25 ม.ค. 2021 เวลา 11:25 • ประวัติศาสตร์
ส่วนใหญ่เรารู้จักภูติผีปีศาจทั้งของไทยและทางฝั่งตะวันตกหรือไม่ก็ญี่ปุ่นกันดีอยู่แล้ว
โพสนี้จะขอนำทุกท่านรู้จักกับ
ภูติผีปีศาจที่อยู่ในเรื่องเล่าตำนานพื้นบ้านของ"ชาวอาหรับ" จะมีชื่อเรียกอย่างไรบ้างนั้นเชิญกดอ่านได้ตามรูปเลยครับ
ขอขอบคุณแหล่งอ้างอิง
الغول : أسطورة عربية بين الواقع والخيال
โดยغفران حبيب
الطنطل..حكايا الأهوار وأساطيرها
โดยلبنى ياسين
حكايات من ندهتهم "النداهة" من أهل مصر.. اخترعها القتلة للهروب من الإعدام.. وصدقها الريفيون بحثا عن الحب.. وعلم النفس يحلل الأسطورة: "النداهة" هى كل الرغبات المكبوتة بسبب القهر
ฆูล - غول
"ฆูล - غول" สิ่งมีชีวิตในตำนานเรื่องเล่านิทานพื้นบ้าน สันนิษฐานว่าชาวอาหรับได้รับอิทธิพลมาจากสัตว์อสูรในอารยธรรมสุเมเรียนและอัคคาเดียน
ชื่อของมันคือ gallo
ชื่อเสียง : เป็นที่รู้จักกันในคาบสมุทรอาหรับ
ลักษณะทางกายภาพและเรื่องเล่า :
"ฆูล" มีลักษณะร่างกายขนาดใหญ่ มีขนปกคลุม อาศัยตามสุสาน,ทะเลทรายหรือสถานที่รกร้าง มันมักหลอกล่อคนที่ไม่ระมัดระวังเข้าไปในทะเลทรายหรือสถานที่ที่ถูกทิ้งร้างเพื่อฆ่าและกินเหยื่อที่โชคร้าย สิ่งมีชีวิตนี้ยังออกล่าเหยื่อที่เป็นเด็กเพื่อดื่มเลือด และพวกมันยังชอบขโมยทรัพย์สินมีค่าและกินซากศพ
ตอนตอล - طنطل
"ตอนตอล - طنطل" สิ่งมีชีวิตเรื่องเล่าในตำนานนี้มีรากเหง้ามาจาตำนาน "อิห์ฟิซ - إحفيظ"
สมัยโบราณมีอาณาจักรใหญ่สองอาณาจักรทางตอนใต้ของหุบเขาเมโสโปเตเมียคือ
อาณาจักร "อักรุ(อาเคอร์) - العكر" และ
อาณาจักร "อาบู ชาซิรและอิห์ฟิซ"
ทั้งสองอาณาจักรต่างเจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งร้ำรวย พวกเขาสร้างซุ้มประตูโค้งอย่างปราณีตและวิหารที่หรูหรา พวกเขามีสวนปาล์มและสวนผลไม้กว้างใหญ่และพวกเขายังสร้างกำแพงที่แข็งแกร่งเพื่อป้องกันน้ำท่วม
ต่อมาพวกเขาฝ่าฝืนศรัทธา พวกเขาจึงถูกลงโทษพลิกเมืองทั้งเมืองด้วยแผ่นดินไหวและน้ำท่วม ทำให้ทรัพย์สมบัติมหาศาลจมอยู่ใต้ซากปรักหักพัง "ตอนตอล" ได้ถูกสั้งให้มีหน้าที่ปกป้องไม่ให้ใครสามารถมาเอาสมบัติไปได้ตำนานดังกล่าวมีความคล้ายกับมหากาพย์กิลกาเมซ
ชื่อเสียง : เป็นที่รู้จักทางตอนใต้ของอิรักและคูเวต
ลักษณะทางกายภาพและเรื่องเล่่า :
"ตอนตอล" สามารถจำแลงเป็นมนุษย์สัตว์หรือสิ่งของมันอาศัยในหนองน้ำทางตอนใต้ของอิรัก
มันจะออกมาตอนมาพลบค่ำทำให้คนที่สัญจรผ่านเกิดความหวาดกลัว เล่ากันว่าชายคนนึงได้ขโมยวัตถุมาชิ้นนึงจากบริเวณที่มันอยู่อาศัย เช้าวันต่อมามีคนพบศพของเขาในสภาพถูกตะไคร่น้ำพันธนาการไว้ทั้งๆที่บริเวณรอบๆนั้นไม่ใกล้กับหนองน้ำเลย
อันนะดาฮะห์ - النداهة
"อันนะดาฮะห์ - النداهة" ถือเป็นหนึ่งในตำนานที่มีชื่อเสียงที่สุดในชนบทของอียิปต์ และตำนานดังกล่าวยังคลายคลึงกับตำนานนางเงือกเรื่องเล่าจากกรีก
ชื่อเสียง : เป็นที่รู้จักกันในชนบทของอียิปต์
ลักษณะทางกายภาพและเรื่องเล่่า :
"อันนะดาฮะห์" มักปรากฏตัวในรูปลักษณ์หญิงสาวสวย เธอจะปรากฏตัวช่วงเวลาค่ำตามท้องไร่และลำน้ำ เธอจะเรียกชื่อชายหนุ่มบางคนที่โชคร้าย เล่ากันว่าไม่มีใครสามารถต้านทานเสียงเรียกของเธอได้ เพราะเสียงอันไพเราะของเธอซึ่งจับใจ เมื่อเหยื่อตามเสียงเรียกนั้นไป เขาจะถูกพบเป็นศพในวันรุ่งขึ้น
บางครั้ง "อันนะดาฮะห์" ตกหลุมรักเหยื่อ เธอจะพาเขาไปโลกของเธอและแต่งงานกับเขา คนๆนั้นจะหายสาบสูญอย่างไร่้ร่องรอย และจะปรากฏอีกทีในร่างที่ไร้วิญญาณว่ากันว่า สาเหตุมาจากเขาต้องการทิ้งเธอ เธอแก้แค้นเขาด้วยการฆ่าเขา เพราะกลัวว่าเขาจะเปิดเผยความลับเกี่ยวกับโลกของเธอ
อุมมุ ซิบยาน - ام الصبيان
"อุมมุ ซิบยาน - ام الصبيان" สิ่งมีชีวิตในตำนานโบราณ มีการเชื่อมโยงในเรื่องเล่านี้กับเรื่องเล่าในอารยธรรม
สุเมเรียน มันปรากฏในลักษณะปีศาจลมพายุ ในเรื่องเล่าของชาวยิวมันปรากฏในรูปลักษณ์ปีศาจกลางคืน และอีกหนึ่งข้อสันนิษฐาน เนื่องจากไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงได้ในการแท้งบุตรของสตรีในยุคโบราณ
ชื่อเสียง : เป็นที่รู้จักในอ่าวอาหรับและทางตะวันตกเฉียงใต้ของอิหร่าน
ลักษณะทางกายภาพและเรื่องเล่่า :
"อุมมุ ซิบยาน" มักปรากฎในรูปลักษณ์หญิงชราหน้าตาน่ากลัวมีขาเป็นลาและเปลวไฟสีฟ้า
มันมักจ้องทำร้ายเด็กและสตรีที่ตั้งครรภ์ จนแท้งบุตร เชื่อกันว่ามันมีอายุมานานก่อนยุคของกษัตริย์โซโลมอน
ครั้งหนึ่งกษัตริย์โซโลมอนจับตัว "อุมมุ ซิบยาน"
มาขังไว้และลงโทษมัน หลังจากที่มันออกอาละวาดทำอันตรายต่อเด็กและหญิงตั้งครรภ์ และเขาจะไม่ปล่อยมัน จนกว่ามันจะยอมมอบพันธสัญญาต่อเขา ต่อมารู้จักกันในชื่อ "حجاب السبع عهود"
ฮิญาบุซซับอะอุฮุด - "ม่านแห่งพันธสัญญาทั้งเจ็ด"
ซึ่งเกี่ยวข้องกับพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
ใครที่ขอความคุ้มครองด้วยนามของพระองค์จะรอดพ้นจากอันตรายของมัน
อัลอัซรูฏ - العظروط
"อัลอัซรูฏ - العظروط" อีกหนึ่งตำนานพื้นบ้านสันนิษฐานว่ามาจากการพบศพบนถนนหนทาง โดยไม่สามารถหาสาเหตุการตายที่แท้จริงได้
ชื่อเสียง : เป็นที่รู้จักกันในเมืองฮัดรอเมาต์ เยเมน
ลักษณะทางกายภาพและเรื่องเล่า :
"อัลอัซรูฏ" หรืออีกชื่อหนึ่ง طاوى الليل - ตอวัลลัยลุ
(นักบวชในคืนมืด)
 
