Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อาหรับเลยอยากเล่า
•
ติดตาม
25 ม.ค. 2021 เวลา 11:25 • ประวัติศาสตร์
ส่วนใหญ่เรารู้จักภูติผีปีศาจทั้งของไทยและทางฝั่งตะวันตกหรือไม่ก็ญี่ปุ่นกันดีอยู่แล้ว
โพสนี้จะขอนำทุกท่านรู้จักกับ
ภูติผีปีศาจที่อยู่ในเรื่องเล่าตำนานพื้นบ้านของ"ชาวอาหรับ" จะมีชื่อเรียกอย่างไรบ้างนั้นเชิญกดอ่านได้ตามรูปเลยครับ
ขอขอบคุณแหล่งอ้างอิง
كائنات أسطورية مرعبة من التراث العربي
โดยنسرين عزالدين
https://www.sayidy.net/article/62291/%D8%BA%D8%B1%D8%A7%D8%A6%D8%A8-%D9%88%D9%85%D9%86%D9%88%D8%B9%D8%A7%D8%AA/%D9%83%D8%A7%D8%A6%D9%86%D8%A7%D8%AA-%D8%A3%D8%B3%D8%B7%D9%88%D8%B1%D9%8A%D8%A9-%D9%85%D8%B1%D8%B9%D8%A8%D8%A9-%D9%85%D9%86-%D8%A7%D9%84%D8%AA%D8%B1%D8%A7%D8%AB-%D8%A7%D9%84%D8%B9%D8%B1%D8%A8%D9%8A?fbclid=IwAR1Bepck9BY581y2eKm-KyuQpn4dcnfQudDydZQVaZQJAJz-fHu0HhBiJUM
الغول : أسطورة عربية بين الواقع والخيال
โดยغفران حبيب
https://www.ts3a.com/majhool/%D8%A7%D9%84%D8%BA%D9%88%D9%84/?fbclid=IwAR1tLfVPszpnhp6IzfZjKexYZ8Y4rD-3UYrjoRImkRBeO_L5GxNCjm6-kvw
الطنطل..حكايا الأهوار وأساطيرها
โดยلبنى ياسين
https://alshabaka-mubasher.com/?p=4235&fbclid=IwAR1UoFMQGe89pD-ukgeiFLPNESsR9-gC5JHzk4MADP6-BTQkKv0bbd2763U
حكايات من ندهتهم "النداهة" من أهل مصر.. اخترعها القتلة للهروب من الإعدام.. وصدقها الريفيون بحثا عن الحب.. وعلم النفس يحلل الأسطورة: "النداهة" هى كل الرغبات المكبوتة بسبب القهر
โดยنورهان فتحى และ سارة درويش
https://www.youm7.com/story/2015/12/8/%D8%AD%D9%83%D8%A7%D9%8A%D8%A7%D8%AA-%D9%85%D9%86-%D9%86%D8%AF%D9%87%D8%AA%D9%87%D9%85-%D8%A7%D9%84%D9%86%D8%AF%D8%A7%D9%87%D8%A9-%D9%85%D9%86-%D8%A3%D9%87%D9%84-%D9%85%D8%B5%D8%B1-%D8%A7%D8%AE%D8%AA%D8%B1%D8%B9%D9%87%D8%A7-%D8%A7%D9%84%D9%82%D8%AA%D9%84%D8%A9-%D9%84%D9%84%D9%87%D8%B1%D9%88%D8%A8/2481295?fbclid=IwAR0F1Gimnhri3iF1dVstUj2SvtCMjcbekR21t6ek1Cjo-iBQjvHBMS2_2eM
معتقدات شعبية: “أم الصبيان” تتعهد لـ” سليمان” بكف الأذى عن الأمهات
โดยءالآء علي
https://www.mandaraonline.com/%D9%85%D8%B9%D8%AA%D9%82%D8%AF%D8%A7%D8%AA-%D8%B4%D8%B9%D8%A8%D9%8A%D8%A9-%D8%A3%D9%85-%D8%A7%D9%84%D8%B5%D8%A8%D9%8A%D8%A7%D9%86/?fbclid=IwAR1tLfVPszpnhp6IzfZjKexYZ8Y4rD-3UYrjoRImkRBeO_L5GxNCjm6-kvw
العظروط “طاوى الليل”أسطورة الرعب فى اليمن
โดยh.adel h.adel
http://www.cairodar.com/562386/%D8%B4%D8%AE%D8%B5%D9%8A%D8%A7%D8%AA-%D8%A3%D8%B3%D8%B7%D9%88%D8%B1%D9%8A%D8%A9-6-%D8%A7%D9%84%D8%B9%D8%B8%D8%B1%D9%88%D8%B7-%D8%B7%D8%A7%D9%88%D9%89-%D8%A7%D9%84%D9%84%D9%8A%D9%84%D8%A3%D8%B3?fbclid=IwAR26w1kiXkfzWhCMGP3LvuGdLmrx84RqR2oYglbsFxkwv2mNOicCNvBSrok
1
ام الدويس جنية الامارات القاتلة
โดย علم تاني
https://3alamtaney.com/%D8%A3%D9%85-%D8%A7%D9%84%D8%AF%D9%88%D9%8A%D8%B3-%D8%A7%D9%84%D8%A5%D8%BA%D9%88%D8%A7%D8%A1-%D8%A7%D9%84%D9%82%D8%A7%D8%AA%D9%84/?fbclid=IwAR0YoHE8gPLNnKCBfoNyB--tgYckLhBv9HFzR7n-xbmldjuP6qDTwuyk_FA
أسطورة "النمنم".. "رزيدنت إيفل" الحجاز!
โดย محمد عبد اللطيف
https://www.alarabiya.net/ar/culture-and-art/2019/04/10/%D8%A3%D8%B3%D8%B7%D9%88%D8%B1%D8%A9-%D8%A7%D9%84%D9%86%D9%85%D9%86%D9%85-%D8%B1%D8%B2%D9%8A%D8%AF%D9%86%D8%AA-%D8%A7%D9%8A%D9%81%D9%84-%D8%A7%D9%84%D8%AD%D8%AC%D8%A7%D8%B2-?fbclid=IwAR0YoHE8gPLNnKCBfoNyB--tgYckLhBv9HFzR7n-xbmldjuP6qDTwuyk_FA
المستذئب ” حقيقه “
โดย دكتور شريف حجازي
https://dailymedicalinfo.com/view-news/%D8%A7%D9%84%D9%85%D8%B3%D8%AA%D8%B0%D8%A6%D8%A8-%D8%AD%D9%82%D9%8A%D9%82%D9%87/?fbclid=IwAR2eNOup5r9VQiOXSrLBT9hmpBxWIjjBr0wRCXUm0ODB8TRpLDZ0pCn2sDE
ฆูล - غول
"ฆูล - غول" สิ่งมีชีวิตในตำนานเรื่องเล่านิทานพื้นบ้าน สันนิษฐานว่าชาวอาหรับได้รับอิทธิพลมาจากสัตว์อสูรในอารยธรรมสุเมเรียนและอัคคาเดียน
ชื่อของมันคือ gallo
ชื่อเสียง : เป็นที่รู้จักกันในคาบสมุทรอาหรับ
ลักษณะทางกายภาพและเรื่องเล่า :
"ฆูล" มีลักษณะร่างกายขนาดใหญ่ มีขนปกคลุม อาศัยตามสุสาน,ทะเลทรายหรือสถานที่รกร้าง มันมักหลอกล่อคนที่ไม่ระมัดระวังเข้าไปในทะเลทรายหรือสถานที่ที่ถูกทิ้งร้างเพื่อฆ่าและกินเหยื่อที่โชคร้าย สิ่งมีชีวิตนี้ยังออกล่าเหยื่อที่เป็นเด็กเพื่อดื่มเลือด และพวกมันยังชอบขโมยทรัพย์สินมีค่าและกินซากศพ
ตอนตอล - طنطل
"ตอนตอล - طنطل" สิ่งมีชีวิตเรื่องเล่าในตำนานนี้มีรากเหง้ามาจาตำนาน "อิห์ฟิซ - إحفيظ"
สมัยโบราณมีอาณาจักรใหญ่สองอาณาจักรทางตอนใต้ของหุบเขาเมโสโปเตเมียคือ
อาณาจักร "อักรุ(อาเคอร์) - العكر" และ
อาณาจักร "อาบู ชาซิรและอิห์ฟิซ"
ทั้งสองอาณาจักรต่างเจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งร้ำรวย พวกเขาสร้างซุ้มประตูโค้งอย่างปราณีตและวิหารที่หรูหรา พวกเขามีสวนปาล์มและสวนผลไม้กว้างใหญ่และพวกเขายังสร้างกำแพงที่แข็งแกร่งเพื่อป้องกันน้ำท่วม
ต่อมาพวกเขาฝ่าฝืนศรัทธา พวกเขาจึงถูกลงโทษพลิกเมืองทั้งเมืองด้วยแผ่นดินไหวและน้ำท่วม ทำให้ทรัพย์สมบัติมหาศาลจมอยู่ใต้ซากปรักหักพัง "ตอนตอล" ได้ถูกสั้งให้มีหน้าที่ปกป้องไม่ให้ใครสามารถมาเอาสมบัติไปได้ตำนานดังกล่าวมีความคล้ายกับมหากาพย์กิลกาเมซ
ชื่อเสียง : เป็นที่รู้จักทางตอนใต้ของอิรักและคูเวต
ลักษณะทางกายภาพและเรื่องเล่่า :
"ตอนตอล" สามารถจำแลงเป็นมนุษย์สัตว์หรือสิ่งของมันอาศัยในหนองน้ำทางตอนใต้ของอิรัก
มันจะออกมาตอนมาพลบค่ำทำให้คนที่สัญจรผ่านเกิดความหวาดกลัว เล่ากันว่าชายคนนึงได้ขโมยวัตถุมาชิ้นนึงจากบริเวณที่มันอยู่อาศัย เช้าวันต่อมามีคนพบศพของเขาในสภาพถูกตะไคร่น้ำพันธนาการไว้ทั้งๆที่บริเวณรอบๆนั้นไม่ใกล้กับหนองน้ำเลย
อันนะดาฮะห์ - النداهة
"อันนะดาฮะห์ - النداهة" ถือเป็นหนึ่งในตำนานที่มีชื่อเสียงที่สุดในชนบทของอียิปต์ และตำนานดังกล่าวยังคลายคลึงกับตำนานนางเงือกเรื่องเล่าจากกรีก
ชื่อเสียง : เป็นที่รู้จักกันในชนบทของอียิปต์
ลักษณะทางกายภาพและเรื่องเล่่า :
"อันนะดาฮะห์" มักปรากฏตัวในรูปลักษณ์หญิงสาวสวย เธอจะปรากฏตัวช่วงเวลาค่ำตามท้องไร่และลำน้ำ เธอจะเรียกชื่อชายหนุ่มบางคนที่โชคร้าย เล่ากันว่าไม่มีใครสามารถต้านทานเสียงเรียกของเธอได้ เพราะเสียงอันไพเราะของเธอซึ่งจับใจ เมื่อเหยื่อตามเสียงเรียกนั้นไป เขาจะถูกพบเป็นศพในวันรุ่งขึ้น
บางครั้ง "อันนะดาฮะห์" ตกหลุมรักเหยื่อ เธอจะพาเขาไปโลกของเธอและแต่งงานกับเขา คนๆนั้นจะหายสาบสูญอย่างไร่้ร่องรอย และจะปรากฏอีกทีในร่างที่ไร้วิญญาณว่ากันว่า สาเหตุมาจากเขาต้องการทิ้งเธอ เธอแก้แค้นเขาด้วยการฆ่าเขา เพราะกลัวว่าเขาจะเปิดเผยความลับเกี่ยวกับโลกของเธอ
อุมมุ ซิบยาน - ام الصبيان
"อุมมุ ซิบยาน - ام الصبيان" สิ่งมีชีวิตในตำนานโบราณ มีการเชื่อมโยงในเรื่องเล่านี้กับเรื่องเล่าในอารยธรรม
สุเมเรียน มันปรากฏในลักษณะปีศาจลมพายุ ในเรื่องเล่าของชาวยิวมันปรากฏในรูปลักษณ์ปีศาจกลางคืน และอีกหนึ่งข้อสันนิษฐาน เนื่องจากไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงได้ในการแท้งบุตรของสตรีในยุคโบราณ
ชื่อเสียง : เป็นที่รู้จักในอ่าวอาหรับและทางตะวันตกเฉียงใต้ของอิหร่าน
ลักษณะทางกายภาพและเรื่องเล่่า :
"อุมมุ ซิบยาน" มักปรากฎในรูปลักษณ์หญิงชราหน้าตาน่ากลัวมีขาเป็นลาและเปลวไฟสีฟ้า
มันมักจ้องทำร้ายเด็กและสตรีที่ตั้งครรภ์ จนแท้งบุตร เชื่อกันว่ามันมีอายุมานานก่อนยุคของกษัตริย์โซโลมอน
ครั้งหนึ่งกษัตริย์โซโลมอนจับตัว "อุมมุ ซิบยาน"
มาขังไว้และลงโทษมัน หลังจากที่มันออกอาละวาดทำอันตรายต่อเด็กและหญิงตั้งครรภ์ และเขาจะไม่ปล่อยมัน จนกว่ามันจะยอมมอบพันธสัญญาต่อเขา ต่อมารู้จักกันในชื่อ "حجاب السبع عهود"
ฮิญาบุซซับอะอุฮุด - "ม่านแห่งพันธสัญญาทั้งเจ็ด"
ซึ่งเกี่ยวข้องกับพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
ใครที่ขอความคุ้มครองด้วยนามของพระองค์จะรอดพ้นจากอันตรายของมัน
อัลอัซรูฏ - العظروط
"อัลอัซรูฏ - العظروط" อีกหนึ่งตำนานพื้นบ้านสันนิษฐานว่ามาจากการพบศพบนถนนหนทาง โดยไม่สามารถหาสาเหตุการตายที่แท้จริงได้
ชื่อเสียง : เป็นที่รู้จักกันในเมืองฮัดรอเมาต์ เยเมน
ลักษณะทางกายภาพและเรื่องเล่า :
"อัลอัซรูฏ" หรืออีกชื่อหนึ่ง طاوى الليل - ตอวัลลัยลุ
(นักบวชในคืนมืด)
มักปรากฏกายในชุดนักบวชหรือรูปร่างเงาดำคล้ายมนุษย์ เมื่อเหยื่อเคราะห์ร้ายเข้าใกล้มัน มันจะหลอกหลอนตามความกลัวของคนๆนั้น จนกว่าจะเสียสติหรือหัวใจวายตาย และมันจะค่อยๆไปหายในเงามืดว่ากันว่า มันไม่สามารถทำอันตรายคนที่ไม่กลัวมัน
อุมมุ ดูวัยซ์
"อุมมุ ดูวิซ - ام الدويس" เรื่องเล่าตำนานนี้ชื่อของเธอ มีที่มาจากเครื่องมือที่ใช้สังหารเหยื่อมีลักษณะคล้ายเคียว ในภาษาอาหรับท้องถิ่นเอมิเรตส์ เรียกว่า "داس" - ดาซ
ชื่อเสียง : เป็นที่รู้จักในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ลักษณะทางกายภาพและเรื่องเล่า :
"อุมมุ ดูวิซ" เล่ากันว่าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดคนหนึ่ง เนื่องจากลักษณะทั้งความงามความอ่อนโยนความอ่อนหวานของการสนทนาและกลิ่นกายที่หอมเย้ายวน ทำให้เหยื่อต้องมนต์สะกดได้โดยง่าย
แม้ภาพที่บรรยายดูเพอร์เฟค แต่เธอมีขาเป็นลาและมือข้างนึงเป็นเคียว
มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับคนที่พบเจอเธอ
ชายหนุ่มคนนึงกำลังเดินทางจาก เคาว์ฟะกานไปกัลบาอ์(เป็นสถานที่ในเอมิเรตส์) บนเส้นทางเปลี่ยวห่างไกลผู้คน เขาได้พบสาวสวยที่มีกลิ่นกายหอมดั้งมนต์สะกด
ขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะตามหญิงปริศนาไป เขาฉุกคิดได้ว่า ทำไมสาวสวยแบบนี้ถึงปรากฏในสถานที่เปลี่ยวเพียงลำพัง เขาตระหนักได้ว่าเธอไม่ใช่มนุษย์เธอคือ "อุมมุ ดูวิซ" เขารีบหลบหนีและซ่อนตัวพร้อมขอความคุ้มครองจากพระเจ้า จนกระทั้งเธอหายไป
อัลนัมนัม - النمنم
"อัลนัมนัม - النمنم" ตำนานเรื่องเล่าที่ครั้งนึงทำให้พ่อแม่ไม่กล้าส่งลูกไปโรงเรียน
ชื่อเสียง : เป็นที่รู้จักในแคว้นฮิญาซ ซาอุดีอาระเบีย
ลักษณะทางกายภาพและเรื่องเล่า :
"อัลนัมนัม" มีลักษณะฟันแหลมใหญ่มีขนปกคลุมมีหาง,ขาเป็นลา มันสามารถจำแลงเป็นมนุษย์ได้
มีเรื่องเล่่ามากมายเช่นเดียวกัน ผู้ที่พบเจอกับ "อัลนัมนัม" แต่ที่เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์มากที่สุด เป็นเรื่องราวที่อ้างถึง ตำนานนักร้องหญิงของซาอุดีอาระเบียในยุคแรกๆ ชื่อของเธอ
คือ "توحة" - ตูวหะฮ์ ชื่อเต็มๆของเธอ
คือ ฟาตีห์ยะห์ ยะห์ยา ฮาซัน (فتحية يحيي حسن)
เรื่องมันเกิดขึ้นในปี1981 งานแต่งในเมืองญิดดะห์หรือเจดดาห์ ขณะที่เธอกำลังแสดงการร้องเพลง ได้มีหญิงสาวคนนึงเข้ามาเต้นรำในงานนั้น โดยเธอสังเกตท่าเต้นที่ดูแปลกของหญิงสาว เมื่อเธอสังเกตดีๆเธอเห็นขาของหญิงคนนั้นเป็นขาของลา ในไม่ช้าทั้งห้องโถงผู้หญิงทุกคนมีขาเป็นขาของลา
เธอตกใจรีบหนีออกมาขึ้นรถแท็กซี่ โดยรถแท็กซี่คันดังกล่าวเป็นรถรุ่นเก่าที่ทางการได้สั้งให้ยกเลิกบริการไปแล้ว เธอเล่าให้คนขับแท็กซี่ฟังด้วยความหวาดกลัว คนขับแท็กซี่หันมาเปิดขาของเขาและถามว่าใช่แบบนี้มั้ย?
