24 ม.ค. 2021 เวลา 06:11 • ประวัติศาสตร์
✍ ยุคแห่งการเริ่มต้นชุมชนเครื่องเงินบ้านวัวลาย : ช่วงยุคพระเจ้ากาวิละฟื้นเมือง
#ย้อนตำนานต้นกำเนิดชุมชนหัตถกรรมเครื่องเงิน "บ้านวัวลาย" (ตอนที่ 3)
📜 ช่วงยุคพระเจ้ากาวิละฟื้นเมือง
ช่วงเวลาที่เกิดขึ้นนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2317 เป็นช่วงสมัยที่พระเจ้ากาวิละได้ทำการกอบกู้เมืองเชียงใหม่จากพม่าได้สำเร็จ ขณะนั้นพระเจ้ากาวิละมีอายุได้เพียง 32 ปี หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเมืองเชียงใหม่ก็ได้กลายเป็นเมืองร้างจากสงครามร่วม 20 ปี (พ.ศ. 2319-2339) และในช่วงปี พ.ศ. 2325 ได้เกิดเหตุการณ์ผลัดแผ่นดินเจ้าพระยาจักรีได้ปราบดาภิเษกเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี พระเจ้าอยู่หัวทรงถือเป็นความชอบที่พระเจ้ากาวิละนำข้าวของ และไพร่พลถวาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพระเจ้ากาวิละ ซึ่งขณะนั้นอายุได้ 40 ปี เป็นพระยามังรายวชิรปราการกำแพงแก้ว ครองตำแหน่งเจ้าเมืองเชียงใหม่ พระเจ้ากาวิละได้ฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่ให้คืนกลับมาเป็นเมืองอีกครั้ง เมื่อเมืองเชียงใหม่มีอายุครบ 500 ปี (พ.ศ. 1839-2339)
หลักฐานในพงศาวดารโยนกและตำนานราชวงศ์ปกรณ์เชียงใหม่ ได้มีข้อมูลกล่าวไว้ว่า ช่วงปี พ.ศ. 2339 สมัยพระเจ้ากาวิละได้ทำการยกทัพจากเวียงป่าซางเข้ามาตั้งเมืองเชียงใหม่ สมัยนั้นเชียงใหม่ยังคงเป็นเมืองร้าง มีจำนวนผู้คนอาศัยอยู่น้อยมาก เพราะผลพวงจากภัยสงคราม พระเจ้ากาวิละจึงได้ทำการฟื้นฟูบ้านเมืองให้กลับมาดีขึ้นอีกครั้ง โดยได้ใช้นโยบาย “เก็บผักใส่ซ้าเก็บข้าใส่เมือง” คือการกวาดต้อนชาวเมืองเชียงใหม่ และเมืองข้างเคียงให้มาอยู่รวมกัน เพื่อสร้างเมืองเชียงใหม่ให้มั่นคง แต่กำลังคนยังไม่เพียงพอที่จะสามารถรักษาเชียงใหม่ให้มั่นคงดังเดิมได้ พระองค์จึงได้ทรงส่งกองทัพออกไปตีเมืองต่างๆในรัฐไทยใหญ่ ไทยลื้อ (สิบสองปันนา) เมื่อตีได้ก็ทำการกวาดต้อนผู้คนเข้ามาอยู่ในเมืองเชียงใหม่ เพื่อเป็นการเพิ่มกำลังคนให้มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ดั่งในช่วงปีพ.ศ. 2342-2347 พระเจ้ากาวิละได้ทำการอพยพชาวบ้านในแถบลุ่มแม่น้ำคง (แม่น้ำสาละวิน) ในเขตประเทศพม่า เช่น เมืองปุ งัวลาย บ้านสะต๋อย สอยไร่ ท่าช้าง เป็นต้น โดยได้ให้กลุ่มชนช่างฝีมือที่มีความสามารถในการผลิตเครื่องเงินให้ไปตั้งถิ่นฐานอยู่ทางทิศใต้ของกำแพงเมืองเชียงใหม่ ระหว่างกำแพงเมืองชั้นในและกำแพงเมืองชั้นนอก และได้ตั้งชื่อชุมชนนี้ว่า ชุมชนบ้านวัวลาย ตามชื่อเมืองเดิมที่ได้จากมาคือหมู่บ้าน "งัวลาย"
โดยชาวบ้านที่ถูกกวาดต้อนให้มาอยู่ในชุมชนเครื่องเงินบ้านวัวลาย แต่เดิมนั้นเป็นชาวบ้านที่มาจากชุมชนช่างเงิน ที่มีชื่อว่าหมู่บ้านงัวลาย ตั้งอยู่ที่แขวงเมืองปั่นแถบลุ่มแม่น้ำสาละวินฝั่งตะวันตก (หรือเรียกอีกชื่อว่าแม่น้ำคง) เมืองปั่นหรือเมิงปั่นคือหัวเมืองทางภาคใต้ของรัฐฉาน หรือเขตเมิงไต (ไทใหญ่) ประเทศพม่า มีเขตแดนทางตอนใต้และทางตะวันออกอยู่ติดกับเขตประเทศไทยในอำเภอเชียงดาวและอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และในทางทิศเหนืออยู่ติดกับเขตรัฐเชียงตุง ดังแผนที่แสดง..
“เมืองปั่น” คือหัวเมืองทางภาคใต้ของรัฐฉาน โดยหัวเมืองทางภาคใต้ของรัฐฉานจะประกอบด้วย 24 หัวเมือง คือ ต๋องกี, โหโปง, หยองห้วย, สี่แสง, กะลอ, อ่องปาน, ปางตะระ, หยว่าหง่าน, ล๊อกจอก, ป๋างลอง, ฝายขุน, หลอยแหลม, ป๋างโหลง, ลายค่า, น้ำจ๋าง, กุ๋นฮิง, เมืองนาย, ลางเคอ, หมอกใหม่, เมืองปั่น, เกซี, เมืองกึ๋ง, เมืองสู้ และเมืองหนอง
ดังนั้นประชาชนที่ประกอบเป็นชาวเชียงใหม่ในปัจจุบัน จึงมีทั้งชาวไทยญวนพื้นเมือง ชาวไทยใหญ่ ไทยลื้อ ไทยยอง และไทยเขิน โดยผู้คนที่ถูกกวาดต้อนมาส่วนใหญ่ คือ กลุ่มช่างฝีมือที่มีความรู้ และมีทักษะในวิชาช่างศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านหลายประเภท เช่น ช่างเงิน, ช่างคำ (ทอง), ช่างฆ้อง, ช่างต้อง, ช่างแต้ม (วาด), ช่างทำเครื่องเขิน, ช่างกระดาษ, ช่างเคี่ยน (กลึงไม้), ช่างทำร่ม เป็นต้น ช่างเหล่านี้ถูกนำมาไว้ในตัวเมือง และรอบๆ เมืองเชียงใหม่ ในแต่ละด้านของประตูเมือง เพื่อเป็นนโยบายที่ต้องการสร้างความเจริญให้แก่บ้านเมือง ในปัจจุบันก็ยังคงมีลูกหลานช่างเหล่านั้นหลงเหลืออยู่
เนื้อหาในบทความ ได้นำมาจากเรื่องราวในการทำวิทยานิพนธ์ของผู้เขียนเอง คือวิทยานิพนธ์เรื่องอัตลักษณ์ชุมชนวัวลาย จังหวัดเชียงใหม่ สู่เครื่องประดับร่วมสมัย ปีการศึกษา 2563 ภาควิชาออกแบบเครื่องประดับ มหาวิทยาลัยศิลปากร
โฆษณา