มักปรากฏกายในชุดนักบวชหรือรูปร่างเงาดำคล้ายมนุษย์ เมื่อเหยื่อเคราะห์ร้ายเข้าใกล้มัน มันจะหลอกหลอนตามความกลัวของคนๆนั้น จนกว่าจะเสียสติหรือหัวใจวายตาย และมันจะค่อยๆไปหายในเงามืดว่ากันว่า มันไม่สามารถทำอันตรายคนที่ไม่กลัวมัน
อุมมุ ดูวัยซ์
"อุมมุ ดูวิซ - ام الدويس" เรื่องเล่าตำนานนี้ชื่อของเธอ มีที่มาจากเครื่องมือที่ใช้สังหารเหยื่อมีลักษณะคล้ายเคียว ในภาษาอาหรับท้องถิ่นเอมิเรตส์ เรียกว่า "داس" - ดาซ
ชื่อเสียง : เป็นที่รู้จักในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ลักษณะทางกายภาพและเรื่องเล่า :
"อุมมุ ดูวิซ" เล่ากันว่าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดคนหนึ่ง เนื่องจากลักษณะทั้งความงามความอ่อนโยนความอ่อนหวานของการสนทนาและกลิ่นกายที่หอมเย้ายวน ทำให้เหยื่อต้องมนต์สะกดได้โดยง่าย
แม้ภาพที่บรรยายดูเพอร์เฟค แต่เธอมีขาเป็นลาและมือข้างนึงเป็นเคียว
มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับคนที่พบเจอเธอ
ชายหนุ่มคนนึงกำลังเดินทางจาก เคาว์ฟะกานไปกัลบาอ์(เป็นสถานที่ในเอมิเรตส์) บนเส้นทางเปลี่ยวห่างไกลผู้คน เขาได้พบสาวสวยที่มีกลิ่นกายหอมดั้งมนต์สะกด
ขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะตามหญิงปริศนาไป เขาฉุกคิดได้ว่า ทำไมสาวสวยแบบนี้ถึงปรากฏในสถานที่เปลี่ยวเพียงลำพัง เขาตระหนักได้ว่าเธอไม่ใช่มนุษย์เธอคือ "อุมมุ ดูวิซ" เขารีบหลบหนีและซ่อนตัวพร้อมขอความคุ้มครองจากพระเจ้า จนกระทั้งเธอหายไป
อัลนัมนัม - النمنم
"อัลนัมนัม - النمنم" ตำนานเรื่องเล่าที่ครั้งนึงทำให้พ่อแม่ไม่กล้าส่งลูกไปโรงเรียน
ชื่อเสียง : เป็นที่รู้จักในแคว้นฮิญาซ ซาอุดีอาระเบีย
ลักษณะทางกายภาพและเรื่องเล่า :
"อัลนัมนัม" มีลักษณะฟันแหลมใหญ่มีขนปกคลุมมีหาง,ขาเป็นลา มันสามารถจำแลงเป็นมนุษย์ได้
มีเรื่องเล่่ามากมายเช่นเดียวกัน ผู้ที่พบเจอกับ "อัลนัมนัม" แต่ที่เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์มากที่สุด เป็นเรื่องราวที่อ้างถึง ตำนานนักร้องหญิงของซาอุดีอาระเบียในยุคแรกๆ ชื่อของเธอ
คือ "توحة" - ตูวหะฮ์ ชื่อเต็มๆของเธอ
คือ ฟาตีห์ยะห์ ยะห์ยา ฮาซัน (فتحية يحيي حسن)
เรื่องมันเกิดขึ้นในปี1981 งานแต่งในเมืองญิดดะห์หรือเจดดาห์ ขณะที่เธอกำลังแสดงการร้องเพลง ได้มีหญิงสาวคนนึงเข้ามาเต้นรำในงานนั้น โดยเธอสังเกตท่าเต้นที่ดูแปลกของหญิงสาว เมื่อเธอสังเกตดีๆเธอเห็นขาของหญิงคนนั้นเป็นขาของลา ในไม่ช้าทั้งห้องโถงผู้หญิงทุกคนมีขาเป็นขาของลา
เธอตกใจรีบหนีออกมาขึ้นรถแท็กซี่ โดยรถแท็กซี่คันดังกล่าวเป็นรถรุ่นเก่าที่ทางการได้สั้งให้ยกเลิกบริการไปแล้ว เธอเล่าให้คนขับแท็กซี่ฟังด้วยความหวาดกลัว คนขับแท็กซี่หันมาเปิดขาของเขาและถามว่าใช่แบบนี้มั้ย?
ตูวหะฮ์สลบไปและรู้สึกตัวอีกทีที่โรงพยาบาล
แม้ว่า ตูวหะฮ์ไม่เคยออกมายอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริงที่มาจากเธอ หรือมีคนแต่งเรื่องขึ้นและแอบอ้างชื่อของเธอ แต่เรื่องเล่า อัลนัมนัม ก็คงยังถูกเล่าขานต่อไป
อัลกุฏรุบ - القطرب
"อัลกุฏรุบ - القطرب"ในอีกชื่อ"มุซตะซิอบ์ -مستذئب"
มนุษย์หมาป่า เป็นหนึ่งในตำนานที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์
ชื่อเสียง : เป็นที่รู้จักหลายภูมิภาคทั้วโลก
ลักษณะทางกายภาพและเรื่องเล่า :
"อัลกุฏรุบ หรือ มุซตะซิอบ์" มนุษย์หมาป่ามีเรื่องเล่าตำนานมากมายเกี่ยวกับมันตั้งแต่ยุคโบราณ เชื่อกันว่ามนุษย์หมาป่าสามารถกลับหนังของตนเเอง เข้าข้างในเพื่อหลบซ่อนขนหมาป่าเมื่อกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ บุคคลที่ได้รับคำสาปนั้นต้องกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าทุกค่ำคืน หรือในทุกวันพระจันทร์เต็มดวง และออกสังหารผู้คนในยามค่ำคืน
คำอธิบายเกี่ยวกับ มนุษย์หมาป่า โดยวิชาการแพทย์
ในยุคโบราณ
Marcellus the Side แพทย์ชาวกรีกเป็นคนแรกที่ค้นพบโรคประหลาด "lycanthropy" เป็นอาการทางจิตเวชที่พบได้ยาก
ในยุคกลาง
อิบนุซีนา(หรือที่รู้จักในชื่ออวิเซนน่า)และอัสรอวีย์
แพทย์ชาวอาหรับ ได้ทำการศึกษาอย่างจริงจังเกี่ยวกับโรคดังกล่าวและเรียกโรคนี้ว่า
"อัลกุฏรุบ - القطروب"
เป็นอาการป่วยทางจิตที่หาได้ยาก ผู้ป่วยมักคิดว่าตนเองสามารถกลายร่างเป็นหมาป่าได้ ทั้งที่ไม่สามารถทำได้ และมีกิริยาอาการแบบเดียวกับหมาป่า มีพติกรรมรุนแรงสามารถฆ่าผู้อื่นและกินเนื้อเหยื่อที่ตนฆ่าทิ้ง
พอร์ไฟเรีย[porphyria] กลุ่มโรคที่มีความใกล้เคียงกัน มันเคยถูกเรียกว่าโรคแวมไพร์
โรคนี้ถูกบรรยายไว้ครั้งแรกเมื่อ 370 ปีก่อนคริสตกาลโดยฮิปโปคราเตส กลไกที่เป็นสาเหตุของโรคถูกบรรยายไว้ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1871 โดย ด็อกเตอร์ฟีลิกซ์ฮอปป์ - เซย์เลอร์
(Felix Hoppe-Seyler) นักเคมีชาวเยอรมัน
ผู้ป่วยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทีละน้อยๆ บางคนเริ่มแพ้แสงแดดแม้ถูกแสงแดดเพียงไม่กี่วินาที ก่อให้เกิดอาการอักเสบอย่างรุนแรงจนผิวหนังหลุดลอกออกเป็นชั้นๆ จากนั้นผู้ป่วยจะเริ่มมีขนส่วนเกินขึ้นบริเวณหน้าผาก ขมับ กล้าม เนื้อบริเวณใบหน้าทั้งหมดจะค่อยๆ ดึงรั้งไปทุกทิศทุกทางจนทำให้เบ้าตา จมูกผิดรูป เมื่ออาการหนักขึ้นไปอีกขั้น ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการทางจิตประสาทหลอน เพ้อคลั่ง หัวใจเต้นแรง และอาจมีความผิดปกติทางตับร่วมด้วย
นอกจากนี้ผู้ที่มีขนรุงรังตามแขนขาหรือหลังหรือลำตัว ก็ถูกเรียกกว่า โรคมนุษย์หมาป่า เช่นกัน เป็นอาการผิดปกติที่เรียกว่า "Hypertrichosis" เกิดจากยีนในโครโมโซมผิดปกติ
ในสมัยราชวงศ์อับบาซิยะห์ อะห์มัด อิบนิ ฟัฎลัน
ถูกแต่งตั้งให้เป็นฟากีห์(ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติศาสตร์) ในสมัยของกาหลิบ มุกตะดีร์ บิลลาห์ เขาเป็นหนึ่งในคณะทูตที่เดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีกับดินแดน Volga Bulgaria มีบันทึกว่าได้พบกับสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดคล้ายกับมนุษย์หมาป่าอีกด้วย
โฆษณา