27 ม.ค. 2021 เวลา 09:53 • หุ้น & เศรษฐกิจ
WELCOME PTTOR ❤️ เปิดสถิติ IPO 5 ปีย้อนหลัง + แนวโน้มทิศทางราคา
1
นาทีนี้คงปฏิเสธไม่ได้นะครับ ว่าหุ้น PTTOR กลายเป็นหุ้นที่คนแทบทั้งประเทศกำลังให้ความสนใจ ถึงขนาดแห่จองซื้อกันวันแรก จนทำให้เว็ปธนาคารล่มในเวลาแค่ไม่ถึง 1 นาที เล่นเอาคนที่ไม่เคยเล่นหุ้นมาก่อน ยังต้องถามกับคนรอบตัวว่า “เราซื้อดีไหม?”
ดังนั้น เราจึงทำการรวบรวมข้อมูลมาให้ทุกท่านรับรู้ว่า หุ้น IPO ตัวนี้มีอย่างไร และจองซื้อตอนนี้ทันหรือไม่ (โดยเฉพาะมือใหม่) หากใครที่อ่านบทความนี้จบ จะสามารถตัดสินใจได้อย่างแน่นอน
2
IPO ต้องขายราคาเปิด
นี่คือ 1 ใน Logic ที่นักลงทุนในตลาดยึดถือและใช้ในการเล่นหุ้นที่เพิ่งเข้าตลาดใหม่ (IPO) โดยพวกเขาแทบไม่จำเป็นต้องรู้เลยด้วยซ้ำว่าหุ้นตัวนี้ทำธุรกิจอะไร เพราะเชื่อว่าในวันแรกของการซื้อขาย มักจะมี “ใบสั่ง” ให้ทำราคาเปิดให้สวยงามเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย เพื่อให้นักลงทุนมั่นในใจในการถือหุ้น และสะท้อนฝีมือของบริษัทที่นำหุ้นเข้าตลาด
ดังนั้นเราลองมาดูกันว่า Logic นี้สามารถใช้ได้ผลหรือไม่ ?
ตารางแสดงราคาหุ้น IPO ของตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET) 5 ปีย้อนหลัง (2016-2020)
*นับเฉพาะบริษัทที่จดเทียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ (SET) ไม่นับรวมตลาด MAI
IPO 91% ไม่ขาดทุน !
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ทั้งหมด 63 บริษัท โดยมีเพียงแค่ 6 บริษัทเท่านั้น ที่ราคาเปิดซื้อขายวันแรกต่ำกว่าราคาจอง IPO
ดังนั้น สถิตินี้คงเป็นเรื่องชี้ชัดแล้วใช่ไหมครับ ว่าทำไมหุ้น IPO ถึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนในตลาดหุ้นให้ความสนใจและแสวงหา เพราะการได้โควตา IPO ก็เปรียบเสมือนลาภก้อนหนึ่งที่สร้างกำไรให้กับพอร์ตพวกเขา โดยแทบไม่ต้องออกแรงวิเคราะห์เพิ่มเติม
แต่อย่างไรก็ตาม คนที่มีประสบการณ์เทรดคงอยากแย้งพวกเราว่า “สถิตินี้ไม่สามารถใช้ได้กับ PTTOR” เพราะส่วนใหญ่ หุ้น IPO มักจะถูกจำกัดไว้ให้เฉพาะรายใหญ่เท่านั้น จึงทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีขนาดนี้ แต่ในเคสของ OR ที่เป็นหุ้นขนาดใหญ่และปล่อยสู่สาธารณะชนิดที่ว่าได้กันทุกคนอย่างแน่นอน จึงมีพื้นฐานที่แตกต่างกันสิ้นเชิง
ดังนั้น เพื่อความแฟร์เราลองคัดเหลือเฉพาะ 5 บริษัทขนาดใหญ่ที่ให้สิทธิ์นักลงทุนทั่วไปจองซื้อได้ ดังนี้
ตารางแสดงการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น IPO 5 บริษัทขนาดใหญ่และเปิดให้รายย่อยจอง IPO
บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP), บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM), บริษัท แอสเซท เวิรด์ คอร์ป (AWC), บริษัท โอสถสภา (OSP), บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี้ ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ชื่อคุ้น ๆ กันทั้งนั้นเลยใช่ไหมครับ ?
ทั้งหมดเป็นบริษัทที่มีมูลค่า > 50,000 ล้านที่เข้าตลาดหุ้นไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยสิ่งแรกที่ทำให้ทุกคนอุ่นใจได้เลย คือ ไม่มีตัวไหนเลยที่ราคาเปิดต่ำกว่าราคาจอง IPO
ซึ่งตัวที่แย่สุด คือ AWC ที่เปิดเท่ากับราคาจอง โดยเรื่องนี้อาจไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ เพราะทุกคนบริษัทต่างมองว่าเรื่องของ “ภาพลักษณ์” เป็นเรื่องสำคัญ
ดังนั้น หากรู้ว่าทุกคนกำลังจับตาดูราคาเปิด พวกเขาคงไม่ยอมให้ความมั่นใจในบริษัทหายไปแน่ และนี้คือเหตุผลสำคัญที่เราเชื่อว่า PTTOR ที่เป็นหุ้นลูกของบริษัทมหาชนอันดับ 1 ของประเทศจะไม่ยอมให้ตัวเองขายหน้าด้วยการเปิดต่ำกว่าจองอย่างแน่นอน
ยิ่งหุ้นใหญ่+รายย่อยเยอะ ยิ่งต้องมีแรงกระเพื่อม
แต่อย่างไรก็ตาม หากสังเกตดูการเคลื่อนไหวในวันแรกของทุกตัวจะพบว่า ราคาเปิดแทบจะเป็นจุดสูงสุดของวัน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า นักลงทุนส่วนใหญ่จะได้หุ้นในช่วง IPO อยู่แล้ว จึงทำให้มีความต้องการซื้อในตลาดน้อย และอย่างที่เคยบอกไปว่ามีบางส่วนเขาใช้กลยุทธ์กระหน่ำขายราคาเปิด
ดังนั้น หากใครที่อยากได้หุ้น (หรือขายแล้วต้องการซื้อกลับ) จึงไม่จำเป็นต้องรีบไล่ราคา เพราะส่วนใหญ่มักเล่นกันในราคาต่ำกว่าราคาเปิดแทบทั้งวัน โดยจากสถิติแล้วจุดต่ำสุดของวันจะย่อจากราคาเปิดได้ประมาณ 5-10% โดยสังเกตได้จากส่วนต่างราคาเปิด-จุดต่ำสุดในตาราง
1
แล้วถ้าอยากถือยาวตัวนี้น่าสนใจหรือไม่ ?
ก่อนอื่นเราต้องเบรกนักลงทุนมือใหม่ที่คาดหวังสูงกับหุ้นตัวนี้ก่อนนะครับ เพราะยังไงหุ้นก็คือหุ้น ที่ต้องมีการเคลื่อนไหวขึ้น-ลงตามทิศทางตลาด ดังนั้น หากเวลาผ่านไปถ้าตลาดหุ้นเป็นขาลง หุ้นพวกนี้ก็มีแนวโน้มปรับตัวลดลงตาม แต่สิ่งที่อยากทราบคือ แล้วมันจะปรับตัวได้ดีกว่าตลาดหรือไม่ ? เราลองมาดูสถิติการเคลื่อนไหวของหุ้น IPO เทียบกับการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยในช่วงเวลาต่าง ๆ
ตารางแสดง%การเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น IPO เทียบ SET
1
จากตารางจะพบว่า ในช่วงเวลา 1 อาทิตย์แรก มีถึง 4 ตัวที่ราคาหุ้น IPO ยังเคลื่อนไหวได้ดีกว่าทิศทางตลาด (ใครที่เอาหุ้นเข้าพอร์ตไม่ทันในวันแรก ยังถือมีแนวโน้มขายทำกำไรได้ในวันถัด ๆ ไป)
3
จากนั้นเมื่อถือยาวมาจนถึงปัจจุบัน ก็มีถึง 4 ใน 5 ตัวที่เคลื่อนไหวดีกว่าตลาด ดังนั้น นี่จึงเป็นสถิติที่สามารถทำให้พวกท่านอุ่นใจได้ดีในระดับนึงว่าการถือหุ้น IPO ตัวใหญ่นี้ จะไม่ขาดทุนหนักและมีแนวโน้มได้กำไรมากกว่าการเคลื่อนไหวของตลาด
แต่อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงแค่สถิติที่ใช้เทียบเคียงเท่านั้น ซึ่งอาจมีนัยยะสำคัญไม่เท่ากับพื้นฐานของบริษัท โดยหากถ้าใครพอมีเวลาก็สามารถหาอ่านรายละเอียดของบริษัท&ข้อมูลพื้นฐานได้ที่ตามบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ หรือหนังสือชี้ชวน
ข้อมูลพื้นฐานและงบบริษัท => https://investor.pttor.com/th
ถ้าสนใจตอนนี้จะยังจองซื้อทันไหม ?
“ทันแน่นอนครับ” เนื่องจากการขายหุ้น IPO รอบนี้จะใช้ระบบจัดสรรที่เรียกว่า Small Lot First กล่าวคือ เกลี่ยให้ทุกคนคนละเท่า ๆ กันก่อนที่ 300 หุ้น (ขั้นต่ำในการจอง) จากนั้นเหลือเท่าไหร่ก็ทยอยแบ่งอีกทีละ 100 หุ้นให้คนที่จองเกิน และทำแบบนี้เป็นขั้นไปเรื่อย ๆ จนครบโควตา ดังนั้น “คนที่จองคนสุดท้าย จะมีสิทธิ์เท่ากับคนที่จองคนแรก” ส่วนใครที่ได้ไม่ครบ ระบบจะคืนโอนเงินคืนให้ก่อนวันที่ 17 ก.พ.
ไม่มีพอร์ตจะซื้อหุ้นตัวนี้ยุ่งยากไหม ?
หลายคนที่ไม่เคยเล่นหุ้น คงอยากใช้โอกาสนี้ในการเริ่มต้น แต่ติดตรงที่ว่าพอมาตัดสินใจเอาตอนนี้ แล้วรู้สึกว่าเตรียมตัวไม่ทันเพราะไม่ได้เปิดพอร์ตไว้ และกลัวว่าถ้าได้เป็นใบหุ้นมาแล้วจะยุ่งยาก โดยจริง ๆ แล้วมันไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด เพราะเมื่อเราได้ใบหุ้นมาแล้ว เพียงแค่นำมันส่งไปให้ Marketing ของเรา เขาก็จะเป็นคนเดินเรื่องเอาเข้าพอร์ตได้เลย ดังนั้น ขอเพียงแค่เลือกโบรกเกอร์เปิดพอร์ตไว้ แล้วพอพอร์ตเปิดเสร็จก็แค่ส่งใบจองให้มาร์ไปจัดการต่อ
1
โดยดูตัวอย่างวิธีการจอง+ใบจองหุ้นได้ที่ Link
1
สรุปแล้ว เราคิดว่าหุ้น IPO PTTOR ตัวนี้เป็นหุ้นที่น่าสนใจทั้งคนที่เล่นหุ้นอยู่แล้ว และมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นในการซื้อ/เล่นหุ้นสักตัว ทั้งการทำกำไรในระยะสั้นและถือลุ้นในระยะยาว ทั้งนี้เหนือสิ่งอื่นใดเราขอย้ำว่า นี่เป็นเพียงข้อมูลสถิติประกอบเท่านั้น โดยไม่มีการการันตีว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นเดียวกับอดีต ขอให้ทุกคนตัดสินใจกันอย่างรอบคอบ โดยมีเวลาถึงวันที่ 2 ก.พ. (ก่อนเที่ยง) โดยเราเองก็เป็น 1 ในคนที่จองซื้อหุ้นตัวนี้ และหวังว่าจะได้รับกำไรเช่นเดียวกับทุกคน ดังนั้น เราขอภาวนาให้มันเป็นไปตามที่คาด และเราจะมายกแก้วกาแฟ Amazon ดื่มเฉลิมฉลองไปพร้อมกับทุกคน ขอบคุณครับ
💬 สามารถพูดคุย สอบถาม หรือร่วมแชร์ข้อมูลกับเราได้ ในห้อง Line Open Chat “TFEX For Future”
👇🏻 คลิก link เข้ากลุ่มได้
✳️ฝากติดตาม TFEX For Future ช่องทางอื่นด้วยนะครับ
1
โฆษณา