ยาคุม ที่สุดคุ้ม ❤️🥒💋
ประโยชน์เยอะมากกว่าที่รู้นะครับ
ผู้หญิงทุกท่านกรุณาอ่านข่าวนี้ด้วยครับ
----สามีไม่อยู่ ติดทหาร ก็เลยหยุดกินยาเม็ดคุมกำเนิดค่ะ!!-----หนูไม่มีสามี ไม่มีsex ก็เลยไม่กินค่ะ จะกินทำไมล่ะ?-----พี่ทำหมันแล้ว ไม่เห็นต้องกินเลย!!----สามีพี่ตายไปแล้ว ไม่ได้มีSex ต้องกินด้วยเหรอ?---ถ้าแม่กับพ่อรู้ว่าหนุกินยาคุม หนูว่าบ้านแตกแน่ๆค่ะ 555 เภสัชกรในร้านยาหรือสูตินารีแพทย์ทั่วประเทศคงเจอบ่อย กับคำพูดเหล่านี้
ท่านใดที่อ่านไม่จบ หรือไม่อยากอ่านเพราะยาวเกินไป อย่าcomment หรืออ่านไม่จบก็ห้่ามแชร์
(เคยเจอ สัส!!! ยาวเกินไป กูไม่อยากอ่าน ไม่มีผัว
จะแดกไปทำเหี้ยไร? เภสัชกรอย่างข้าพเจ้าช็อคจนยกมือเหี่ยวขึ้นมาทาบอก ตายแล้ว!! บางอย่างชอบยาวๆ แต่บางอย่างก็ชอบให้สั้นๆ)บทความนี้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ให้ผู้หญิงไทยมีความรู้เรื่องยาเม็ดคุมกำเนิดมากขึ้น ลดปัญหาเรื่องประชากรล้นประเทศ อย่าให้ใครมาตราหน้าได้ว่า"ประเทศไทยท้องก่อนวัยอันดับ1ของเอเชีย และอันดับ2ของโลกค่ะ"เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบการอ่าน เกิน3บรรทัดนี่ก็ไม่ไหวแร่ะ!! จึงไม่มีความรู้เรื่องที่ควรจะรู้มากที่สุด เราเลยต้องอับอายขายขี้หน้าประชาคมโลกอยู่นี่ไง อย่าให้ใครมาว่าเราโง่สิ!!
โดนหลอกด่าตั้งแต่ต้นจากเภสัชกร รู้สึกมีอารมณ์โมโหหรือปรี๊ดแตกขึ้นมารึยัง? อย่าดักตบดิฉันหน้าร้านยาก็แล้วกันนะ!! ก็กลัวเหมือนกันนะ555
เริ่มเลยนะ....แสดงว่าผู้หญิงส่วนใหญ่อาจไม่ทราบว่า
"ยาเม็ดคุมกำเนิดมีประโยชน์ที่มากกว่าการคุมกำเนิดมากมายหลายข้อ"ตอบเลยว่า "ยาเม็ดคุมกำเนิดจะมีสามี/ไม่มีสามี หรือมีsex/ไม่มีsex ก็สามารถรับประทานได้"(แต่ต้องมั่นใจว่าไม่มีโรคต้องห้ามของยาเม็ดคุมกำเนิดนะ)
ก่อนกิน อย่าลืมตรวจร่างกายโดยสูตินารีแพทย์ก่อนนะคะว่า"ปลอดจากโรคต่างๆด้านล่าง"
โดยผู้ที่ห้ามใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดที่เป็นฮอร์โมนผสม ได้แก่
• มะเร็งของอวัยวะภายในของผู้หญิง และมะเร็งเต้านม
• โรคตับเฉียบพลันหรือตับทำงานผิดปกติ
• โรคของถุงน้ำดี
• มีเลือดออกโพรงมดลูก
• เคยหรือเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
• สงสัยว่าจะตั้งครรภ์ หรือกำลังตั้งครรภ์
• โรคลมชัก
• ความดันโลหิตสูง (Cerazetteให้ได้)
• โรคเบาหวาน (Cerazetteให้ได้)
• อายุมากกว่า40ปี หรือมากกว่า 35 ปีที่อ้วน มีไขมันในเลือดสูง หรือสูบบุหรี่จัด(Cerazetteให้ได้) ถ้าหากท่านมีหลายปัจจัยเสี่ยงและรับประทานยาคุมกำเนิดโอกาสที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนก็จะมีสูงขึ้น
• มีระดูน้อย หรือขาดระดู
• ปวดศีรษะบ่อย หรือเป็นไมเกรน (Cerazetteให้ได้)
ระหว่างที่กินให้เฝ้าระวังความผิดปกติ โดยหมั่นพบสูตินารีแพทย์ทุกๆ2-5 ปี ท่านใดจะแสดงความคิดเห็น(Comment)รบกวนแจ้ง
1.อายุ
2.มีโรคประจำตัวอะไรบ้าง?
