พ.ศ.๒๔๖๒ จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ
เสนาธิการทหารบก ทรงมีพระดำริให้กรมอากาศยานทหารบกทดลองการคมนาคมทางอากาศเป็นครั้งแรกโดยนำ
เครื่องบินบรรทุกถุงไปรษณีย์จากดอนเมืองไปส่งที่จังหวัดจันทบุรีโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเยี่ยมสนามบิน
จันทบุรีนำส่งถุงไปรษณีย์ทั้งไปและกลับ การแสดงการบินเพื่อหารายได้มาจัดซื้อเครื่องบินเพิ่มเติม
จากผลของการบินเดินทางไปจังหวัดจันทบุรีนับว่าได้ผลสำเร็จดีทุกประการ จอมพล สมเด็จพระเจ้า
บรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ เสนาธิการทหารบก ได้แสดงความชื่นชม
และทรงเห็นว่า สมควรจัดการบินไปสู่จังหวัดอื่น ๆ อีก เพื่อให้ข้าราชการพ่อค้าคหบดีตามจังหวัดต่าง ๆ ได้ดู
และช่วยอุดหนุนทางด้านการบิน พร้อมทั้งได้ออกแถลงการณ์โดยมีข้อความสำคัญตอนหนึ่งว่า
“...กำลังในอากาศเป็นโล่อันแท้จริงอย่างเดียว ที่จะกันมิให้การสงครามมาถึงท่ามกลางประเทศของเราได้
ทั้งเป็นประโยชน์ใหญ่ยิ่งในการคมนาคมเวลาปกติ...”
หลังจากนั้นได้ทำการส่งถุงไปรษณีย์ทางอากาศและแสดงการบินให้ประชาชนได้ชมตามจังหวัดต่าง ๆ
เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการมีเครื่องบินไว้ใช้ในราชการ และจะได้ร่วมกันบริจาคเงิน
ซื้อเครื่องบินให้แก่กรมอากาศยานทหารบก ทำให้ทางราชการได้รับเงินบริจาคซื้อเครื่องบินจาก พระบรมวงศานุวงศ์
ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ตลอดจนพ่อค้า ประชาชน เป็นจำนวนมากถึง ๓๑ เครื่องกรมอากาศยานทหารบก จึงได้จารึก
นามแต่ละจังหวัดไว้ข้างลำตัวเครื่องบินเพื่อเป็นอนุสรณ์สืบไป และยิ่งนานวันยิ่งมีคนพอใจ ที่จะบริจาคเงินบำรุง
ในกิจการบินกันมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างประชาชนและกองทัพอากาศว่า “กองทัพอากาศ
เป็นของประชาชนมาช้านานแล้ว”
ในปี พ.ศ.๒๔๖๔ มีการพัฒนาการสร้างสนามบินในต่างจังหวัดขึ้นอีกหลายแห่ง โดยเป็นความร่วมมือ
ระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงมหาดไทย อาทิสนามบินจังหวัดอุบลราชธานี สนามบินจังหวัดร้อยเอ็ด
สนามบินจังหวัดขอนแก่น และจากนั้นก็เริ่มมีการสร้างสนามบินในจังหวัดต่าง ๆ ในทุกภาคของประเทศไทย
ในปีเดียวกันได้เกิดไข้ทรพิษและอหิวาตกโรคระบาดที่อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นภัย
ร้ายแรงแก่ประชาชน จำเป็นต้องส่งแพทย์และเวชภัณฑ์เข้าไปช่วยเหลือโดยด่วน กรมสาธารณสุขจึงขอให้
กระทรวงกลาโหมช่วยเหลือในการส่งแพทย์และเวชภัณฑ์โดยทางเครื่องบิน กรมอากาศยานทหารบกจึงจัดเครื่องบิน
นำแพทย์ ๑ คน และเวชภัณฑ์น้ำหนัก ๑๒๐ กิโลกรัม ออกเดินทางจากสนามบินหนองบัว จังหวัดนครราชสีมา
เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๔๖๔ ไปช่วยบรรเทาทุกข์ได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาบิน ๓ ชั่วโมง ๘ นาทีซึ่งเมื่อเทียบกับ
การเดินทางทางอื่นในเวลานั้นต้องใช้เวลาถึง ๒ สัปดาห์