26 ม.ค. 2021 เวลา 06:00
21. กระบี่อยู่ที่ใจ
 
จะปลูกพืช. ต้องเตรียมดิน
จะกิน. ต้องเตรียมอาหาร
จะพัฒนาการ. ต้องเตรียมคน
จะพัฒนาคน. ต้องเริ่มที่ตนเองก่อน
ที่ผมเอาเรื่องการพัฒนามาขึ้นก่อนเพราะ งานส่งเสริมการเกษตร ก็คืองานพัฒนาอย่างหนึ่งคุณจะเป็นนักส่งเสริมมืออาชีพ หรือจะมีอาชีพเป็นนักส่งเสริม ก็แล้วแต่ คุณต้องมีข้อนี้เพื่อตอบคำถามที่ว่าถ้าจะพัฒนาคน ต้องเริ่มต้นที่ตนเองก่อนนั้น มันต้องทำอย่างไรบ้าง ผมจะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แทนคำอธิบาย ให้ท่านพิจารณา
ครั้งหนึ่งที่สุพรรณบุรี สมัย ท่านผู้ว่า ฯ อารีย์ วงศ์อารยะ ได้ส่งหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี
เข้าประกวดหมู่บ้านพัฒนาดีเด่นซึ่งน่าจะเป็นระดับประเทศ จังหวัดที่สูสีกับที่หมู่บ้านนี้ น่าจะเป็นหมู่บ้านในจังหวัดนครราชสีมา แต่ผมจะไม่เอ่ยชื่อหมู่บ้านจะทำให้ทางหมู่บ้านเสียหายเพราะการกระทำของบุคคลเพียงคนเดียวไม่ใช่คนในหมู่บ้านทั้งหมด
ท่านผู้ว่าฯ ได้กำหนดให้ข้าราชการเข้าไปช่วยชาวบ้านแต่ละคุ้มในหมู่บ้าน จุดประสงค์ของท่านคือให้พวกเราเป็นพี่เลี้ยงคอยแนะนำ โดยให้ พัฒนาอยู่คุ้มหนึ่ง เกษตรคุ้มหนึ่ง สาธารณสุขคุ้มหนึ่ง นอกนั้นก็รวมหลายหน่วยงานต่อคุ้ม ตามความเหมาะสม
สำหรับเกษตรนั้น จะมีรถเขียวของสำนักงานเกษตรแต่ละอำเภอ รับไปส่งที่หมู่บ้านพื่อรวมตัวกันที่จุดนัดพบ เพื่อให้พร้อมกันแล้วแล้วจึงเคลื่อนตัวไปที่คุ้มอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อพร้อมแล้วทุกคนจึงเดินไปที่คุ้ม เมื่อไปถึงคุ้มที่บ้านหลังหนึ่ง เปันบ้านยกสูงคล้าย ๆเรือนไทย ป้าเจ้าของบ้านกำลังสาละวนอยู่กับ
การทำครัว และแกก็ออกมาล้างจานหรือทำอะไรซักอย่างที่ชานบ้าน พี่จิรโรจน์ จึงเอ่ยปากทักทายหรือเชิญชวน ตามนิสัยของพวกเรา ถ้าพูดอีกแบบคือปากเปราะนั่นเอง พี่เลยตะโกนคุยกับป้าแกว่า
" ป้า เราไปพัฒนาหมู่บ้านกันเถอะ "
" ไปเถอะ ไอ้หนู ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวพวกเกษตรมันมาทำเอง "
เพล้ง
เสียงพร้าที่พี่จิรโรจน์โยนทิ้งไปจากมือกระทบผิวถนนลาดยาง ดังสนั่น พร้อมคำพูดว่า
" พวกมึงไปกันเถอะกูไม่มีแรงแล้ว ไม่รู้ว่าหมู่บ้านพัฒนา หรือข้าราชการพัฒนา กันแน่ "
พวกเราหัวเราะพร้อมกัน ขณะที่พี่จิรโรจน์ เดินไปหยิบมีดพร้า ไม่มีใครกล้ากลับบ้านจริงหรอกครับ เพราะเขาบอกไว้ว่า ถ้าไม่มาให้ทำเรื่องชี้แจง
