Classical music concert in the historical Winter Palace of St. Petersburg https://www.myguidestpetersburg.com/things-to-do/st-petersburg-classical-music-concert
ดนตรีรัสเซียที่สามารถจับต้องได้จริงๆจะสามารถย้อนไปได้ราวๆ อย่างน้อยสุด1พันปี บทเพลงที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่ค้นพบคือเพลงประเภท Sul Generis ที่ได้รับอิทธิพลมาจาก Byzantine โดย P. Sokalsky ได้ระบุลักษณะเด่นของดนตรีรัสเซียเป็น 4 ข้อ คือ
ในทางคู่นานกันนั้น ในด้าน Secular music เริ่มมีการพัฒนาจากการที่ราสำนักได้ว่าจ้างเดินทางมายังประเทศรัสเซียในศ.18 โดยคีตกวีที่มาทำงานมักเป็นด้านอุปรากรและบัลเลต์ในเมือง Petrograd เป็นหลัก ตัวอย่างคีตกวีได้แก่ Francesco Araja, Giuseppe Sarti, Tommaso Traetta เป็นต้น โดยคีตกวีเหล่านี้มีบทบาทเป็น choir master, concert player, teacher อุปรากรเรื่องแรกที่เขียนเป็นภาษารัสเซียจริงๆคือเรื่อง Cephalus and Procris ของ F. Araja libretto คือ Sumarokov ประพันธึ้นในปี 1755 แต่ปัญหาที่พบคือสัทสัมพันธ์ไม่สัมผัสกับตัวดนตรี เกิดจาก Araja เพิกเฉยต่อการออกเสียงภาษารัสเซีย โดยภายใต้อิทธิพลองดนตรีอิตาลี ได้มีคีตกวีชาวรัสเซียได้ประพันธ์อุปรากรขึ้นในสมัย Catherine the Great คือ Evstigney Fomin เขียนเรื่อง Американцы และ Vassily Pashkevitch เขียนเรื่อง Tsarevitch Fevey คำร้องเขียนโดย Catherine เอง
Francesco Araja - https://www.discogs.com/artist/2074851-Francesco-Araia
ในสมัย ศ.19 ได้มีแนวคิด National style เกิดขึ้นในรัสเซีย Russian art song ที่มีลักษณะที่เป็นดนตรีพื้นบ้านแล้วนำไปประยุกต์ใช้กับดนตรีตะวันตก นำโดย Alexander Alyabyev, Nicolas Titov, Alexander Varlamov ในปี 1835 Alexey Verstovsky ได้เขียนอุปรากรเรื่อว Askoldova Mogila โดยคำนึงถึงหลักสัทสัมผัสของภาษารัสเซีย
Alexey Verstovsky -
ต่อมาในยุค Glinka ก็ถือได้ว่าเป็นผู้ก่อตั้งดนตรีสำนักรัสเซีย หรือ Russian Music School ถ้าให้เทียบกับด้านวรรณกรรมจะเทียบได้กับ Pushkin เลยทีเดียว โดยผลงานที่โดดเด่นที่สุดของ Glinka คือ Kamarinskaya ที่นำเอาจังหวะเต้นรำของเพลงพื้นบ้านรัสเซียเข้ามาประสมได้อย่างลงตัว