25 ม.ค. 2021 เวลา 14:25 • ไลฟ์สไตล์
ประสบการณ์ใช้รถชาร์จแบตไฟฟ้า100% จากหนูทดลองรุ่นแรก😆
วันนี้ไม่ได้มาพร้อมกับบทความทางการแพทย์นะคะ แต่อยากมาเล่าประสบการณ์ส่วนตัวการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า
จริงๆกระแสรถพลังงานไฟฟ้ามีมานานแล้วในต่างประเทศ
แต่ในประเทศไทยเชื่อว่าบีคงเป็นหนูทดลองรุ่นแรกๆ ที่ได้ใช้รถไฟฟ้า สมัยมาบุกตลาดเมืองไทยใหม่ๆเลยค่ะ
การศึกษาทางการตลาดค้นพบว่าคนที่ซื้อรถไฟฟ้า ต้องมีลักษณะ 2 อย่างคือเป็นคนแนวคิดสมัยใหม่ และกล้าตัดสินใจที่จะเปลี่ยนค่ะ ( หุๆ สงสัยจะมีครบทั้ง 2 ข้อ เลยได้เป็นหนูตัวแรกๆค่ะ 5555 )
ถามว่าเพราะอะไรถึงซื้อรถไฟฟ้า
เราทุกคนเห็นปัญหาสิ่งแวดล้อมและมลภาวะทุกวันนี้อยู่แล้วใช่มั้ยคะ ถ้าจะมีอะไรที่เราเปลี่ยนแปลงได้ เพื่อจะไม่เพิ่มมลภาวะให้กับโลกใบนี้ มันก็ดีมากๆเลยใช่มั้ยล่ะคะ
ข้อดีของการใช้รถพลังงานไฟฟ้า
1. 😚Bye Bye ปั้มน้ำมัน. ไม่ว่าราคาน้ำมันจะขึ้นจะลง ไม่มีผลกับเราค่ะ เพราะเราใช้พลังงานจากการชาร์ตไฟฟ้า 100% ไม่เคยต่อคิวเข้าปั๊มน้ำมันเวลาราคาน้ำมันลงอีกเลยค่ะ
2. 😍สมรรถภาพการขับขี่ ต้องบอกว่าใครขับรถไฟฟ้าแล้วจะไม่อยากกลับไปขับรถน้ำมัน หรือ hybrid อีกเลยค่ะ เพราะมันตอบสนองรวดเร็ว เรียกว่าเปิดปุ๊ป ติดปั๊ป หลังติดเบาะนี่ก็มีประสบการณ์มาแล้ว แต่ห้ามลอกเลียนแบบนะคะ
3. ☺️ยิ่งขับเยอะยิ่งคุ้ม range ของการชาร์ตไฟ 1 ครั้งวิ่งได้ประมาณ 335 กิโลเมตรค่ะ (แล้วแต่รุ่นของรถ) ลองคิดว่าถ้าเป็นน้ำมันคงต้องเติมทีเป็นพัน แต่นี่ชาร์ตไฟบ้านตกราคา 0.5-1.09 บาทต่อกิโลเมตรค่ะ ถูกกว่ากัน 3 เท่า
2
4. 🥰save the planet ไม่ปล่อยควันเสียให้กับสิ่งแวดล้อม เราเปลี่ยนแปลงทุกคนในโลกไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ นั่นก็เพียงพอแล้วค่ะ
ทุกวันนี้เสาร์อาทิตย์จะชอบขับรถไปกินลมชมวิว พาลูกเที่ยวรอบๆกรุงเทพ เรียกได้ว่านนทบุรี. นครปฐม ปทุมธานีเก็บแต้มไปทีละอาทิตย์ๆไม่ซ้ำกันเลยค่ะ
1
เวลาขับรถไปเที่ยวพัทยา เขาใหญ่ ระยอง หัวหิน จะภาคภูมิใจมากยิ่งถ้าเริ่มต้นชาร์จไฟเต็มไปจากบ้าน. แล้วไปพักโรงแรมที่มีบริการชาร์จรถไฟฟ้า ชาร์จไฟเต็มอีกรอบแล้วขับกลับมา.
เหมือนชั้นไม่เสียค่าเดินทางซักบาท💃🏼YES!
1
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนนะคะ ที่จะเหมาะกับรถไฟฟ้า
🚗รถไฟฟ้าจะใช้ได้ต้องมาคู่กับระบบชาร์จไฟค่ะ ซึ่งอาจติดตั้งที่บ้านได้ แต่ถ้าคนอยู่คอนโดก็จำเป็นต้องใช้สถานีชาร์จไฟของบริษัทเอกชนที่ เปิดให้บริการค่ะ
สถานีชาร์จระแวกในกทม มีAC chargerอยู่ทั่วไปและกำลังจะมีเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
สถานีบริการปัจจุบันส่วนใหญ่เป็น AC charger คือชาร์จช้าเหมือนกับไฟบ้านจะเต็มใน 6-8 ชั่วโมง
ส่วนระบบDC charger(ชาร์จเร็ว) แบบครึ่งชั่วโมงเต็มยังไม่เปิดให้บริการอย่างแพร่หลายค่ะ
🚙 อีกอย่างการเดินทางไกลด้วยรถไฟฟ้าต้องวางแผน 2 เสมอ เพราะปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้คือที่ชาร์จค่ะ ถ้าเกิดสถานีปลายทางไม่มีที่ชาร์จก็จะขนหัวลุกทีเดียวค่ะ. บางทีถึงกับต้องขึ้นยานแม่
2
และการชาร์จแต่ละครั้งเป็น AC charger ซึ่งต้องใช้เวลานาน
ปัจจุบันเริ่มมีการเพิ่มสถานีชาร์จออกมาเรื่อยๆ ทั้งAC และ DC charger ตามหัวเมืองใหญ่ๆทั่วประเทศ คาดว่าปัญหานี้คงจะน้อยลงในอนาคตค่ะ
สรุปว่าการขับรถพลังงานไฟฟ้า ทำให้เราปรับตัวไปกับมัน
เริ่มแรกด้วยความรู้สึกตื่นเต้นปนหวาดเสียวหน่อยๆ ..เหลือแบตเท่านี้จะถึงมั้ย
ต่อมา พอยิ่งขับ. ยิ่งรู้จัก ยิ่งหลงรัก
ตอนนี้มีความสุขกับเจ้ารถไฟฟ้าคันนี้มากๆค่ะ. 😍🥰😘
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันมาจนจบนะคะ
ใครใช้รถพลังงานไฟฟ้า หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถไฟฟ้าอยู่บ้างคะ. มาร่วมแชร์ประสบการณ์กันได้นะคะ.
โฆษณา