ที่เล่ามานั่น คือการเตรียมคนที่ถูกพัฒนา แต่ทีนี้จะคุยถึงเรื่องการ
เตรียมคนที่จะไปพัฒนาเขา เราจะเตรียมอะไรที่ตรงไหน อย่างไร ผมอธิบายเรื่องนี้ไม่ค่อยถูกหรอกครับ ถ้าขืนอธิบายมากไปเพื่อน ๆเกษตรตำบลด้วยกันก็คงจะว่า ไอ้นี่บ้า หลงตัวเองเอาอย่างนี้ดีกว่าครับ
ผมจะเล่าเหตุการณ์หนึ่งให้ฟังมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงและตอนนี้คนที่ผมกล่าวถึงก็ยังมีอยู่จริง คนที่ผมจะเล่านี้คือคนที่ทำงานกับคน ใครจะว่าผมยังไงก็ช่าง เพราะผมถือคติว่าทำไปแล้ว อย่ากลัวว่าชั่วหรือดี แต่ก็ต้องคิดก่อนทำ
ครั้งหนึ่งผมมีความคิดว่า เราเกษตรตำบลควรจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การทำงานที่ต้องมีการวางแผน มีการวิเคราะห์ ซึ่งได้ความคิดนี้มาจากจังหวัดน่าน
นั่นคือการตั้งชมรมเกษตรตำบล จังหวัดสุพรรณบุรี ชึ้นมา ผมได้ความคิดนี้มาจาก คุณ พยอม วุฒิสวัสดิ์ ในจังหวัดน่านของเขามีโครงการ ฮักเมืองน่าน มีการทำวิจัยของแต่ละอำเภอ รู้สึกเขาจะได้รับการสนับสนุนจาก ดานิด้า หรือยังไงไม่ทราบ พี่ศักดา ทวิชศรี เป็นผู้ประสานงานให้ผมได้มีโอกาสได้ไปศึกษางาน โดยที่เขาออกค่าใช้จ่ายให้
สิ่งที่ผมได้พบในตอนนั้นก็คือ การที่ชาวบ้านทำงานเป็นนักวิจัย เราเรียกพวกเขาว่านักวิจัยชาวบ้าน เขาอยากรู้เรื่องอะไร เขาอยากพัฒนาอะไรเขาก็ใช้งานวิจัย เข้ามาทำงาน ผมกับพยอมรู้จักกันเพราะผมได้มีโอกาสไปทำงาน เรื่องเวทีชุมชน และอีกหลายคนตอนนี้เป็นอธิบดีไปแล้วก็มี
ตอนนั้นผมมีรายได้พิเศษจากงานส่งเสริมการเกษตรนี่แหละ แต่อย่าคิดว่าผมชิ่งจากงานประจำไปหารายได้พิเศษนะครับ ผมแค่เพียง เซ็ท ระบบงานให้มันเป็นระบบ เหมีอนการต่อจิ๊กซอ ผมสามารถมีรายได้จาก งานส่งเสริมการเกษตรและการเสาะหาตลาด สร้างความมั่นคงในด้านราคาผลผลิต สามารถ ลร้างรายได้ ให้เกษตรถึงวันละ 3,000 บาททีเดียว แต่ก็ต้องหยุดงในเวลาต่อมา
ผมเลยใช้เงินที่ได้นี้มามาจัดประขุมเกษตรตำบลที่เป็นเพื่อน พี่ นัอง มาคุยกัน เท่าที่ทำได้โดยผมเป็นคนจัดการทั้งที่ประชุมทั้งเรื่องอาหารโดยใช้สถานที่ วังยางรีสอร๋ท เป็นเวลา 1 วันผมเลือกเฉพาะคนที่ผมสนิทเท่านั้น
ผมรวบรวมได้น่าจะประมาณ 50 คน มีบางคนเสนอผมว่าให้เก็บเงินคนที่มาบ้างพอเป็นค่าห้องประชุมก็ยังดี ผมบอกเขาว่าไม่เป็นไร ขอแค่เขามาก็ดีใจแล้ว
