27 ม.ค. 2021 เวลา 02:00 • ความคิดเห็น
4 สิ่งที่ควรเลิกทำ ถ้าอยากมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
3
หลายครั้งที่เราแอบชื่นชมคนที่มั่นใจในตัวเอง และอยากจะเป็นแบบนั้นบ้าง อย่างเพื่อนร่วมงานที่กล้าเสนอไอเดียของตัวเอง เพื่อนสนิทที่ชอบเล่าเรื่องสนุก เป็นสีสันของกลุ่ม หรือรุ่นน้องท่ีเพิ่งขอคบกับคนที่แอบชอบ! -- คนที่ทำอะไรก็ดูมั่นใจไปหมดทุกอย่าง และพาให้เรารู้สึกเชื่อมั่นในตัวเขาไปด้วย ถ้าเราอยากเป็นอย่างนั้น เราควรต้องทำอย่างไร?
5
บทความเรื่อง “4 Habits You Should Give Up to Feel More Confident” โดย Nick Wignall ได้กล่าวถึงสิ่งที่เราควรจะเลิกทำ ถ้าอยากมีความมั่นใจมากขึ้น ลองไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง
3
1. เลิกเชื่อในอารมณ์แง่ลบ
3
อารมณ์ความรู้สึกเป็นสิ่งที่ห้ามได้ยาก แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะเชื่อมันหรือไม่ สมมติถ้าคุณเกิดไอเดียดีๆ ระหว่างกำลังเบรนสตรอมกับทีม และอยากแชร์ให้กับคนอื่นๆ ฟัง แต่แล้วคุณกลับรู้สึกว่ามันอาจจะเป็นไอเดียที่แย่มาก และกลัวว่าจะทำให้คุณดูโง่ในสายตาคนอื่นๆ ถ้าหากคุณ ‘เชื่อ’ ในอารมณ์ที่เกิดขึ้น คุณคงปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไป ไม่ได้พูดแสดงความคิดเห็น ทั้งๆ ที่มันอาจเป็นความคิดที่เจ๋งที่สุดก็ได้
12
เมื่อคุณปล่อยให้ความกลัวอยู่เหนือสิ่งที่อยากทำ คุณก็จะยิ่งหมดความมั่นใจในตัวเองไปเรื่อยๆ แต่ในทางกลับกัน ถึงแม้ว่าคุณจะรู้สึกกลัวอยู่ลึกๆ แต่ถ้าคุณพยายามพูดไอเดียของตัวเองออกไป มันก็จะทำให้คุณค่อยๆ มั่นใจในตัวเองมากขึ้นๆ
5
ครั้งต่อๆ ไป ถ้าหากคุณอยากจะทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะพรีเซนต์งาน เสนอไอเดีย หรือแม้แต่บอกรักใครสักคน จงให้คุณค่ากับสิ่งที่อยากจะทำ แทนความรู้สึกกลัวที่คอยฉุดรั้งคุณเอาไว้
5
2. เลิกพยายามทำอะไรให้ถูกใจคนอื่น
1
ศัตรูตัวต่อมาของความมั่นใจในตัวเอง ก็คือ การไม่อยากขัดแย้งกับคนอื่นๆ หลายๆ คนเคยชินกับการประนีประนอม หรือการพยายามเอาใจผู้อื่น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา เช่น ไม่กล้าปฏิเสธงานที่เพื่อนวานให้ช่วยทำ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้อยากทำ แต่เพราะไม่อยากขัดใจใคร เราเลยต้องรับงานมาทำเอง
10
เมื่อไรที่เราสนใจความต้องการของคนอื่นมากเกินไป เราจะยิ่งรู้สึก ‘ตัวหดเหลือนิดเดียว’ เราจะกังวลไปหมดว่าเขาจะชอบหรือเปล่า เขาจะโกรธไหม นั่นยิ่งทำให้เราละเลยที่จะฟังความต้องการของตัวเอง เลยยิ่งไม่มั่นใจในตัวเองเข้าไปใหญ่
1
ถ้าคุณเป็นคนที่เอาคนอื่นเป็นที่ตั้งขนาดนั้น ลองเริ่มจากการกระทำเล็กๆ ที่ไม่ลำบากใจเกินไปที่จะปฏิเสธผู้อื่น เช่น ต่อรองขอช่วยทำงานบางส่วน ไม่ใช่ทั้งหมดที่เพื่อนขอมา ค่อยๆ สะสมความกล้าที่ทำตามใจตัวเองทีละนิด แล้วความมั่นใจจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเอง
3
3. เลิกกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
1
สมองของเรามีความสามารถพิเศษในการคิดจินตนาการไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะเรื่องราวของอนาคตที่ยังมาไม่ถึง หลายๆ ครั้งความคิดเหล่านั้นก็สร้างสิ่งมหัศจรรย์มากมาย แต่ในอีกหลายๆ ครั้งมันกลับเป็นหล่มที่เราติดอยู่และไม่กล้าก้าวไปไหน แค่เพราะเรา “กังวล” ในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
4
สมมติว่าคุณอยากเปลี่ยนงาน คุณเลยลองหางานใหม่ และเจอบริษัทชื่อดังที่กำลังรับสมัครงานในตำแหน่งของคุณอยู่ ชั่วขณะที่คุณกำลังส่งเรซูเม่ อยู่ๆ คุณก็เกิดกังวลกับความเปลี่ยนแปลงขึ้นมา คุณคิดไปว่าที่ใหม่อาจจะเลวร้ายกว่าที่เก่า หรืออาจเข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้ จนสุดท้ายก็ได้แต่นั่งถอนหายใจ และทำงานเดิมที่ไม่อยากทำต่อไปอีกปี
1
ความกังวลประเภทนี้จะยิ่งลดความมั่นใจของคุณลง แถมยังทำให้ชีวิตคุณไม่มูฟออนไปไหน ขอให้คิดไว้ว่า ไม่มีใครรู้เรื่องอนาคต และชีวิตก็ไม่ได้มีอะไรแน่นอนสักอย่าง ดังนั้น เลิกกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง และลองทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการตั้งแต่วันนี้เลย
9
4. เลิกติดอยู่กับอดีตที่ผ่านไปแล้ว
2
ไม่เคยมีใครไม่ทำผิดพลาด ประโยคนี้ยังคงเป็นจริงเสมอ แน่นอนว่าเราควรเรียนรู้จากอดีต แต่ไม่ใช่ฝังตัวเองอยู่กับอดีต ครุ่นคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ผ่านไปแล้วทุกโมงยาม จนไม่เหลือเศษเสี้ยวใดในการคิดถึง ‘วันนี้’
9
การติดอยู่กับอดีต ไม่ใช่แค่ลดความมั่นใจในตัวเองลง แต่ยังส่งผลให้เกิดความเครียด วิตกกังวล ไปจนถึงการมี Self-Esteem ต่ำ และอาจตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าได้
1
ทางที่ดีที่สุดคือคุณต้องยอมรับว่า คุณไม่สามารถแก้ไขอดีตได้ ไม่ว่าเรื่องใดๆ ก็ตาม เมื่อคุณได้ครุ่นคิดเพื่อหาบทเรียนจากมันจนเพียงพอแล้ว ก็ขอให้ปล่อยเรื่องราวเหล่านั้นไว้ในเมื่อวาน เพื่อจะได้เริ่มทำสิ่งใหม่ๆ ในวันนี้และวันต่อๆ ไปสักที
2
#MissionToTheMoonPodcast
1
โฆษณา