"นัดบอด" ในประวัติศาสตร์จีน
เนื่องจากการแต่งงานในปัจจุบันนี้มีค่าใช้จ่ายสูง จึงทำให้หนุ่มสาวบางคู่หนีตามกันไปหรือบางคู่อาจจะอยู่กันเฉยๆ ก็มี นอกจากนี้ บางคนอาจจะทำงานมากจนเกินไปไม่มีเวลาสำหรับเรื่องนี้ ปัจจุบันจึงมีรายการบางประเภทออกมาสนองความต้องการในการหาคู่ครอง เช่น "กามเทพผิดคิว" ในอดีต หรือ "Take Me Out Thailand" แต่ในประเทศจีนโบราณ การ "นัดบอด" หรือ "การดูตัว" เกิดขึ้นได้อย่างไร? คนสมัยโบราณ "นัดบอด" กันอย่างไร?
"นัดบอด" ในประวัติศาสตร์จีน
กล่าวถึงการนัดบอดในสมัยจีนโบราณ หลายคนจะนึกถึงในภาพยนตร์หรือซีรี่ย์จีนโบราณว่าเป็นการจัดการของ "พ่อแม่หรือแม่สื่อ" แต่มันไม่ใช่เสียทั้งหมด และในแต่ละราชวงศ์การ "นัดบอด" ก็ไม่เหมือนกันอีกด้วย
ในราชวงศ์เซี่ย ซางและโจว ยังมีประชากรไม่มาก ดังนั้นพวกเขาจึงให้ความสำคัญกับการแต่งงาน ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มแรงงานในครอบครัว แต่ยังเป็นการขยายอำนาจอีกด้วย สังคมในสมัยนั้นค่อนข้างเปิดกว้าง ในขณะเดียวกัน ราชสำนักกำหนดจัดงานนัดบอดในเดือน 2 ของทุกปี โดยให้คนที่ยังไม่ได้แต่งงานเข้ามาร่วมงาน ผู้หญิงในสมัยนั้นก็มีความกล้ามาก เมื่อเจอคนที่เธอถูกใจก็มอบดอกโบตั๋นให้เพื่อแสดงความในใจ การ "นัดบอด" ในสมัยนี้ไม่ได้สนใจในภูมิหลังของฝ่ายตรงข้ามแต่อย่างใด ขอเพียงแค่ได้แต่งงานและมีลูกก็เป็นพอแล้ว
"นัดบอด" ในประวัติศาสตร์จีน
ในสมัยราชวงศ์สุยและถัง สังคมยังคงเปิดกว้างเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ จึงกำหนดให้ "เทศกาลซ่างซื่อเจี๋ย" และ "เทศกาลโคมไฟ" เป็นวันนัดบอด โดยเน้นให้หนุ่มสาวที่ยังไม่แต่งงานเข้าร่วมงานเทศกาลนั้นๆ
เทศกาลซ่างซื่อเจี๋ย
เทศกาลซ่างซื่อเจี๋ย หรือ Double Third Festival ตรงกับวันที่ 3 เดือน 3 บางครั้งจึงเรียกว่า เทศกาลวันที่ 3 เดือน 3 เทศกาลวันที่ 3 หรือเทศกาลเดือน 3 เป็นเทศกาลโบราณหนึ่งของจีน แต่ประเทศที่รับอิทธิพลไปจากจีนก็มีเทศกาลนี้เช่นกัน เช่น เกาหลี ญี่ปุ่นและเวียดนาม ก่อนราชวงศ์ฮั่นเทศกาลนี้กำหนดให้เป็นวันแรกของเดือน 3 ต่อมาเปลี่ยนเป็นวันที่ 3 ของเดือน 3 ตามจันทรคติ บางพื้นที่ก็กำหนดให้เป็นวันทำความสะอาดหลุมฝังศพอีกด้วย
เทศกาลโคมไฟ
เทศกาลโคมไฟ คือ เทศกาลฉลองในวันที่ 15 เดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติ เป็นสัญลักษณ์ของวันสุดท้ายในการฉลองเทศกาลปีใหม่ของจีน ในเทศกาลโคมไฟ เด็กๆ จะถือโคมไฟกระดาษ ออกไปวัดกันในตอนกลางคืน และพากันทายปริศนาที่อยู่บนโคมไฟ เรียกว่า ไชเติงหมี
เทศกาลซ่างซื่อเจี๋ยมีจุดประสงค์หลักคือให้หนุ่มสาวได้เที่ยวชมวิวทิวทัศน์กัน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เป็นการชมโฉมกันมากกว่า หากทั้งคู่พอใจซึ่งกันและกัน ฝ่ายชายก็จะหักกิ่งหลิวส่งให้ฝ่ายหญิง ถ้าฝ่ายหญิงพอใจก็จะมอบถุงหอมให้ ขั้นตอนต่อไปก็คือดำเนินการขอแต่งงานได้เลย
"นัดบอด" ในประวัติศาสตร์จีน
เพราะการแต่งงานถือเป็นเรื่องสำคัญ ในสมัยราชวงศ์ถังและซ่งได้กำหนดเป็นกฎหมาย ดังนั้นจึงทำให้เกิดอาชีพแม่สื่อขึ้นมา แม่สื่อนับเป็นส่วนสำคัญในการหาคู่ นอกจากจะหาคู่ผ่านแม่สื่อแล้ว เรายังเห็นในภาพยนตร์หรือซีรี่ย์จีนโบราณมีที่มีการหมั้นหมายกันตั้งแต่อยู่ในท้องหากเกิดมาต่างเพศกัน แต่หากเป็นเพศเดียวกันก็จะให้สาบานเป็นพี่น้อง ซึ่งการหาคู่แบบนี้มีข้อดีตรงที่พ่อแม่ของแต่ละฝ่ายต่างก็เป็นเพื่อนกันมาก่อน และรู้หัวนอนปลายเท้าของแต่ละฝ่ายเป็นอย่างดี อาจกล่าวได้ว่าเป็นวิธีการหาคู่ที่ปลอดภัยที่สุด แต่ในปัจจุบันนี้ จะทำแบบนี้ไม่ได้แล้ว เพราะเป็นการคลุมถุงชน ซึ่งหนุ่มสาวในสมัยนี้คงไม่ยอมแน่นอน
การนัดบอดจะสำเร็จหรือไม่บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาเช่นกัน แต่การให้เกียรติซึ่งกันและกันในการนัดบอดครั้งแรกเป็นสิ่งสำคัญ เราอาจจะนัดบอดกับคนอื่นๆ อีกหลายคนก็ได้ เพื่อพิจารณาคนที่ใช่สำหรับเราจริงๆ ถึงแม้ว่าการนัดบอดในปัจจุบันจะไม่มีขั้นตอนยุ่งยากเหมือนสมัยโบราณ แต่มารยาทและภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนในการนัดบอด ยังคงเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การเรียนรู้สำหรับคนในปัจจุบัน
แปลและเรียบเรียงจาก http://www.qulishi.com/article/202101/476544.html
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