3.เล่าประวัติการทานยาคุมของตัวเองให้ละเอียด
ระบุยี่ห้อชัดเจน(ยี่ห้อที่เคยกิน สำคัญมากๆ ต้องบอกนะ!!) รวมทั้งเล่าอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ละเอียด ถ้าข้อมูลไม่ครบ เภสัชจะไม่สามารถตอบกลับได้ หรือถ้าเภสัชไม่ตอบกลับ แสดงว่าคุณยังอ่านไม่ละเอียดดี คำตอบมีในคำอธิบายแล้ว(ให้กลับไปอ่านซ้ำ ให้เข้าใจรอบที่2)
การกินยาเม็ดคุมกำเนิดเราสามารถเลือกได้ว่า
จะเลือกแบบไหน มี 2 ประเภทคือ
1.ชนิดที่มีเม็นส์(ชนิดฮอร์โมนผสม) ประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า ข้อ2 วันนี้เราจะมาเล่าถึงยากลุ่มนี้ล้วนๆ
2.ชนิดไม่มีเม็นส์(ชนิดฮอร์โมนเดี่ยว) ประโยชน์ต่อร่างกายไม่มากเหมือนข้อ1
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดที่มีเม็นส์ แผงละไม่กี่ร้อยบาท
ช่วยเติมเต็มคุณภาพชีวิตของลูกผู้หญิง ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น(ได้ดีซะยิ่งกว่า สมุนไพรขายตรงจำพวก อกฟู รูฟิต สตาร์ทติดง่าย ของพวกนี้ออกฤทธิ์ไม่เทียบเท่ายาเม็ดคุมกำเนิดได้เลย บางยี่ห้อก็แพงซะเปล่า) หากกินต่อเนื่องให้ได้3-5แผงขึ้นไป แล้วจะพบว่าประโยชน์ของยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดมีเม็นส์(ฮอร์โมนผสม)ที่มากกว่าการคุมกำเนิด ได้แก่
1.ป้องกันการตกไข่ในผู้หญิง ไข่ไม่ตกมาจ๊ะเอ๋กับอสุจิ ก็ไม่ท้องไงคะ แต่เราก็ยังเป็นประจำเดือนตามปกตินะ
ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้99.99%จึงเป็นวิธีที่สาวๆทั่วโลกนิยมมากที่สุด มากกว่าวิธีใดๆซะอีก
2.ช่วยให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ ทำให้วางแผนกิจกรรมต่างในชีวิตได้ง่ายขึ้น จะมีsexก็รู้ว่าวันไหนเม็นส์จะมา/ไม่มา ชีวิตคู่ราบรื่นขึ้น
3.ช่วยลดอาการผิดปกติก่อน-ระหว่าง-หลังมีประจำเดือน บรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้ดีที่สุด
สาวๆบางคนมาซื้อแก้ปวดประจำเดือนอยู่นั่นล่ะ ปวดทุกเดือน ก็มาซื้อทุกเดือน ไม่รำคาญบ้างหรือไง? บางคนกินแล้วดื่มน้ำน้อยจนเป็นโรคกระเพาะต่ออีกน่าใจหายสิ้นดี ดังนั้นกินยาเม็ดคุมกำเนิดแล้วจะไม่ปวดประเดือนอีกเลย ให้รู้ไว้เลยว่านี่คือหนทางที่ดีที่สุดนะ และคุณแม่ที่ตีลูกสาว ตัดออกจากกองมรดกเพราะเห็นลูกกินยาคุมแล้วคิดว่าลูกสาวโกหกว่าป้องกันปวดประจำเดือนคือแม่ที่เชยเฉิ่มสิ้นดี!!
4.ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์นอกมดลูก เพราะลดการบีบตัวของมดลูกที่รุนแรง(ซึ่งตรงกันข้ามกับยาคุมฉุกเฉินที่ทำให้มดลูกบีบตัวอย่างรุนแรงเพื่อขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อน จึงคุมกำเนิดได้เพียง95% แต่ก็มีตัวอ่อนอีก4-5%ที่ฝังตัวสำเร็จ แต่ไปฝังที่ปีกมดลูกซะงั้น ดังนั้นหากท้องจากยาคุมฉุกเฉินก็คือท้องนอกมดลูก ต้องทำใจยอมรับกรรม ผลจากความโง่ของตนเอง เค๊าให้ใช้เฉพาะเวลาโดนข่มขืนหรือเวลาโดนฉุดเท่านั้น ไม่ใช่เอามาใช้จนขายดิบขายดีขนาดนี้ หญิงท้องนอกมดลูกต้องโดนตัดปีกมดลูกเพราะปวดทรมานมากเพื่อรักษาชีวิตแม่ ส่วนลูกก็ต้องตาย
ดังนั้นคงไม่ต้องอธิบายต่อนะว่าผู้หญิงที่กินยาคุมรายวันกับยาคุมฉุกเฉิน ใครฉลาดใครโง่กว่ากัน?)