แต่ก่อนที่จะถึงวันนั้นผมได้พบกับ พยอม อีกครั้งโดยการจัดงานของกรมส่งเสริมการเกษตร แต่จำไม่ได้ว่าที่ โรงแรมมารวย การ์เดน ที่หน้ากรมส่งเสริมฯ หรือที่ศูนย์บริหารศัตรูพืชโดยชีวภาพที่อำเภออู่ทอง ผมเล่าแนวคิดนี้ให้พยอมฟัง พยอมบอกว่าใหบอกวันเวลามาเขาจะมาช่วย ผมก็บอกวันเวลา ให้เขาไป
การรวมกลุ่มเกษตรตำบลในครั้งนี้ผมกลัวว่าทางเกษตรจังหวัดจะเข้าใจผิด คิดว่าผมรวมตัวกันเพื่อกระด้างกระเดื่องต่อผู้ยริหารผมจึงแจ้งให้เกษตรจังหวัดทราบ เมื่อวันนั้นมาถึงเกษตตำบล รุ่นพี่คนหนึ่งที่ผมชวนมาด้วย แกเคยเป็นเกษตรตำบลดีเด่นมาก่อน
ที่เขามาครั้งนี้เขาคงไม่ค่อยเต็มใจแต่คงมาด้วยปฏิเสธไม่ได้ หรีอ อะไรก็ไม่ทราบ แต่ตอนนี้พี่เขามาแล้ว แม้ผมจะเป็นคนโมโหง่ายเกรี้ยวกราด แต่ในเรื่องอาวุโส ผมได้แสดงความเคารพ ความนอบน้อมในฐานะที่เขาคือรุ่นพี่ผมอยู่เสมอ และโดยเฉพาะคนนี้เขามีกลยุทธ์ในการทำงาน พี่เขามาที่รีสอร์ตเป็นคนต้น ๆ เมีอมาถึงแกก็บอกผมว่า
" มึงอย่าหวังอะไรมากนัก มึงจำไม่ได้หรือวะที่ประชุมรายปักษ์ครั้งนั้นพวกเกษตรตำบลไม่ชอบว่าทำไมต้องใชชื่อเกษตรตำบลด้วย ทางจังหวัดเขาก็เลยบอกว่าที่จริงตำแหน่งเราก็คือเจ้าพนัก่งานการเกษตรเรื่องก็จบไป แล้วมึงจะคิดอะไรมาก แค่ชื่อที่เขาเรียกตามงานที่ทำ เขายังไม่พอใจเลย "
ผมฟังพี่เขาพูดดูเหมีอนจะไม่เห็นด้วย ผมแค่เพียงพยักหน้าว่ารับฟังแต่ในใจคิดว่าพี่เขาคงหมดไฟแล้ว ตอนนี้คงมีแต่ไฟราคะ เพราะนอกจากเป็นคนรูปหล่อแล้วยังมีเมียเพิ่มอีก 2 คนนี่
ผมนั่งอีกพักก็มากันเกือบครบ ผมเลยเขิญเข้าห้องผมพูดแค่ว่าก็ชวนมาพบป;แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ผมพูดฆ่าเวลาเพื่อพยอมจะมาทัน แต่ถ้าเขาไม่ได้มาผมก็จะบรรเลงเอง
ผมยกข้อมือดูนาฬิกาอีกครั้ง ใกล้เวลา 10.00 น.แล้วไม่รอพยอมดี
ก่วาเพราะผมเกรงใจเขาผมไม่ได้พูดค่าใช้จ่ายกันเลย ผมก็เกรงใจไม่กล้าถามว่าถึงไหนแล้ว ทันใดนั้นโทรศัพทดังขึ้นพยอมนั่นเอง เขาบอกว่าเขาผ่านอำเภอบางปลาม้ามาตอนนี้อยู่หน้าห้างโลตัส
ผมแนะนำเขาว่าให้วื่งรถตรงมาทางอำเภอศรีประจันต์ ตรงวัดสับปะรดเทศ และมีป้ายวังยางรีสอร์ทให้เลี้ยวซ้าย่เข้ามาเพราะเราอยู่กันที่นี่แล้ว ตอนนั้นผมให้ทุกคนพักตามอัธยาศัย
ประมาณ 20 นาที พยอมมาถึงพร้อมด้วยผู้ชาย ที่เป็นคนขับรถ ผมจำผู้ชายคนนั้นได้ เขาเป็นเกษตรตำบลของจังหวัดน่านผมจำหน้าเขาได้แต่จำชืรอไม่ได้ เราเคยอบรมหม่อนไหมด้ายกันเขาก็จำผมได้เช่นกัน
เราพักกันชั่วครู่เพื่อให้พยอมและเพื่อนพักเหนื่อย ซัก 15 นาที เราก็เริ่มต้นพวกเพื่อนเกษตรตำบลก็อยู่แถวนั้น ไม่ต้องเรียกอะไรกัน เขาเห็นก็มานั่งในห้องประชุมกันวันนี้ก็เหมือนทุกครั้งที่มีการอบรมแต่ที่ดีกว่าคือไม่ต้องบอกกันว่าเริ่มละนะ พักละนะ ผมเริ่มต้นด้วยการแนะนำแค่ว่าสองคนนี้คือใครมาจากไหน ต่อจากนั้นพยอมเป็คนจัดการ
พยอมแนะนำตัวพร้อมกับเพื่อนเกษตรตำบลคนนั้น บทบาทวันนี้เป็นของพยอม ส่วนเพื่อนของพยอมช่วยในการเตรียมกระดาษฟาง ติดกระดาษสำหรับทำ Mine Map วันนั้นพยอมประยุกต์มาจากการทำวเวทีชุมชนเจาใช้เครื่องมือแค่ 2 อย่างคือ Mine Map กับ การระดมสมอง (Brain storming )
ส่วนผมแค่จัดอุปกรณ์ให้เขา ผมเคยไปกับเขา 2-3 ครั้งและเคยทำเวทีชุมชนจึงทราบว่าเขาใช้อะไรกันบ้างส่วนเพื่อนที่มากับพยอมเหมีอนเขารู้กันตอนไหนทำอะไรโดยพยอมไม่ต้องขอต้องบอก
พยอมคุยกับเพื่อนเกษตรตำบล โดยการโต้ตอบสลับกันไปมาเช่นถามว่าที่นี่ทำอะไรสลับกับที่เมืองน่านทำอย่างไร บทบาทของเกษตรตำบลกับโครงการ ฮักเมืองน่าน อย่างไรช่วยเหลือการทำงานของเพื่อนเกษตรตำบลอย่างไร การทำงานของข้าราชการ กับโครงการ ฮักเมืองน่าน
พยอมกล่าวถึงการทำงานที่มีความตั้งใจ ความจริงจัง ช่วยกันได้เหมือนจะบอกว่าคุณต้องทำงานเป็นทีมเพราะการทำงานคนเดียวคงเป็นไปได้ ยากที่ทำได้ดีทุกอย่าง การทำงานเป็นทีมมันจะได้ช่วยเหลือกันได้ บางคนถนัดอีกอย่าง แต่ไม่ถัดอีกอย่าง ก็มาช่วยกันได้
พยอมกล่าวถึงบทบาทของชมรมเกษตรตำบลเพื่อช่วยการทำงานให้ มีประสิทธิภาพอย่างไร และพูดว่าเกษตรตำบลคือฟันเฟืองตัวสุดท้ายที่สามารถทำนโยบายผู้บริหารให้บรรลุผลได้เราไม่ควรที่เป็นเจ้าหน้าที่พิมพ์ดีดอย่างเดียว เราควรเป็นเจ้าหน้าที่พิมพ์ดีดและรีไรท์เตอร์ด้ว
พอพยอมพูดจบผมก็ให้ทุกคนพักอึกครั้ง เพื่อที่จะได้มีเวลาคุยกับ
พยอม พอพวกเพื่อน ๆเกษตรตำบลแยกบ้ายออกไป พยอมบอกผมว่าเดี๋ยวจะกลับเลย.เสร็จแล้ว ผมตกใจมาก เขามาเช้า แล้วเย็นกลับเลยหรือ ระหว่างน่านและสุพรรณเขาขับรถไหวหรือแม้ว่าจะผลัดกันขับก็ตาม
ผมขวนเขานอนที่นี่ซักคืนก่อนจะกลับ เธอบอกว่าพรุ่งนี้เขามีนัดที่ศูนย์อะไรซักอย่างชื่อ โจโก้หรืออะไรนี่แหละ ผมเลยบอกว่าผมขอช่วยค่าน้ำมันรถก็แล้วกัน คงไม่ได้ช่วยอย่างอื่น ผมยื่นเงินช่วยค่าน้ำมันรถให้เขา 2,000 บาท
เขาไม่รับ เขาบอกว่าเขามาด้วยใจ เธอบอกว่าจะเอาใจช่วยให้มันเกิด เพราะจะได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แล้วเพื่อนของเขาก็ตบท้ายว่าเรามาด้วยใจครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องอื่น
เมื่อพยอมและเพื่อนกลับไปแล้วทุกคนก็เข้ามาในห้องอีกครั้งหนึ่ง ผมกล่าวขอบคุณทุกคนที่มาในครั้งนี้ ส่วนอะไรจะเป็นไปได้แค่ไหน ผมเป็นแค่ผู้เสนอเท่านั้น ขอให้พวกเราไปคิดเอง ทั้งผมและพยอมไม่ได้โน้มน้าวหรือจูงใจอะไร เพราะเราก็ทราบกันแล้ว วิธีการนี้น่าจะใช้กับเกษตรกร ผมพูดจบก็แยกย้ายไม่คุยอะไรกันอีก
แต่ผมไม่ทิ้งลายนักส่งเสริมฯโดยการแอบบอกเพื่อนหรือน้อง ๆที่สนิทกันว่า ถ้ามีใครพูดถึงเรื่องนีัผมจะไปคุยกับเขาทันที แต่จากวันนั้นจนกระทั่งบัดนี้ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตามที่เคยได้รับการอบรม. และเคยทำแผนพัฒนาแบบมีส่วนร่วมกับเกษตรกร ( Participatory development planing )บอกผมว่าถ้าเขายังไม่คิดเราอย่าไปคิดให้เขา นี่เราก็ได้มีการกระตุ้น ออกไปแล้ว
ผมเล่าเรื่องพวกนี้ใหัฟังเพราะผมกลัวว่าผมจะอธิบายเรื่องนี้ให้เช้าใจนั้นยากและยิ่งคนที่รู้จักผมก็จะหาว่าผมเพ้อเจ้อทั้งที่ผมก็ใช้ชีวิตเรื่อย ๆ ปกติหรืออาจแผลง ๆบ้างในบางโอกาส
ทัศนะคติที่ดีหรือ ที่จะทำให้เรารักที่จะเป็นนักส่งเสริมที่ดีได้. มันก็ไม่น่าจะใช่เสียทีเดียว
การมีจรรยาบรรณในการเป็นนักส่งเสริมการเกษตรหรือ มันก็ไม่น่าจะใช่เพราะผมเองยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าจรรยาบรรณนักส่งเสริมฯมีอะไรบ้าง ผมเคยถามตนเองว่าแล้วทำไม ผมจึงทำมันอยู่อย่างไม่เบื่อหน่าย
เคยได้ข่าวไหมครับ นักธุรกิจ นักกีฬา นักสังคมสงเคราะห์ นักกัดปลา ตีไก่ วัวชน คนเหล่านั้นสิ่งแรกที่เขาส่วนใหญ่มี ถ้าเขาถามว่าทำไม มาทำอาชีพนี้หรือทำอย่างงนี้ เขาจะตอบทันทีว่าเพราะเขาชอบและมีใจรัก เพราะมีใจรักถึงแม้นมีอุปสรรคก็มีความมานะอดทนเพื่อจะฝ่า
ฟ้นอุปสรรคเหล่านั้น
ผมใช้เวลามาถึงวันนีถ้านับวันนี้ด้วยก็ 40 ปี กว่าจะได้คำตอบว่าเรารักมัน มันสนุกมันท้าทาย ว่าสิ่งที่เราคิด มันบรรลุผลหรือไม่ เรื่องนี้ทำแบบนี้ได้ผลหรือไม่ เมื่อเรามีใัจรัก หลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่รู้ เราทำไม่เป็นเราก็ขวนขวายหามันหรือทั้งฝึกทั้งซ้อมให้เราทำเป็นเพื่อเอาไปใช้กับงานที่ทำ สรุป แล้ว ก็คือ.
 
กระบี่อยู่ที่ใจ. แม้กิ่งไผ่ก็ไร้เทียมทาน "
โฆษณา