24 ม.ค. 2021 เวลา 04:33 • ความคิดเห็น
วันนี้ (23 ม.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หญิงอายุ 42 ปี ซึ่งเป็นแม่ของเด็กชายอายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 ของโรงเรียนในพื้นที่ ต.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.หินเหล็กไฟ ว่าลูกชายถูกครูผู้ชายในโรงเรียนซึ่งสอนวิชาหน้าที่พลเมือง ชกต่อยทำร้ายจนใบหน้าเขียวช้ำ และมีรอยแผลที่ขา
เด็กชายผู้ถูกทำร้ายเล่าว่า เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (22 ม.ค.) ขณะที่ตนกับเพื่อนกำลังหยอกล้อกันบนอาคารเรียน เป็นจังหวะที่ครูชายผู้ก่อเหตุเดินผ่านมาพอดี ซึ่งเท้าของตนได้ไปเหยียบถูกเท้าครูโดยไม่ได้ตั้งใจ จึงได้ยกมือไหว้ขอโทษ แต่ครูกลับใช้มือตบที่ศีรษะ 1 ครั้ง จากนั้นตนเองกับเพื่อนก็เดินแยกย้ายกันไป แต่พอตนเดินลงมาถึงชั้นล่างของอาคารเรียน ครูก็ได้เดินตามมาพร้อมท้าต่อยกับตน ตนจึงรีบตอบปฏิเสธ แต่ครูแสดงความไม่พอใจแล้วผลักตนจนล้มลง ก่อนจะรัวหมัดชกต่อยตามใบหน้าหลายครั้ง กระทั่งมีคุณครูท่านอื่นเห็นจึงรีบเข้ามาช่วยห้ามปราม
ขณะที่แม่ของเด็กบอกว่า หลังจากลูกชายมาเล่าให้ฟังว่าถูกครูทำร้าย และเห็นร่องรอยเขียวช้ำที่ใบหน้าของลูก  ก็รู้สึกตกใจและเสียใจมาก ไม่คิดว่าครูจะทำรุนแรงถึงขนาดนี้ จึงพาลูกไปแจ้งความที่ สภ.หินเหล็กไฟ   พร้อมกับพาไปตรวจร่างกายที่ รพ.คูเมือง ซึ่งหมอก็ได้ยามากิน เคราะห์ดีที่ลูกชายไม่ได้บาดเจ็บสาหัสหรือกระทบกระเทือนสมอง
ล่าสุดเมื่อช่วงสายวันนี้ (23 ม.ค.) บิดาของครูผู้ก่อเหตุ ก็ได้เดินทางมาขอโทษตนเองและลูกชายที่บ้าน  พร้อมมอบเงินทำขวัญให้จำนวนหนึ่ง โดยบอกว่าลูกชายมีภาวะเครียดควบคุมอารมณ์ไม่ได้ต้องไปรับยากับหมอมารับประทานประจำ แต่ช่วงนี้อาจจะไม่ได้กินยาประกอบกับมีความเครียดจึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น แม่ของเด็กจึงไม่ติดใจเอาความ เพราะไม่อยากให้เรื่องบานปลาย และเป็นห่วงสภาพจิตใจของลูกที่ยังต้องเรียนอยู่ที่โรงเรียนนี้ต่อ หากครูผู้ก่อเหตุสำนึกผิดก็ให้อภัย แต่ต้องไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ได้ไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกันที่โรงพักกันเป็นที่เรียบร้อย
ทั้งนี้ แม่ของเด็กยังอยากให้กรณีลูกชายของตนเป็นอุทาหรณ์ ฝากถึงครูทุกคนว่าควรควบคุมอารมณ์ให้ดี ไม่ควรใช้อารมณ์หรือกระทำรุนแรงกับเด็ก หากเด็กทำผิดก็ควรจะลงโทษให้เหมาะสม ไม่ควรลงโทษจนเกินกว่าเหตุอีกต่อไป
โฆษณา