5.ลดอารมณ์ทางจิตเวชทางด้านลบ เช่น หงุดหงิด โมโหง่าย เครียด(ทั้งก่อนและขณะมีประจำเดือน)จากการหลั่งสารEndorphineหรือสารแห่งความสุขขณะกินยาเม็ดคุมกำเนิด จึงช่วยบรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือนเช่น อ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย วิตกกังวล ท้องอืด มือเท้าบวมหรือปวดเมื่อยตัว
6.ช่วยเร่งการผลัดของเซลล์ผิวชั้นนอกให้ผลัดได้เร็วขึ้น จึงทำให้ผิวพรรณกระจ่างใสทั่วร่างกาย ลดการเกิดสิวอุดตัน ดูมีน้ำมีนวล และกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนใต้ผิวหนังให้เป็นไปตามปกติ ลดภาวะหย่อนยาน ผิวเหี่ยวคล้อย (ผู้หญิงพอแก่ อายุมาก การหลั่งฮอร์โมนเพศจากรังไข่ลดลง ก็เลยเหี่ยวไงเธอ!!)ดังนั้นรู้แล้วใช่มั๊ย?ว่า"การประทินผิวแค่ภายนอกด้วยเครื่องสำอางราคาแพง การเข้าคอร์สผิวพรรณตามคลินิกความงามต่างๆ การสูญเสียเงินซื้อคอลลาเจนทั้งชนิดเม็ดและชงดื่ม ไปอบผิวด้วยสมุนไพรนั่นนี่นู่น เข้าคอร์สสปาผิวฯลฯ จึงเป็นการทำให้ผิวดีขึ้นได้ดี แต่ไม่ได้ดีมากเลยเมื่อเทียบกับการทานยาเม็ดคุมกำเนิด"
7.ปรับสรีระให้มีความเป็นหญิงมากขึ้น เช่นหน้าอกตึงขึ้น เอวคอด สะโพกผาย เส้นผมเงางาม ดูเซ็กซี่มากขึ้น ขนาดผู้ชายกินยาคุมในระยะยาว ยังกลายร่างเป็นหญิงเลย นมมา ตูดมาไรเง้ แล้วถ้าผู้หญิงกินล่ะ จะยิ่งไม่มีส่วนโค้งเว้า เซ็กซี่หนักกว่าเหรอ?
8.ยาเม็ดคุมกำเนิดสามารถรับประทานได้จนถึงอายุ50ปี โดยไม่เกี่ยวกับทำหมันแล้ว/ยังไม่ทำ หรือมีSex/ไม่มีsex เพื่อยืดระยะเวลาของการเข้าสู่วัยทองให้นานออกไป ก็เพราะอายุมากขึ้น รังไข่จะสร้างฮอร์โมนเพศหญิงได้น้อยลง แต่การเติมฮอร์โมนเพศจากยาเม็ดคุมกำเนิดเข้าไป ทำให้ระดับฮอร์โมนเพศในร่างกายคงที่หรือกลับเข้าสู่ระดับปกติ เราก็คงความสาวไว้ได้ไงคะ ^_^วิธีกินที่ถูกต้องคือ กินสม่ำเสมอ3-5ปี แล้วหยุดกิน3เดือน แล้วกินต่อ3-5ปี กิน-หยุด สลับกันไปจนถึงวัยทอง หัวใจสำคัญคือ "พออายุมากขึ้นจะต้องเปลี่ยนเป็นชนิดฮอร์โมนต่ำลงไปเรื่อยๆ"(ปกติยาคุมไม่ควรทานเกิน2ปี แต่สามารถทานนานกว่านั้นได้หากอยู่ภายใต้การดูแลของเภสัชกรและสูตินารีแพทย์)
9.ช่วยให้กระดูกแข็งแรง เพราะเอสโตรเจนจะรักษาสมดุลการสร้างและสลายของแคลเซียมในกระดูก โดยจะลดการสลายแคลเซียมออกจากกระดูก จึงลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนในผู้หญิงก่อนและหลังหมดประจำเดือน
10.ช่วยลดอุบัติการณ์ของมะเร็งเต้านม, มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกและมะเร็งรังไข่
-ป้องกันมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้โดย จะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกออกเป็นปกติตามวัฏจักร ไม่มีส่วนที่เน่าเสียตกค้าง ป้องกันการทับถมของเนื้อเยื่อเสีย จึงป้องกันภาวะเยื่อบุมดลูกหนาผิดปกติในอนาคตได้ (เคยได้ยินมั๊ยล่ะ?ว่า"มีหญิงสูงวัยหลายคนต้องขูดมดลูกเพราะมดลูกหนา"ไงเธอ!!)
-ป้องกันมะเร็งรังไข่ได้โดย จะป้องกันไม่ให้มีการตกของไข่ รังไข่ไม่ต้องทำงานหนักแบ่งตัวอยู่ตลอดเวลา(ปกติหล่อนจะผลิตไข่เดือนละข้าง ข้างละใบสลับกันไปมาซ้ายขวา) เมื่อไม่มีผลกระทบต่อผิวของรังไข่ จึงไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ที่ผิวรังไข่ อุบัติการณ์มะเร็งรังไข่จึงน้อยลงได้
แต่!! อ่านให้ดีนะคะ สำหรับประโยคต่อไป>>ถ้าเป็นมะเร็งหรือมีเนื้อร้ายของมะเร็งซุกซ่อนอยู่ในตัวอยู่แล้ว การกินยาเม็ดคุมกำเนิดจะน่ากลัวมากๆ เพราะมันจะไปกระตุ้นทำให้เซลล์เนื้อร้ายแบ่งตัวจนลุกลามกลับกันซะงั้น!! ดังนั้นก่อนกินจะต้องตรวจร่างกายโดยสูตินารีแพทย์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญสวดๆ
11.ช่วยลดอุบัติการณ์ของภาวะติดเชื้อและการอักเสบในอุ้งเชิงกราน โดยจะทำให้มูกบริเวณปากมดลูกเหนียวข้นขึ้น จึงเสมือนมีเกราะช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคผ่านเข้าไปในโพรงมดลูกและอุ้งเชิงกราน หายห่วงเรื่องการตกขาวทั้งหลายทั้งปวง คงไม่ต้องถามนะคะว่า"ถ้าตกขาวหรือติดเชื้อในช่องคลอดบ่อยๆ จะมีความเสี่ยงต่อโรคอะไร?" ก็มะเร็งไงเธอ!! น่ากลัวมั๊ยล่ะ ว้าว!! กินยาเม็ดคุมกำเนิดแล้ว ภายในสะอาดดีจุงเบย
12.ช่วยลดการเกิดสิว หน้ามัน และขนดก (บางยี่ห้อ)
โดยออกฤทธิ์ต่อต้านฮอร์โมนเพศชาย เช่นYaz, Yasmin, Diane, Sucee, Preme, Oilezz ดังนั้นยาคุมยี่ห้อที่พูดไปจึงได้รับอนุมัติจากอย.ไทยหรือทั่วโลกว่า "คุมกำเนิดหรือเพื่อรักษาสิวได้" คุณแม่ทั้งหลายเลิกวิ่งไล่ตีลูกสาว เพราะไปแอบค้นเจอแผงยาคุมรักษาสิว(ที่ซุกซ่อนไว้ใต้หมอน, ตู้เย็น, ขื่อบ้าน)ได้แล้วนะ คุณแม่อย่าเชยสิคะ!!
13.ลดการคั่งของเกลือและน้ำ ช่วยลดบวม(บางยี่ห้อ) จึงช่วยให้หุ่นเพรียว และรูปร่างที่ดีขึ้น เช่นYaz, Yasmin (แต่2ยี่ห้อนี้ ต้องตรวจดูระดับโพแทสเซียมในกระแสเลือดทุก2-5 ปีด้วยนะ)
14.ลดปริมาณและจำนวนวันที่มีประจำเดือนลง
เป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี และลดการสูญเสียเลือดที่มากเกินไปกับประจำเดือน จึงช่วยป้องกันและลดภาวะโลหิตจาง อาการหน้ามืด วิงเวียน ไม่มีแรงเดินเวลาเป็นเม็นส์ได้ เช่นบางยี่ห้อ สามารถลดจำนวนวันของการมีประจำเดือนจาก3-5 วัน จะลดเหลือเพียงไม่เกิน 4 วัน เช่นYaz, Minidoz
เม็นส์มาน้อยก็อย่าประสาทกินนะ!! บางคนบ้าบอวิ่งกรี๊ดๆๆๆมาหาเภสัชบอกว่ากินยาคุมแล้วเม็นส์มาน้อย อยากได้ยาสตรีไปกินขับเลือดให้มันมาเยอะๆๆๆว่างั้น เภสัชอยากเอาหัวโขกฝาจริงๆบอกเลยนะว่า "อย่าคิดว่าพอเม็นส์มาน้อยแล้วเลือดเสียจะโดนอั้น เธอคิดผิดค่ะ เม็นส์มาน้อยเพราะ เลือดดีเปลี่ยนเป็นเลือดเสียในปริมาณที่น้อยลง ดังนั้นไม่มีของเสียใดๆโดนอั้นคั่งค้างทั้งนั้น กลับบ้านไปกินยาคุมเดี่ยวๆโดยไม่ต้องผีบ้ามาถามหายาสตรีควบกับยาคุมอีกนะ!!!"
นอกจากนั้นยังมียาเม็ดคุมกำเนิดสำหรับผู้หญิงสมัยใหม่ เช่น Cerazette ออกมาใหม่สำหรับผู้หญิงที่ไม่ต้องการมีประจำเดือนอีกต่อไป ลดความรำคาญในชีวิต เหมาะสำหรับผู้หญิงทุกคนที่อายุ35 ปีขึ้นไป, ไมเกรน, เบาหวาน,ความดันโลหิตสูง, อ้วน, กลัวฝ้า, สูบบุหรี่, แพ้เอสโตรเจน
สูตินารีแพทย์และเภสัชกรจะเลือกชนิดของยาเม็ดคุมกำเนิด ให้เหมาะกับผู้หญิงโดยใช้เกณฑ์แบ่งอย่างไร?เราจะแบ่งคุณผู้หญิงออกเป็น3ประเภทคือ
1.ยังไม่เคยกินมาก่อน(Starter)= ต้องได้ชนิดมีEE(Ethinylestradiolหรือฮอร์โมนเพศหญิง จะเขียนระบุไว้ข้างกล่องยาคุม หน่วยคือไมโครกรัมหรือmcg)ต่ำๆไว้ก่อน แล้วค่อยปรับให้มีฮอร์โมนสูงขึ้นเรื่อยๆจนถึงระดับEEที่ทนได้ โดยกินแต่ละยี่ห้อต้องรอให้กินนาน 3-5แผงซะก่อน ไม่ใช่กินแผงแรกแล้วร่างกายปั่นป่วน ก็กรี๊ดดด โยนทิ้งลงถังขยะเลย อันนี้ถือว่าเป็นพวกประสาทกิน(กระต่ายตื่นตูม) ใจเย็นๆหน่อยซิเธอ สาวๆบางคน1-2แผงแรกเกิดผลข้างเคียงจนต้องกินยาแก้คลื่นไส้อาเจียน ไปพร้อมๆกับยาคุมก่อนนอนทุกวัน พอแผงที่3-5ขึ้นไปก็เริ่มดีขึ้นจนสามารถกินยาเม็ดคุมกำเนิดเดี่ยวๆได้
2.เคยกินมาแล้วที่อายุน้อยกว่า35 ปี(Young Swisher) =ต้องถามว่าเคยกินยี่ห้ออะไรมาแล้ว กินแล้วเกิดผลข้างเคียงอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า? ทนผลข้างเคียงนั้นได้มั๊ย? แล้วจะเลือกยี่ห้อที่ตอบโจทย์ลูกค้า
เช่นขอให้นม/ตูดใหญ่ขึ้นกว่านี้ หรือขอให้ผลข้างเคียงลดลงกว่านี้ เป็นต้น (กินยี่ห้อไหนที่เหมาะกับเราแล้วก็กินนาน3-5ปี แล้วค่อยเปลี่ยนยี่ห้อได้)
3.เคยกินมาแล้วที่อายุมากกว่า35ปี(Old Swisher)
=ต้องถามว่าสมัยเป็นสาวกินฮอร์โมนสูงสุดยี่ห้ออะไร? แล้วปรับให้ฮอร์โมนEE ค่อยๆลดหลั่นลงไปเรื่อยๆเมื่ออายุมากขึ้น โดยกินยาคุมที่มีขนาดEEที่เท่ากันต่อเนื่องนาน3-5ปี
แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นยี่ห้อที่มีEEลดลง เช่น กินชนิดEE20mcg นาน5ปี แล้วหยุด3เดือน(ใส่ถุงยาง) จากนั้นกินชนิดEE15mcgนาน5ปี แล้วหยุด3เดือน(ใส่ถุงยาง) แล้วค่อยเป็นชนิดEE0mcgจนถึงวัยทองเป็นต้น
เบื่อมากๆ เพราะในร้านยาจะเจอผู้หญิงที่อายุมากแล้วและวัยรุ่นที่ยังไม่เคยกินยาคุมมาก่อน แต่ดันมาซื้อยี่ห้อที่ทำให้นม-ตูดใหญ่ แถมที่บ้าบอสุดๆ คือ "ดิฉันจะกินยาคุมยี่ห้อเดียวกับที่เพื่อนกินค่ะ" ได้ยินแล้วจะเป็นลม ความถูกต้องคือยังไงล่ะ?
ทางการแพทย์จะเรียงลำดับฮอร์โมนต่ำไปหาสูง ได้ดังนี้
EE 0 microgram(ยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยว) = Exluton, Dailyton, Cerazette(สำหรับคนแพ้Estrogen, อายุเกิน35ปีที่ไม่ควรใช้EE, หญิงให้นมบุตร อย่าลืมว่ากินแล้วจะไม่มีเม็นส์นะ)
EE 15 microgram = Minidoz (ยี่ห้อก็อปปี้คือMinoz)
EE 20 microgram = Mercilon(ยี่ห้อก็อปปี้คือMinny), Meliane(ยี่ห้อก็อปปี้คือAnnylinและCyclomex-20), Yaz (ยี่ห้อก็อปปี้คือSynfonia), Lola
EE 30 microgram = Anna, R den, Microgest, Microgynon, Lermera(ทั้ง5ยี่ห้อตัวยาสำคัญเดียวกันหมดเลย), Nordette-21, Marvelon, Gynera, Diora, Yasmin(ยี่ห้อก็อปปี้คือMelodia), Belara
EE 35 microgram = Diane(ยี่ห้อก็อปปี้คือPreme, Sucee, Magret pink, B-lady, Dafne35), Cilest, Anamai(Mestranol 50 mcg), Margaret(Mestranol 50 mcg)
EE 40 microgram(15เม็ดแรก) = Oilezz
EE 50 microgram =, Lyndiol E, Jenny-FMP, Marnon (ไม่แปลกใจว่าทำไม กระเทยถึงชอบกินยี่ห้อนี้ 5555)
สิ่งที่คุณผู้หญิงต้องทราบ
-ฮอร์โมนยิ่งต่ำๆ ยิ่งต้องเคร่งครัดเรื่องกินตรงต่อเวลามากขึ้น(บวก ลบไม่เกิน30นาที) เพื่อลดผลข้างเคียงเรื่องเลือดออกกระปริดกระปรอยทั้งเดือน ยาคุมกลุ่มนี้กินแล้วปริมาณและจำนวนวันของประจำเดือนยิ่งน้อยลงนะ
-ยิ่งฮอร์โมนสูงเท่าไหร่ ยิ่งนมใหญ่ ตูดใหญ่สะใจ
ปริมาณและจำนวนวันของประจำเดือนจะมากขึ้น
แต่ต้องทำใจยอมรับว่า ผลข้างเคียงก็จะสูงเป็นเงาตามขนาดEEเช่นกัน(เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว ปวดตึงเต้านม เป็นฝ้า กระตุ้นการปวดหัวไมเกรนให้กำเริบบ่อยขึ้น)
ดังนั้นถ้าอยากอกฟู รูฟิต ต้องกินยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเพศหญิงสูงๆ(ผลข้างเคียงก็สูงเป็นเงาตามตัว)
เรียงตามลำดับความอกฟู รูฟิต จากสูงที่สุดไปต่ำ คือ Margaret>Oilezz>Sucee=Diane=Preme=Margaret pink>Yasmin=Gynera=Marvelon=Anna=Lermera=Diora>Mercilon=Yaz=Meliane>Minidoz
กินยาเม็ดคุมกำเนิดนานๆแล้วทำให้มีลูกยากจริงเหรอ? ตอบ>>>>ยาคุมกินแล้วจะทำให้มีลูกง่ายขึ้นหากกินถูกวิธี คือ กิน3-5ปี สลับกับหยุด3เดือน หมายถึงช่วงกินยาคุมรังไข่จะนอนหลับพักผ่อน ไม่ผลิตไข่
ส่วนช่วงที่เว้นรังไข่จะตื่นขึ้นมาทำงานผลิตไข่ตามหน้าที่หล่อน อย่าลืมว่า ช่วงเว้น3เดือนให้ใส่ถุงยาง แล้วเริ่มต้นกินใหม่นาน3-5ปี(1แผงแรกที่เริ่มต้นกินใหม่ให้ใส่ถุงยาง)
สลับกันไปจนถึงวัยทอง 45-50 ปี แต่ถ้าใครที่กินนานเกิน 5 ปี รังไข่จะพักผ่อนจนขี้เกียจไปเลยแล้วไม่ตื่นขึ้นมาผลิตไข่ให้อีกเลย(ภาษาชาวบ้านเรียกมดลูกแห้ง)ก็มีลูกยากได้ ถ้าคิดจะมีลูกปีหน้าก็ให้หยุดยาเม็ดคุมกำเนิดตั้งแต่ปีนี้ เพราะ80%ของผู้หญิงหลังหยุดกินยาคุมจะมีลูกได้ตามปกติภายใน1ปี หมายถึงยาคุมตกค้างอยู่ในกระแสเลือด จนออกฤทธิ์คุมกำเนิดต่อไปได้อีก 1 ปี แต่ก็มีผู้หญิงอีก20% ที่หยุดยาคุมแล้วมีลูกได้เร็วกว่า 1 ปี เช่น ติดได้ทันที หรือบางคนอาจมีลูกได้นานกว่า1ปี เช่น 2-3 ปี หลังหยุด
ดังนั้นเรื่อง การมีลูกยาก ยาคุมจึงเป็นแพะรับบาป และเป็นเรื่องไม่จริงนะคะ เพราะบางคนกว่าจะรอให้มีบ้าน มีรถ มีฐานะ พอคิดอยากมีลูกก็เกิน 35 ปีไปแล้ว พอมีลูกยากก็เลยไปโทษยาคุมซะงั้น ข้อเท็จจริงคือวัยแก่ขนาดนี้ นี้ถึงไม่กินยาคุมก็มีลูกยากของมันอยู่แล้วค่ะ ไม่ดูเหง้าหน้าดูสภาพร่างกายที่ร่วงโรยของตัวเองเลย ขอบอกว่าถ้าอายุขนาดนี้ไม่ควรตั้งท้องแล้วค่ะ เพราะมีความเสี่ยงเรื่องทารกไม่สมบูรณ์ พิการ โครโมโซมบกพร่องมากมาย จากงานวิจัยพบว่า”อายุที่ดีที่สุดที่ท้องแล้วลูกจะสมบูรณ์ที่สุดคือ 30 ปี” ถ้าเกินนั้นต้องรีบหาผัวแล้วนะ เร้วๆๆๆ แซวเล่น
เกลียดคนที่ไปโทษว่า”กินยาคุมแล้วมีลูกยาก มดลูกแห้ง เป็นพวกไม่มีความรู้” สงสารยาคุมจังT_T
วิธีการกินยาเม็ดคุมกำเนิดที่ถูกต้องคือ
1.หากยังไม่เคยกินยาเม็ดคุมกำเนิดมาก่อนเลยในชีวิต หรือเว้นช่วงยาคุมตั้งแต่1แผง(หยุดกินชั่วคราว)
>>>ส่วนใหญ่ร้านยาจะเจอผู้หญิงกลุ่มนี้จะมาขอเริ่มต้นกินยาคุมในวันแรกที่เม็นส์หมด อันนี้เป็นการเข้าใจผิดนะ!! 10 คน ที่เดินเข้ามาในร้านยา เข้าใจผิดซัก8 คนได้เลย แทบกรี๊ดดด!! ทำงี้ได้ไง? ที่ถูกต้องคือ ให้เริ่มต้นกินยาเม็ดคุมกำเนิดเม็ดแรกของแผง ในวันแรกที่เป็นประจำเดือน (ช้าสุดที่พออนุโลมได้คือวันที่5ของการมีประจำเดือน) 1แผงแรกของยาคุม จำไว้ว่าจะต้องใส่ถุงยางร่วมด้วยทุกครั้งที่มีsex เพราะยาคุมยับยั้งการตกไข่ยังไม่ถึง99.99% ในช่วงแรก ถ้าไม่ใส่มีสิทธิ์ท้องได้นะ จะเป็นผัวแบบแฟน ผัวแบบสามีที่อยู่กินกันแล้ว จดทะเบียนสมรสกันแล้วก็ต้องใส่ทั้งหมด ไม่มีข้อยกเว้น ถ้าผัวไม่ยอมใส่ให้ในช่วงแรกๆก็ด่ารุนแรงไปเลยนะ อย่าไปยอม!!
2.หากกินต่อเนื่องเกิน3-5 แผงอยู่แล้ว
2.1 กินยาคุมแบบ21 เม็ด กินหมดแผงแล้วเว้นให้มีประจำเดือน 7 วัน แล้วขึ้นแผงใหม่
2.2 กินยาคุมแบบ22 เม็ด เช่นยี่ห้อ Oilezz กินหมดแผงแล้วเว้นให้มีประจำเดือน 6 วัน แล้วขึ้นแผงใหม่
2.3 กินยาคุมแบบ28 เม็ด เมื่อกินหมดแผงแล้วให้ขึ้นแผงใหม่ได้เลยโดยไม่ต้องมีการเว้น (กินแผงต่อแผงได้เลย เม็นส์จะมาวันไหน ช่างหัวมัน มะต้องไปสนใจเลยนะ!!)
3.กินยี่ห้อไหน ก็ให้กินยี่ห้อนั้นนาน 3-5 แผง แล้วค่อยสรุปว่ามันเหมาะหรือไม่เหมาะกับเรา อย่าเพิ่งด่วนใจร้อนเปลี่ยนยี่ห้อไปซะก่อน (ยกเว้นเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงตั้งแต่แผงแรกๆ เช่นพวกชะนีแพ้ Estrogen อ้วกแตก อ้วกแตน คลื่นไส้อาเจียน เวียนหัวอย่างหนักหน่วง พวกนี้ให้เปลี่ยนยี่ห้อเป็นพวกฮอร์โมนต่ำ หรือชนิดฮอร์โมนเดี่ยวไปเลยแต่ต้องยอมรับว่าจะไม่มีเม็นส์)ผลข้างเคียงที่กล่าวมา เป็นไปได้ว่าสาวๆบางคน หากเป็นไม่รุนแรง ก็อาจต้องกินยาแก้คลื่นไส้ อาเจียน ร่วมกับยาเม็ดคุมกำเนิดในช่วงกิน1-2 แผงแรก รอจนร่างกายปรับตัวได้ก็ค่อยกินยาเม็ดคุมกำเนิดอย่างเดียว
4.กินยี่ห้อเดิมติดต่อกันนาน3-5ปี(ช่วงกินมดลูกเรานอนหลับพักผ่อนไม่ผลิตไข่ ให้มันได้พักผ่อนบ้างเถ่อะนะ อย่าให้มันต้องทำงานหนักนัก)แล้วค่อยหยุด3เดือน ช่วงหยุดให้ใส่ถุงยางอนามัย(รังไข่สะดุ้งตื่นขึ้นมาทำงาน) แล้วกินต่อนาน5ปี(1แผงแรกที่เริ่มกินให้ใส่ถุงยาง) กิน5ปีสลับกับหยุด3เดือน ไปเรื่อยๆจนถึงวัยทอง(45-50ปี)
5.อายุมากขึ้นก็อย่าไปหวังนมใหญ่ สะบึ้มอะไรให้มาก
อายุน้อยให้กินชนิดฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงได้ แต่พออายุมากขึ้นแล้วแนะนำว่า"ให้ลดขนาดฮอร์โมนEEลงซะ แก่แล้วกินยาคุมแล้วนมใหญ่นะ แต่ก็จะไม่ใหญ่เท่าตอนเป็นวัยรุ่น ต้องทำใจด้วย ที่ต้องทำแบบนี้ เพราะหวังผลเรื่องความปลอดภัยต่อโรคหลอดเลือดหัวใจและเนื้อร้าย ต่างๆ" ไงเธอ..
อ่านมาตั้งยืดยาว สรุปได้ว่า
"ยาเม็ดคุมกำเนิดจึงเปรียบเสมือนเป็นสิ่งที่ช่วยเติมเต็มที่ดีที่สุดของผู้หญิง สามารถทานได้โดยโดยไม่เกียวกับ ทำหมัน/ไม่หมัน หรือ มีผัว/ไม่มีผัว" (แต่ต้องหมั่นตรวจดูความเสี่ยงต่อโรคทางหลอดเลือดและเนื้อร้ายต่างๆด้วยนะ)
เราถือว่าโชคดีที่ได้รู้ข้อมูลนี้ เพราะมีผู้หญิงอีกหลายล้านคนทั่วโลกมองไม่เห็นคุณประโยชน์มากมายของยาเม็ดคุมกำเนิดเลย เข้าใจผิดสั้นๆแค่ว่า"ยาคุมก็แค่คุมกำเนิด แล้วจะวิเศษตรงไหน?"จึงมีผู้หญิงหลายล้านคนทั่วโลกที่แก้ปัญหาไม่ตรงจุด เช่น ปวดเม็นส์ก็มาซื้อยาแก้ปวด, อายุมากผิวเหี่ยวมีริ้วรอยก็เสียเงินซื้อคอลลาเจนเดือนละหลายพันบาท, ตกขาวก็มาซื้อยารักษาตกขาว, นมเล็กก็ไปยัดซิลิโคนให้นมใหญ่บวมเป่ง, ตูดเล็กก็ไปซื้อกางเกงในเสริมก้น, เป็นสิวเต็มหน้าเขรอะกรังก็ไปรักษาหน้า, หลงผิดไปกับโฆษณาผลิตภัณฑ์อกฟูรูฟิตสตาร์ทติดง่ายอย่างหน้ามืดตามัว, ว่านนั่นว่านนี่ต้นไม้นั่นนู่นนี่Heeยุ่มHeeขมิบอะไรไปทั่ว, รากนั่นรากนี่จากเทือกเขานี่นั่น หรืออื่นๆหยิบหยุม โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่า ทั้งหมดทั้งมวลทำให้ผู้หญิงดีขึ้นได้ดี แต่ไม่ดีเทียบเท่าเพียงสิ่งเดียวซึ่งก็คือ แถ่น แทน แท๊นนน>>>>>"ยาเม็ดคุมกำเนิดหรือฮอร์โมนเพศเพื่อการคุมกำเนิด"ไงเธอ!! แถมดีขึ้นแบบองค์รวมทั้งกายและคุณภาพชีวิตอีกด้วยด้วย เก๋ไหมล่ะ? ก็เพราะกฏหมายไทยห้ามโฆษณายาเม็ดคุมกำเนิดตรงสู่ผู้บริโภคไงล่ะ!! ผู้บริโภคไทยจึงตกเป็นเหยื่อของกระแสอาหารเสริมจำพวกอกฟูรูฟิตที่ขายเกลื่อนเน็ตเอาง่ายๆค่ะ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
