลยีหรือหุ้นนวัตกรรม เลือกได้ว่ามีกองทุนรวมมากมายให้เลือกมากกว่าของไทยอีก หรือว่าถ้าไม่พอใจ ก็ยังมีพวกกองทุนหุ้นโลก (แต่ก็ลงทุนในอเมริกาเป็นส่วนใหญ่) ให้เลือกอีก และที่สำคัญในปีที่แล้ว ยังมีบางกองทุนที่ทำผลตอบแทนได้มากกว่า 100% ด้วย ดังนั้นการลงทุนเพื่อการเติบโตของเราจะไม่มีกองทุนรวมหุ้นอเมริกาหรือหุ้นโลกได้อย่างไร
อย่างสุดท้าย กองทุนรวมหุ้นจีน ประเทศที่เรียกได้ว่ามาแรงสุดๆ จนในอีกไม่กี่ปี หลายคนคาดว่าขนาดเศรษฐกิจจะใหญ่กว่าอเมริกาแล้ว และที่สำคัญจีนยังเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่เศรษฐกิจยังขยายต่อไปได้อีกไกล การลงทุนในหุ้นจีนจึงไม่ตัวเลือกได้เยอะไม่แพ้อเมริกาเลย และโดยภาพรวมราคาของหุ้นก็ยังไม่แรงมาก มีโอกาสในการเติบโตอีกมาก ถ้าใครไม่มีกองทุนหุ้นจีนติดพอร์ตอยู่บ้าง ผมว่ามันก็น่าเสียดายอยู่นะ เพราะว่าตอนนี้พวกสินค้าและบริการมากมายที่เราใช้ในชีวิตประจำตอนนี้ก็เป็นของจากจีน คนทั่วโลกใช้ของจีน แล้วทำไมเราถึงไม่ควรจะไปลงทุนในจีนล่ะครับ
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็เป็นพอร์ตการลงทุนแบบเน้นเติบโตด้วยหุ้น และมั่นคงด้วยตราสารหนี้ที่ผมแนะนำให้คนที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นลงทุนในกองทุนรวมยังไงให้มีพอร์ตการลงทุนประมาณนี้เพื่อเป็นไอเดียเริ่มต้น พอมีวิชาแก่กล้ามากขึ้นก็สามารถไปปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบใจเลย ส่วนว่าเพื่อนๆจะมีความคิดเห็นอย่างไรกับการจัดพอร์ตการลงุทนแบบนี้ ก็สามารถคอมเม้นต์แนะนำไว้ใต้บทความนี้ได้เลย
เพราะว่าการลงทุนกับอะไร และอย่างไร ผมเชื่อว่ามันเป็นความรู้สึกและเหตุผลส่วนบุคคล สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามชอบ แค่ว่าผู้ลงทุนจะชอบแบบไหนและมีความรู้เรื่องที่จะไปลงทุนมากแค่ไหนเท่านั้นเอง แต่ก่อนจะลงทุนอะไร แนะนำว่าต้องดูความเสี่ยงที่เราจะรับได้ด้วยนะครับ การลงทุนนั้นไม่ได้มีแต่ขาขึ้นแค่อย่างเดียว
ถ้าเพื่อนๆชอบบทความเกี่ยวกับการลงทุนแบบนี้ก็ฝากกดติดตามเพจ "มนุษย์หาเงิน" ด้วยนะครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย