25 ม.ค. 2021 เวลา 12:20 • ไลฟ์สไตล์
วันที่ผมโดนหมากัด :(
อาทิตย์นี้เกือบทั้งอาทิตย์ค่าAQI เล่นเอาผมซุกอยู่กับบ้านมาตลอด ตื่นมาตีห้าดูโทรศัพท์เจอหน้าจอแดงๆม่วงๆ สรุปว่านอนต่อ จนเมื่อวันอาทิตย์ที่ เปิดเจอสีเหลืองๆส้มๆนิดๆ เอาวะ กัดฟันแต่งตัว ใส่เสื้อสีส้มตัวเก่ง ออกเริ่มวิ่งไปตามเส้นทางประจำ คิดอยู่ในใจว่าวันนี้อยากไปไหว้พระที่วัดธาตุทองซะหน่อย ไม่ได้ไปหลายวัน
รอบนี้วิ่งไม่ค่อยออกเหมือนขามันแข็ง จากการนอนอยู่กับบ้านมาเป็นอาทิตย์ ค่อยๆไปน่ะ คิดในใจ ผมวิ่งผ่านปากซอยอ่อนนุชจะข้ามสะพานพระโขนง เจอเจ้าถิ่นยืนจังก้ามาแต่ไกล พอเริ่มใกล้ก็เริ่มมีเสียงคำรามขู่มาเป็นระยะ อือมมมมมมม์ หยุดซิครับ ไม่คุ้มเสี่ยง ตัดสินใจยอมวิ่งย้อนกลับไปหน้าสน.พระโขนงข้ามสะพานไปอีกฝั่ง แล้วค่อยวิ่งต่อข้ามสะพานไปพระโขนงแทน
อากาศก็พอไหว แต่ร่างกายเหมือนมันขี้เกียจ ประกอบกับอาการบาดเจ็บที่มีอยู่แต่ก่อน ทำให้วิ่งแบบประคองตัว เหนื่อยนักก็เดิน พอไหวก็วิ่ง ไปจนถึงเอกมัยก็ขึ้นสถานีรถไฟฟ้ากลับไปฝั่งวัดธาตุทองไหว้พระ ขอพร ตามที่ตั้งใจ
พอเสร็จก็เริ่มวิ่งกลับบ้านละ จะได้พาลูกไปกินข้าวก่อนเรียนออนไลน์ตอนสายๆ ออกจากวัดยังไม่เท่าไหร่ เจออีกสองตัว น้ำตาลตัวใหญ่ ขาวตัวเล็ก เล่นกันอยู่หน้ารถเข็นขายไก่ย่างหน้าเซเว่น ตอนแรกก็เหมือนมันจะเล่นกันเอง แต่พอไปใกล้ ไม่รู้มันเกิดพิศมัยอะไรผมขึ้นมา ไอ้ตัวขาวแยกเขี้ยวพุ่งเข้าชนผมตรงขาซ้าย ผมพยายามเอี้ยวตัวหลบ แต่ไม่ทัน โดนเขึ้ยวเฉี่ยวเข้าตรงด้านหลังหัวเข่า ได้เลือดซิบๆ ผมหันไปมอง มันทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ แล้ววิ่งจากไป
เซ็งสิครับ ดูแผลแล้วตัดสินใจ วิ่งเข้าโรงพยาบาลที่อยู่ข้างๆ เข้าไปแล้วค่อยนึกขึ้นมาได้ว่า ไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาเลย ในกระเป๋าห้อยเอวมีโทรศัพท์มือถือ เงินนิดหน่อย ยังดีมีแมสก์ผ้าติดอยู่ด้วย เลยสแกนหน้าเข้าโรงพยาบาลได้ จำได้ว่ามีประกันอยู่ กะว่าไปลองคุยกับนางพยาบาลดูก่อน ก็บอกเค้าไปว่ามีประวัติอยู่ที่นี่อยู่แล้วเผื่อว่าจะไม่ต้องกลับบ้านก่อน เค้าลองเช็คประวัติให้ ระหว่างนั้นก็ส่งต่อไป ER ชั่งน้ำหนัก วัดความดันเรียบร้อย พยาบาลมาซักเหตุการณ์ยังทักเลยว่า น่าจะเป็นสองตัวหน้าร้านไก่ย่าง สงสัยไอ้สองตัวนี้น่าจะเคยมีวีรกรรมเอาไว้เยอะแน่เลย สุดท้ายเจ้าหน้าที่เดินมาบอกว่า ประกันที่มีอยู่เป็นแบบประกันสุขภาพที่ต้องสำรองจ่ายไปก่อน เลยบอกเค้าไปว่าเก็บประวัติเอาไว้ก่อนละกันเดี๋ยวค่อยมาใหม่ ในตัวมีตังค์อยู่ไม่น่าจะพอจ่าย
แว่บไปเข้าห้องน้ำเอาน้ำล้างแผลแล้วเช็ดแห้ง ก่อนออกวิ่งกลับบ้าน ขากลับโชคดีไม่เจอเจ้าถิ่นตัวเมื่อเช้า ถึงบ้านรีบอาบน้ำแต่งตัวกลับไปโรงพยาบาลใหม่ รอบสองไปไม่เจอพยาบาล เจ้าหน้าที่ที่เจอรอบแรก ก็เลยให้ข้อมูลใหม่อีกรอบ คราวนี้ได้เจอหมอ คุณหมอเธอบอกว่าจะฉีดยาป้องกันพิษสุนัขบ้ากับบาดทะยักให้ ถามว่าผมเคยฉีดมาก่อนมั๊ย ถ้าเคยก็จะฉีดแค่อย่างละเข็มเป็นการกระตุ้นภูมิ ซึ่งผมค่อนข้างมั่นใจว่า ยี่สิบปีที่ผ่านมาไม่น่าจะเคยมีการฉีดยาประเภทนี้มาก่อน คุณหมอเธอเลยบอกว่างั้นคงต้องฉีดเป็นคอร์ส คือวัคซีนพิษสุนัขบ้า 5 เข็ม บาดทะยัก 3 เข็ม เป็นระยะเวลาต่างกัน เข็มสุดท้ายนี่สิงหาเลย อึ้งไปพักนึง (8 เดือนเลยว่ะ) เอาวะ ดีกว่าเป็นอะไรไป มันจะไม่คุ้มกัน สรุป วันแรกโดนไป 2 เข็ม แขนซ้ายเข็ม แขนขวาเข็ม ที่เหลือตามคิวว่ากันยาวๆไป
กลับมาบ้าน รีบทำเรื่องแจ้งประกัน น้องเซลส์ประกันรีบถาม เป็นไงมั่งพี่ โดนเยอะมั๊ย ก้อเล่าเรื่องให้เค้าฟัง ไคลแม็กซ์คือเค้าบอกผมว่าไอ้ประกันที่ผมทำอยู่เป็นประกันสุขภาพที่คุ้มครองอุบัติเหตุผู้ป่วยนอกแต่ไม่คุ้มครองการรักษาต่อเนื่อง Chip..lost :( เซ็งใหม่อีกรอบ แปลว่าครั้งต่อไปที่ผมไปหาหมอ ฉีดเข็มที่สอง สาม สี่ ห้า ผมต้องจ่ายเงินเองหมด (#@?!@#) เวรกรรม ปีหน้าสงสัยต่อประกันต้องดูเงื่อนไขกันใหม่ละ เอาเรื่องมาเล่าเป็นอุทธาหรณ์สอนใจ มีประกันไม่ได้แปลว่าเค้าจะช่วยทุกเคสนะครับ เคสนี้ก็เพิ่งรู้นี่แหละ เฮ้อ!
โฆษณา