Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่า หลวงพี่ป๊อก
•
ติดตาม
24 ม.ค. 2021 เวลา 04:25 • การศึกษา
อานุภาพ ของความสะอาด เป็นระเบียบที่ไม่ควรมองข้าม
หากกล่าวถึงประเทศที่สะอาด และมีระเบียบทุกคนจะทราบทันทีว่า คงไม่พ้นญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ซึ่งในแต่ละปีก็จะมีนักท่องเที่ยวไปมากแล้วนำความประทับใจในเรื่องนี้กลับมา บอกเล่าสู่กันฟัง
วันนี้หลวงพี่ก็จะมาพูดถึงประเด็น 2 หลักใหญ่ๆว่า คือ
1) ทำไมประเทศญี่ปุ่น และสิงคโปร์จึงเจริญมาก ความสะอาด เป็นระเบียบช่วยพัฒนาประเทศ เขาอย่างไร
2) ในสมัยพุทธกาล ผู้ที่ได้รับฉายาว่า มีปัญญารองจากพระพุทธเจ้า ท่านมีข้อปฏิบัติในเรื่องสะอาดเป็นระเบียบอย่างไร
ก่อนหน้านี้ รศ.วิทยากร เชียงกูล อาจารย์พิเศษ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ตั้งประเด็นที่น่าสนใจว่า ทำไมญี่ปุ่นปฏิรูปประเทศได้เร็วกว่า และมากกว่าไทย
จนได้รับคำกล่าวว่า" ญี่ปุ่นเป็นประเทศตะวันออกประเทศเดียวที่ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจการเมืองสังคมได้สำเร็จ จนกลายเป็นประเทศพัฒนาอุตสาหกรรมตั้งแต่ร้อยปีที่แล้ว "
( ภาพจาก Thailandff.org/post/society/-5-0 )
และท่านก็ได้สรุปประเด็นว่า
ข้อแรก คนญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมสนใจการเรียนรู้ การอ่าน การแก้ปัญหาและการพัฒนาตัวเองมานานแล้ว
ข้อที่ 2 คนญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมที่เน้นหน้าที่ความรับผิดชอบ ความมีเกียรติในการทำงานเพื่อกลุ่ม เพื่อองค์กร เพื่อแคว้น เพื่อประเทศ มากกว่าการแสวงหาความมั่งคั่งส่วนบุคคล
ข้อที่ 3 การมีอุดมการณ์เป้าหมายเพื่อส่วนรวม ทำให้แม้ญี่ปุ่นจะพัฒนามาจากระบบเผด็จการเจ้าขุนมูลนาย ที่เจ้านายมีอำนาจเด็ดขาดในการสั่งการลงมาเป็นทอดๆ แต่พวกเขาก็มีระบบการปรึกษาหารือผ่านคณะที่ปรึกษาสภาผู้อาวุโส สภาผู้ครองแคว้น
ข้อที่ 4 ญี่ปุ่นมองเรื่องการปฏิรูปทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม การศึกษา วัฒนธรรม อย่างครบวงจร และประชาชน เช่น พ่อค้า นักธุรกิจ ชาวนารวย ปัญญาชน มีบทบาทในการพัฒนาทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การศึกษา เรื่องอื่นๆ มาก
ในความเห็นของหลวงพี่ลงความเห็นว่า ประเทศญี่ปุ่นมีอุปนิสัยดัง 4 ข้อตามที่อาจารย์ท่านพูดจนประสบความสำเร็จในด้านปฏิรูปประเทศ
ก็เนื่องมาจากสังคมญี่ปุ่นถูกปลูกฝัง เรื่องความสะอาด เป็นระเบียบตั้งแต่เด็ก จนทำให้เด็กมีอุปนิสัยในการมองภาพรวมได้ดีเนื่องจาก ต้องคอยจัดการสิ่งที่สกปรก ไม่เป็นระเบียบจึงมีนิสัย ช่างสังเกตุ เข้าใจปัญหา รู้จักการแก้ปัญหา และมีความรับผิดชอบตั้งแต่้เด็ก เมื่อโตขึ้นจึงมีอุปนิสัยเหล่านี้ติดตัวไปทำงานร่วมกันในระดับประเทศได้อย่างดีเยี่ยม
ภาพเด็กญี่ปุ่นช่วยกันทำความสะอาดห้อง
คุณครูที่ญี่ปุ่น ปลูกฝักนิสัย สะอาด ระเบียบตั้งแต่เด็ก
ห้องทำงานของคนญี่ปุ่น ที่สะอาด และเป็นระเบียบ ( ภาพจาก MATICHON ONLINE )
ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้จึงทำให้คนญี่ปุ่น เป็นคนที่เรียนหนังสือเก่ง เก็บข้อมูลได้ดี แล้วทำให้มีนิสัยความสุภาพ และตรงต่อเวลาตามมา เพราะไม่ต้องเสียเวลาไปกับการหาของจึงมาตามเวลาที่นัดได้ แถมไม่เสียสัจจะเมื่อรับปากเรื่องเวลาจึงเป็น Credit และสร้างเสน่ห์ ให้เจ้าตัวอีกด้วย ถามว่า ทราบได้อย่างไรว่า ความสะอาดเป็นระเบียบ สร้างความเจริญให้กับประเทศญี่ปุ่นได้จริง ประเด็นนี้ก็ต้องมาศึกษาในระดับภาพรวมของบุคคล คือ
1) ศึกษาจากข้อมูลของผู้ไปเยือนประเทศญี่ปุ่น ภาพถ่าย จะปรากฏข้อมูลเกี่ยวกับความสะอาด เป็นระเบียบของแต่ละคนตรงกัน และที่สำคัญหนังสือของญี่ปุ่นจะเขียนแนวนั้นออกมาเยอะมาก เนื่องจากให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นพิเศษ
2) ความคิด และพฤติกรรมคนญี่ปุ่นจะคิดเป็นระบบ การวางแผนชีวิตเป็นระเบียบมีเวลาเป็นเกณฑ์ในการวัด สามารถดูได้จากตารางการทำงานของคนญี่ปุ่นได้ซึ่งจะมีความเป็นระเบียบมีแบบแผน และใช้เวลาคุ่มค่ามาก
สิ่งเหล่านี้คือคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของญี่ปุ่นที่เป็นลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัวที่ไม่ค่อยมีใครเหมือน และไม่ค่อยเหมือนใคร
ต่อมาประเทศสิงคโปร์
ประเทศสิงคโปร์ ก็มีการปลูกฝังเรื่องความสะอาด และเป็นระเบียบคล้ายกับของคนญี่ปุ่น หากค้นหาประเทศต้นแบบเมืองสะอาดบนอินเตอร์เน็ต หนึ่งในนั้นจะมีประเทศสิงคโปร์ติดมาด้วย สาเหตุที่ทำให้สิงคโปร์ให้ความสำคัญเกี่ยวกับ สะอาด ระเบียบมากนั้นก็จะเห็นได้จากกฏหมายของประเทศสิงคโปร์จะแรงมาก เช่นทิ้งขยะ หรือปัสสาวะในที่สาธารณะก็จะโดนปรับถึง 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็ทำให้คนของประเทศมีคุณภาพมาก จนส่งผลไปถึงระดับการศึกษา โดยดูจากการสอบวัดระดับความรู้ของเด็กๆในประเทศ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ผลการสอบ PISA พ.ศ. 2558 ( ภาพจาก PPTV HD 36 )
ผลการสอบ PISA ด้านวิทยาศาสตร์ พ.ศ. 2558 ( ภาพจาก AdmissionPremium )
( ภาพจาก Facebook : FanMath )
สิ่งเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้สำคัญคือ ความที่เป็นเมืองที่สะอาด เป็นระเบียบจึงทำให้เขาเรียนได้ดี เป็นคนมีคุณภาพ คนที่จะมาพัฒนาประเทศจึงสามารถทำให้ประเทศพัฒนา มีนวัตกรรม ใหม่ๆอยู่เสมอ และที่สำคัญทำให้ด้านการท่องเที่ยวครึกครื้น ทำให้เกิดแหล่งรายได้ที่สำคัญแก่ประเทศได้อีกด้วย จาก 2 ประเทศที่ผ่านมาทำให้เราเห็นอานุภาพความสะอาด เป็นระเบียบกันมาแล้วในด้านการใช้ชีวิต และการศึกษา ข้อมูลนี้ยังไม่ได้พูดถึงการพัฒนาด้านเศษฐกิจโดยละเอียดของประเทศนั้นๆเพราะอาจจะดูแล้ว ยาวเกินไป
ทีนี้เรามาศึกษาในด้านของบุคคลผู้เป็นเลิศทางด้านปัญญารองจากพระพุทธเจ้านั้นก็คือ พระสารีบุตร ผูู้เป็นอัครสาวกเบื้องขวา ว่าท่านดูแลเรื่องนี้อย่างไร
พระสารีบุตร อัครสาวกเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า ( ภาพจาก Winnews )
กิจวัตรของพระสารีบุตร ในยามเช้าของทุกวัน หลังจากพระภิกษุส่วนใหญ่ออกจากวัดไปบิณฑบาตแล้ว พระสารีบุตรมีกิจวัตรประจำวันในการ “เดินตรวจวัด” อยู่ 8 ประการ คือ
1) กวาดสถานที่ที่ยังไม่ได้กวาด
2) ทิ้งขยะที่ยังไม่ได้ทิ้ง
3) เติมน้ำในหม้อที่ไม่มีน้ำ
4) เก็บงำเตียง ตั่ง เครื่องไม้ และเครื่องดินที่เก็บไว้ไม่ดีให้เรียบร้อย
5) ไปตรวจดูภิกษุป่วยไข้ ปลอบใจ ให้กำลังใจ และถามถึงสิ่งที่ต้องการ
6) ไปหาภิกษุใหม่ที่อยู่ในอารามเพื่อให้กำลังใจ และให้โอวาทว่า “อาวุโสทั้งหลายขอท่านจงยินดีเถิด จงอย่าเบื่อหน่ายในพระศาสนาอันมีสาระในการปฏิบัติเลย”
7) ออกบิณฑบาตไปยังสกุลอุปัฏฐากเพื่อแสวงหายาแก้ไข้ หรือสิ่งที่ภิกษุไข้ต้องการ แล้วฝากให้ภิกษุหรือสามเณร ที่ติดตามมานำกลับไปที่วัด จากนั้นท่านจึงไปบิณฑบาตหรือไปยังสกุลอุปัฏฐาก
8) ในคราวที่พระบรมศาสดาเสด็จจาริกเผยแผ่ในชนบท ท่านจะเดินตามอยู่ท้ายขบวนคอยจัดหาน้ำมันทาเท้าให้ภิกษุแก่หรือภิกษุหนุ่มที่เจ็บเท้า และให้ภิกษุหรือสามเณรที่เท้าไม่เจ็บช่วยถือบาตร จีวร
[ที.ม.อ. (ไทย) ๑๓/๓๘๒]
จะเห็นได้ว่า 4 ข้อแรกนั้นท่านให้ความสำคัญกับเรื่องความสะอาด และเป็นความระเบียบมาก อุปนิสัยเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญตัวหนึ่งที่ทำให้ท่านมีปัญญามาก คือเก่งๆมากๆ มีปัญญามากๆ (อันนี้ยังไม่รวมถึงบารมีที่ท่านได้บำเพ็ญมายาวนานแต่กล่าวถึงเฉพาะในปัจจุบันนี้เท่านั้น) เนื่องจากท่านได้อุปนิสัย การสังเกตุว่า อะไรควรอยู่ที่ใด จนส่งผลไปถึงว่า อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ อะไรถูก อะไรผิดผิด อันเกิดจากการฝึกความสะอาด ระเบียบนั้นเอง และ 4 ข้อหลังก็เสริมให้ท่านรู้จักสังเกตุมีความกตัญญู จนส่งผลถึงระบบการไตร่ตรองด้วยปัญญาของท่านละเอียด รอบคอบ จนกระทั่งได้รับการรับรองจากพระบรมศาสดาว่า
“ สารีบุตร เธอไปในทิศใด ทิศนั้นไม่ว่างเปล่าจากพุทธบริษัท โอวาทของเธอเช่นเดียว กับโอวาทของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ”
จากทั้งหมดนี้เราก็สามารถสรุปได้ว่า ความสะอาด และเป็นระเบียบ หากเราได้ทำกันอย่างจริงจัง ปลูกฝังให้กับตนเอง คนรอบข้าง รวมถึงลูกหลาน และจัดสภาพสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเราให้ดี หลวงพี่เชื่อว่า สิ่งเหล่านี้จะ ทำให้เราได้เห็นถึงเหตุอัศจรรย์หากเราได้ปฏิบัติสิ่งเหล่านี้อย่างเต็มที่เช่นกัน เหมือนคำโบราณว่า 10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็น ดังนั้นลงมือทำให้ดีแล้วพิสูจน์ด้วยตนเองจะดีกว่านะ.....ขอเจริญพร
บันทึก
5
2
5
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย