26 ม.ค. 2021 เวลา 09:44 • การตลาด
คำถาม ลูกค้าตัดสินใจซื้อ จาก อารมณ์ หรือ เหตุผล ?
คำตอบ คือ ลูกค้าตัดสินใจซื้อจาก “อารมณ์” มากกว่าเหตุผล
คุณเคยสังเกตตัวคุณเองไหม บ่อยครั้งเวลาคุณตัดสินใจซื้ออะไรมา จริงๆแล้วมันไม่ได้จำเป็น คุณไม่ได้ต้องการมันจริงๆหรือไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาซื้อมันตั้งแต่แรก แต่เมื่อคุณเห็นอะไรบางอย่างในตัวมัน ทำให้คุณ “อยาก” ซื้อมันทันที และความอยากนี้เองคือ “อารมณ์” ที่ทำให้คุณตัดสินใจซื้อ
เพราะฉะนั้นคุณสามารถกระตุ้นให้ลูกซื้อตัดสินใจซื้อได้ด้วยการกระตุ้นอารมณ์ความอยากซื้อของลูกค้าได้ โดยใช้เทคนิคเร่งการตัดสินใจซื้อของลูกค้า 3 ข้อ โดยเป็นตัวกระตุ้นทำให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้าของคุณมากขึ้น ได้แก่ “ข้อดี” “ข้อเสนอ” และ “ข้อจำกัด”
1. กระตุ้นด้วย “ข้อดี” ของสินค้าของคุณ
ก่อนที่คุณจะขายอะไร คุณต้องมั่นใจก่อนว่าสินค้าคุณดีจริง หรือหาจุดเด่นของสินค้าของคุณให้ได้ ซึ่งข้อนี้คืเป็นการบอกถึงข้อดีของสินค้าของคุณว่ามันดีอย่างไร ทำไมต้องซื้อ ทำไมต้องมีสินค้าตัวนี้ บอกถึงข้อโดดเด่นว่าสินค้าของคุณแตกต่างจากสินค้าอื่นอย่างไร เพราะยิ่งสินค้าของคุณโดดเด่นมากเท่าไหร่ ลูกค้ายิ่งอยากได้มากเท่านั้น
2. กระตุ้นด้วย “ข้อเสนอ” โปรโมชัน ลด แลก แจก แถม
เป็นเทคนิคที่ถูกใช้บ่อย เพราะหลายครั้งที่ลูกค้าไม่ได้อยากซื้อ แต่พอเห็นป้ายลดราคา เห็นโปรโมชันต่างๆ ลูกค้าก็เกิดความอยากซื้อขึ้นมาทันที บางที่ใช้เทคนิคการตั้งราคามากกว่าสินค้าจริง30% เพื่อลดราคา50% เท่ากับว่าจริงๆแล้วลดราคาไปจริงๆแค่20% เท่านั้น หรือโปรโมชัน ซื้อ1แถม1 อันนี้ลูกค้าก็สนใจเยอะ แต่แนะนำให้เป็นช่วงที่อยากปล่อยสินค้าออกสต็อกจะดีกว่า
3. กระตุ้นด้วย “ข้อจำกัด” ระยะเวลาที่จำกัด หรือสินค้าจำนวนจำกัด
เป็นเทคนิคสุดท้ายหรือเรียกว่าไม้ตายก็ได้ เพราะจากที่ได้บอกไปว่าลูกค้าตัดสินใจซื้อด้วยอารมณ์ ดังนั้นคุณต้องเร่งการตัดสินใจโดยการใช้ข้อจำกัดว่า สินค้ามีจำนวนจำกัดแค่กี่คนแรก ไม่ก็โปรโมชันสำหรับวันนี้เท่านั้น เพราะอารมณ์การติดสินซื้อ มันเป็นอารมณ์ชั่วคราวหรือชั่ววูบ ถ้าลูกค้าเดินออกจากร้านของคุณไปแล้วเขาอาจจะหมดอารมณ์ความอยากซื้อนั้นได้
ดังนั้นการเร่งการตัดสินใจซื้อของลูกค้า คุณสามารถสร้างเองได้ ยิ่งถ้าคุณสามารถทำได้3ข้อได้ ยิ่งเป็นการช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อมากขึ้น แต่รายละเอียดปลีกย่อยในแต่ละขั้นตอนก็ขึ้นอยู่กับความสามารถหรือทักษะเฉพาะของคุณด้วย โดยการพยายามเรียนรู้และสะสมประสบการณ์ เพราะไม่มีใครเก่งตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มทำ ยกตัวอย่าง คนที่มีชื่อเสียงดังๆมากมาย กว่าพวกเขาจะเก่งกว่าจะประสบความสำเร็จ เขาก็เคยล้มเหลวมาก่อน แต่ประสบการณ์และการเรียนรู้ มันทำให้พวกเขามาถึงจุดนั้นได้ คุณก็เช่นกัน วันนี้คุณอาจจะยังไม่เก่งพอ แต่พรุ่งนี้ หรือปีหน้าๆ คุณก็สามารถเป็นคนที่เก่งได้ ถ้าคุณไม่หยุดหรือล้มเลิกความตั้งใจเสียก่อน
โฆษณา