ตูวหะฮ์สลบไปและรู้สึกตัวอีกทีที่โรงพยาบาล
แม้ว่า ตูวหะฮ์ไม่เคยออกมายอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริงที่มาจากเธอ หรือมีคนแต่งเรื่องขึ้นและแอบอ้างชื่อของเธอ แต่เรื่องเล่า อัลนัมนัม ก็คงยังถูกเล่าขานต่อไป
อัลกุฏรุบ - القطرب
"อัลกุฏรุบ - القطرب"ในอีกชื่อ"มุซตะซิอบ์ -مستذئب"
มนุษย์หมาป่า เป็นหนึ่งในตำนานที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์
ชื่อเสียง : เป็นที่รู้จักหลายภูมิภาคทั้วโลก
ลักษณะทางกายภาพและเรื่องเล่า :
"อัลกุฏรุบ หรือ มุซตะซิอบ์" มนุษย์หมาป่ามีเรื่องเล่าตำนานมากมายเกี่ยวกับมันตั้งแต่ยุคโบราณ เชื่อกันว่ามนุษย์หมาป่าสามารถกลับหนังของตนเเอง เข้าข้างในเพื่อหลบซ่อนขนหมาป่าเมื่อกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ บุคคลที่ได้รับคำสาปนั้นต้องกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าทุกค่ำคืน หรือในทุกวันพระจันทร์เต็มดวง และออกสังหารผู้คนในยามค่ำคืน
คำอธิบายเกี่ยวกับ มนุษย์หมาป่า โดยวิชาการแพทย์
ในยุคโบราณ
Marcellus the Side แพทย์ชาวกรีกเป็นคนแรกที่ค้นพบโรคประหลาด "lycanthropy" เป็นอาการทางจิตเวชที่พบได้ยาก
ในยุคกลาง
อิบนุซีนา(หรือที่รู้จักในชื่ออวิเซนน่า)และอัสรอวีย์
แพทย์ชาวอาหรับ ได้ทำการศึกษาอย่างจริงจังเกี่ยวกับโรคดังกล่าวและเรียกโรคนี้ว่า
"อัลกุฏรุบ - القطروب"
เป็นอาการป่วยทางจิตที่หาได้ยาก ผู้ป่วยมักคิดว่าตนเองสามารถกลายร่างเป็นหมาป่าได้ ทั้งที่ไม่สามารถทำได้ และมีกิริยาอาการแบบเดียวกับหมาป่า มีพติกรรมรุนแรงสามารถฆ่าผู้อื่นและกินเนื้อเหยื่อที่ตนฆ่าทิ้ง
พอร์ไฟเรีย[porphyria] กลุ่มโรคที่มีความใกล้เคียงกัน มันเคยถูกเรียกว่าโรคแวมไพร์
โรคนี้ถูกบรรยายไว้ครั้งแรกเมื่อ 370 ปีก่อนคริสตกาลโดยฮิปโปคราเตส กลไกที่เป็นสาเหตุของโรคถูกบรรยายไว้ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1871 โดย ด็อกเตอร์ฟีลิกซ์ฮอปป์ - เซย์เลอร์
(Felix Hoppe-Seyler) นักเคมีชาวเยอรมัน
ผู้ป่วยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทีละน้อยๆ บางคนเริ่มแพ้แสงแดดแม้ถูกแสงแดดเพียงไม่กี่วินาที ก่อให้เกิดอาการอักเสบอย่างรุนแรงจนผิวหนังหลุดลอกออกเป็นชั้นๆ จากนั้นผู้ป่วยจะเริ่มมีขนส่วนเกินขึ้นบริเวณหน้าผาก ขมับ กล้าม เนื้อบริเวณใบหน้าทั้งหมดจะค่อยๆ ดึงรั้งไปทุกทิศทุกทางจนทำให้เบ้าตา จมูกผิดรูป เมื่ออาการหนักขึ้นไปอีกขั้น ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการทางจิตประสาทหลอน เพ้อคลั่ง หัวใจเต้นแรง และอาจมีความผิดปกติทางตับร่วมด้วย
นอกจากนี้ผู้ที่มีขนรุงรังตามแขนขาหรือหลังหรือลำตัว ก็ถูกเรียกกว่า โรคมนุษย์หมาป่า เช่นกัน เป็นอาการผิดปกติที่เรียกว่า "Hypertrichosis" เกิดจากยีนในโครโมโซมผิดปกติ
ในสมัยราชวงศ์อับบาซิยะห์ อะห์มัด อิบนิ ฟัฎลัน
ถูกแต่งตั้งให้เป็นฟากีห์(ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติศาสตร์) ในสมัยของกาหลิบ มุกตะดีร์ บิลลาห์ เขาเป็นหนึ่งในคณะทูตที่เดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีกับดินแดน Volga Bulgaria มีบันทึกว่าได้พบกับสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดคล้ายกับมนุษย์หมาป่าอีกด้วย
1 บันทึก
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย