Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สิ่งที่ฉันกลัวคือการไม่ได้เที่ยว
•
ติดตาม
24 ม.ค. 2021 เวลา 07:01 • ท่องเที่ยว
โดนเห็บกัด!! ของฝากจากป่า
ประสบการณ์จำไม่ลืม ครั้งหนึ่งที่ดอยหลวงตากมีของฝากกลับมาด้วย...
หลังจากจบทริปขึ้นดอยหลวงตากก็เริ่มมีความรู้สึกเจ็บที่หลังนิด ๆ อาการเหมือนเล็บไปข่วนโดนแล้วถลอก เมื่อเอามือคลำดูก็รู้สึกเหมือนเป็นเสก็ดแผลเล็ก ๆ ด้วยความที่อยู่ด้านหลังมองไม่เห็นจึงปล่อยผ่านและไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าเป็นเสก็ดแผลเต็มที่
กัดอยู่แบบนี้ 3 วันจ้าาา
จนเวลาผ่านล่วงเลยไป 3 วัน เริ่มรู้สึกเจ็บมากขึ้น เลยใช้มือถือถ่ายรูปแล้วเอามาดูถึงกับต้องตกใจ!! เพราะสิ่งที่เห็นไม่ใช่เสก็ดแผลแต่เป็น “เห็บ” ณ ตอนนั้นด้วยความวิตกกังกลก็พยายามเอามือดึงแต่ดึงเท่าไหร่ก็ดึงไม่ออก สุดท้ายเลยเอากรรไกรตัดเล็บงับตัวเห็บนั้นออกแทน ซึ่งพอได้สติถึงได้รู้ว่ามันเป็นวิธีที่ผิด!! เพราะจะทำให้เขี้ยวของเห็บหักคาอยู่อย่างนั้น
จากการหาข้อมูลในตอนนั้นวิธีดึงเห็บออกจากผิวหนังที่ถูกต้องคือควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดบริเวณที่เห็บกัดก่อน แล้วจึงดึงออกด้วยแหนบโดยไม่บิดหรือกระชาก
หลังจากใช้กรรไกรตัดเล็บตัดตัวเห็บนั้นออกไปแล้วผลปรากฏว่า 2 วันให้หลังมีอาการคันมากบริเวณที่เห็บกัด ทำให้ต้องเกาจนเกิดแผลเล็ก ๆ ตอนนั้นไม่ไดคิดอะไรเพราะได้ข้อมูลจากเพื่อนคนหนึ่งที่เคยถูกเห็บกัดเหมือนกันก็สามารถหายได้เองโดยใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ และแล้วแผลก็เริ่มแห้งและเสก็ดก็หลุดออก แอบคิดดีใจว่าคงหายแล้ว แต่...
มันไม่ใช่อย่างที่คิด หลังจากที่เสก็ดแผลแห้ง ๆ หลุดออกมันกลับกลายมาเป็นแผลเปียกอีกครั้งและคันมาก จึงรีบไปซื้อยามาทาหวังให้อาการดีขึ้นและหายไป ปรากฏว่ามันวนเวียนเป็นอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คือมีอาการคัน เกิดแผลเปียก แผลแห้ง เสก็ดหลุด แล้วก็กลับมาเป็นแผลเปียกใหม่ เราอดทนทายาและวนเวียนอยู่อย่างนี้ด้วยความหวังว่ามันจะหาย
แผลที่แห้งจนเป็นเสก็ด
จนกระทั่งผ่านไป 5 เดือน ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นตัดสินใจไปหาหมอ!! จากที่หมอตรวจดูแล้วน่าจะมีเขี้ยวของเห็บฝังอยู่จริง ๆ ทำให้พิษยังคาอยู่ ส่วนเนื้อบริเวณนั้นตายหมดแล้วการรักษาจึงจำเป็นต้องคว้านเนื้อบริเวณนั้นออก!! แล้วหมอก็ได้นำชิ้นเนื้อส่วนนั้นไปตรวจหาผลต่อว่าได้กลายเป็นเนื้อร้ายหรือไม่ โชคดีที่ผลออกมาไม่มีอะไร แต่หมอก็ยังทิ้งท้ายไว้ว่าให้คอยสังเกตุตัวเองว่ามีต่อมน้ำเหลืองบวมโตหรือไม่ เพราะตัวเห็บมีเชื้อโรคอาจทำให้เกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้ หากมีอาการให้รีบกลับมาพบแพทย์
ได้ฟังตอนนั้นเข่าแทบทรุดลมก็แทบจับ ไม่คิดว่าเห็บตัวเล็กกว่าหัวไม้ขีดไฟจะสามารถทำให้เรื่องบานปลายได้ขนาดนี้ ทำให้เราต้องเสียเนื้อผิวหนังบริเวณนั้นไป แถมอาจเสี่ยงการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองอีกด้วย
มาถึงปัจจุบันนี้ผ่านมาแล้ว 2 ปี ยังไม่มีอาการใด ๆ เกิดขึ้น คงเป็นโชคดีของเราแล้ว อยากฝากไว้เป็นอีกข้อที่ควรระวังสำหรับคนที่ชอบเที่ยวป่าเที่ยวเขา ให้ระมัดระวังเหล่าแมลงตัวเล็กตัวน้อยนี้ให้ดี ๆ เพราะมันอาจมีพิษสงค์ร้ายแรงกว่าที่เราคิดก็เป็นได้...
สำหรับท่านผู้อ่านหากใครเคยมีประสบการณ์ถูกเห็บกัดเหมือนกันก็สามารถคอมเมนต์มาเล่ามาแชร์แลกเปลี่ยนกันได้นะคะ
ดอยหลวงตาก สถานที่ที่ฉันพบเจอเห็บมฤตยู
2 บันทึก
2
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย