ทำไมบางคนพลิกชีวิตจาก "คนจน" กลายเป็น "คนรวย" ได้ แต่ทำไมคนส่วนใหญ่ทำไม่ได้?
ทำไมบางคนพลิกชีวิตจาก "คนจน" กลายเป็น "คนรวย" ได้ แต่ทำไมคนส่วนใหญ่ทำไม่ได้?
เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจความสำคัญของ "มุมมองเชิงเวลา" หรือ "Time perspective" จึงทำให้ตัดสินใจเพื่อหวังผลแค่ในระยะสั้น แต่ยังมองได้ไม่ไกลพอที่จะหวังผลที่มากกว่าในระยะยาว
ดร. เอ็ดเวิร์ด แบนฟิลด์ (Dr. Edward Banfield) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ศึกษาความเป็นทางทางเศรษฐกิจตลอดเวลาเกือบ 50 ปี เขาสงสัยว่าทำไม "บางคน" สามารถถีบตัวเองจากสังคมระดับล่างไปสู่ความมั่งคั่งได้ แต่คนส่วนใหญ่ทำไม่ได้ เขาสรุปการค้นพบนี้ไว้ในหนังสือ "The Unheavenly City" อย่างเข้าใจง่าย ๆ ว่า ปัจจัยที่สำคัญที่สุด คือ...
ความเข้าใจใน "มุมมองเชิงเวลา"
• คนทั่วไปจะมีมุมมองเชิงเวลาแค่ในระยะสั้นระดับ "ชั่วโมง นาที จะกินอะไรต่อไป จะทำอะไร" และมีผลให้ผ่านไปในแต่ละวันเท่านั้น
• ส่วนคนที่มีความเข้าใจในมุมมองเชิงเวลา จะมองไกลกว่าในระดับ "ปี ทศวรรษ หรือคิดเผื่อถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน" หรือเรียกได้ว่าให้ความสำคัญกับการคิดถึงอนาคต (Future oriented) และมักจะคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตเสมอ
การคิดไกลในระยะยาวแบบนี้ จะช่วยให้คุณมีมุมมองที่ชัดเจนขึ้น และช่วยเพิ่มคุณภาพของการตัดสินใจระยะสั้นได้อย่างยอดเยี่ยม
ดังนั้น หากคุณต้องการพลิกชีวิตของเราจาก "No one" เป็น "Someone" ลองคิดให้ไกลกว่าเดิมไปในระยะยาวสักหน่อย ว่าการกระทำของคุณวันนี้จะทำให้เกิดอะไรขึ้นในอีก 1 ปี 5 ปี 10 ปีข้างหน้าบ้าง ? แล้วเกิดจะอะไรต่อจากนั้นอีกบ้าง ?
ลองฝึกความมีวินัย ทำตัวเองให้เชี่ยวชาญ ควบคุมตัวเองให้ได้ และยินดีที่จะ "ทุ่มเทวันนี้ เพื่อรับของขวัญชิ้นใหญ่ในวันข้างหน้าที่ดีกว่า"
Why some people change their lives from “poor” to “rich”, but why most people can't?
Because most people don't understand the importance of "Time perspective" and make their decisions for short-term results, but, they don't think further to expect the greater results in the long run.
Dr. Edward Banfield of Harvard University studied upward economic mobility for almost 50 years, he wondered why some people can move themselves from labor jobs to riches, but most people can't. His findings are summarized in the "The Unheavenly City" and simple concluded the most important factor that is "the understanding of the time perspective"
• People who have a short-term perspective think of actions in the next "hours, minutes, what to eat, what to do" in just a day.
• Oppositely, People who understand a long-term perspective, they think further in the next "years, Decades, or think for the next generations", or it is called "Future oriented" that they always think what is about to happen in the future.
And long-term thinking sharpens your perspective and ultimately improves the quality of your short-term decision making.
So if you want to change yourselft from "No one" to "Someone". Let's try to think further in the long-term. What will happen in the next 1 year, 5 years, 10 years from your today action, then what will happen next?
Try to practice self-discipline, self-mastery, self-control and willing to "pay the price today in order to enjoy the rewards of a better future tomorrow".
Reference :
- Get Smart!: How to Think and Act Like the Most Successful and Highest-Paid People in Every (Brian Tracy)
ติดามเรื่องราวที่จะช่วยให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้นในทุกวัน แบบเบา ๆ แค่วันละ 0.5%
ถ้าถูกใจช่วยกดไลค์และติดตามเป็นกำลังใจหน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ
- 39
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
