เปิดตำนาน วงผู้ชายเสียงแหลม (ตอนที่1)
Beegees กับ ความสำเร็จและสายสัมพันธ์ที่แยกกันไมได้
คงไม่มีใครคิดว่า การที่ผู้ชาย ร้องเพลงบีบเสียงให้แหลมเหมือนผู้หญิงมันจะไพเราะได้ยังไง เหมือนๆกับที่ โปรดิวเซอเพลงหลายๆคนก็คิดเช่นนั้น แต่ไม่ใช่กับ โรเบิร์ต สติกวู้ด โปรดิวเซอของวงBee Gees
“มันอาจจะฟังดูแปลก ถ้าผู้ชายจะมาร้องเสียงสูงในแบบผู้หญิง แต่Bee gees มีความสามารถ ทำให้มันเข้ากับเพลงได้อย่างลงตัว นี่เป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของพวกเค้า “ นี่คือสิ่งที่ โรเบิร์ต สติกวู้ด รู้สึก
ซ้ายไปขวา มอริส / แบรี่ /โรบิน กิบบ์ และ โรเบิร์ต สติกวู้ด
Bee gees นั้นประกอบด้วย พี่น้องตระกูลกิบบ์ 3 คน ได้แก่ แบรี่ คนโต และ น้องชายฝาแฝดโรบิน กับมอริส (จริงๆตระกูลกิ๊บมีลูกชาย4คน อีกคนชื่อ แอนดี้ แต่ไม่ได้มาร่วมวง Bee Gees ด้วย ) ทั้ง3 เกิดและโตที่ประเทศอังกฤษ และได้ย้ายตามครอบครังไปที่ซิดนี ออสเตเลีย ในช่างปลายปี1950 แล้วเริ่มตั้งวงดนตรีที่นั่น Beegees ออกอัลบั้มแรก ปี1965 ชื่อว่า The Bee Gees Sing and Play 14 Barry Gibbแต่ไม่ประสบความสำเร็จ สามพี่น้องจึงเดินทางกลับมายังอังกฤษ ในปี1967 (จริงๆBee gees มีออกอัลบั้มที่สอง และมีเพลงฮิตติดชาร์ตอันดับ1ที่ออสเตเลียคือเพลง Spicks and Specks แต่ดังหลังจากพวกเค้ากลับมาที่อังกฤษแล้ว)
ภาพปกอัลบั้ม The Bee Gees Sing and Play 14 Barry
หลังจากกลับมาที่อังกฤษ Bee gees ก็ได้มาร่วมงานกับ โรเบิร์ต สติกวู้ด (โปรดิวเซอคนสำคัญที่จะพาพวกเค้าดังเป็นพลุแตกในอนาคต) และได้ออกอัลบั้มที่3 ชื่อว่า Bee Gees' 1st ใช้ 1st เนื่องจากนับเป็นอัลบั้ม International อัลบั้มแรก (อัลบั้มที่ออกก่อนหน้านี้ มีจำหน่ายเพียงแค่ใน ออสเตเลีย และ นิวซีแลน เลยไม่นับ)ในอัลบั้มนี้ Bee gees มีเพลงที่ดังติดชาร์ต อย่าง "To Love Somebody" และ Holiday
ความสำเร็จของพวกเค้า ไม่หยุดเพียงแค่นั้น ในปีถัดมา (1968) สามพี่น้อง ก็ออกอัลบั้มติดกันถึง2 อัลบั้ม Horizontal ที่ออกมาช่วงเดือนกุมภาพันธ์ มีเพลงฮิต อย่าง "Massachusetts" ที่ขึ้นไปถึง อันดับ 1ใน UK และอันดับ 11ใน US รวมถึงได้อันดับ1 ในอีกหลายๆประเทศ แล้วยังมีเพลงซิงเกิอ “Words” ออกมาทีหลังที่ติดอันดับอีกด้วย อัลบั้ม Idea ออกมาช่วงเดือนกันยายนในปีเดียวกัน ในอัลบั้มนี้ มีเพลงที่ส่งให้ โรบิน ดังเป็นพลุแตกอย่าง "I Started a Joke" นั่นทำให้ตลอดทั้งปี1968-ต้นปี1969 Bee Gees มีคิวทัวคอนเสิร์ต และออกรายการทีวี แน่นอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็น Top of the pop band ในปีนั้นเลยทีเดียว
สมาชิกวง Bee Gees ปี1968
ทุกอย่างมี2 ด้าน
เนื่องจากความดังของพวกเค้า ทำให้เริ่มมีการทะเลาะกันในวง ต่างคนก็ต่างมีอีโก้ในตัวเอง โดยเฉพาะการทะเลาะกันระหว่างแบรี่พี่คนโต กับโรบินที่ถือเป็นคนที่มีเสียงโดดเด่นที่สุด แม้มอริสจะพยายามห้ามและบอกให้ทั้งสองคนค่อยๆคุยกัน แต่ปัญหาการทะเลาะกันของพี่น้องคู่นี้ก็ดูเหมือนจะบานปลาย ไปจนถึงขั้นทีโรบินตัดสินใจ แยกวง ไปในที่สุด (ช่วงที่แยกวงไปนั้น โรบินมีออก ซิงเกิ้ลเพลงที่ฮิตติดชาร์ตอย่าง "Saved by the Bell" มา1 เพลง )
ไม่ครบ3คนก็ไม่ใช่Bee Gees
หลังจากโรบินแยกตัวออกไป แบรี่กับมอริส ก็ออกอัลบั้ม มาอีก2 อัลบั้ม แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ชื่อเสียงความโด่งดังของBeegees เริ่มถดถอยลงเรื่อยๆ ทางด้าน โรบินเอง แม้จะประสบความสำเร็จจากเพลง Saved by the Bell แต่มันก็เป็นเพียงแค่เพลงเดียวเท่านั้น และเกือบตลอดปี ที่แยกตัวออกมา โรบินไม่มีผลงานที่ดีๆอีกเลย การเป็นนักร้องในยุคนั้นมีแค่เสียงดีอย่างเดียว มันไม่พอ โรบินรู้ข้อนี้ดี และเพลงที่โรบินแต่งนั้น มันไม่สมบูรณ์เลย เมื่อขาดผู้ช่วยคิดอย่างแบรี่และมอริส
การกลับมาอีกครั้ง
1ปี หลังจากที่ไฟแห่งความบาดหมางเริ่ม มอดดับลง โรบินเดินทางมาร่วมงานแต่งของแบรี่ แล้วแบรี่และโรบินก็เริ่มกลับมาคุยกันอีกครั้ง 3พี่น้องต่างรู้สึกคิดถึงวันคืนเก่าๆ วันเวลาที่เสียงของพวกเค้า ได้ร่วมประสานขับร้องเพลงในสถานที่ต่างๆ ช่วงเวลาที่ได้แต่งเพลงร่วมกัน สามพี่น้องกิ๊บตระหนักดีว่า เพลงของพวกเค้าดูจะสมบูรณ์ไม่ได้เลย เมื่อขาดคนใดคนหนึ่งไป นั่นทำให้ Bee Gees ได้กลับมารวมวงกันอีกครั้งในปี 1970
“ผมไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักร้องเดี่ยว มันเลวร้ายเกินไป ผมไม่เคยคิดจะแต่งเพลงร่วมกับใครนอกจากแบร์รี เขาเป็นคนเดียวที่ดึงส่วนที่ดีที่สุดของผมออกมาได้” โรบินกล่าว”
งานแต่งแบรี่ กิบบ์ ปี1970 กับ ลินดา
หลังจากกลับมารวมตัวกัน พี่น้องกิ๊บก็ได้ออกอัลบั้ม ถัดมาคือ 2 Years On ที่มีเพลงฮิตอย่าง Lonely Days ที่ขึ้นไปติดชาร์ต อันดับ3 ของ US bill board (นับเป็นการกลับมาที่ตอกย้ำว่า ความสำเร้จของ Bee gees ต้องไม่ขาดใครคนใดคนหนึ่ง )
Bee gees ยังประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง กับอัลบั้ม Trafalgar ที่ออกมาในปี 1971 โดยมีเพลง How Can You Mend a Broken Heart ขึ้นไปถึงอันดับ 1 ใน US Top chart bill board และในปี1972 อัลบั้ม To Whom It May Concern ที่มีเพลงฮิต อย่าง ran to me พวกเค้าเริ่มกลับมมามีคิวรายการโทรทัศน์ และงานทัวคอนเสิร์ต แน่นเอียดอีกครั้ง
ปี1972 นี้นับเป็นปีทองปีสุดท้ายของBee gees และเป็นปีที่ Bee Gees จะหมดสัญญากับ โปรดิวเซอ โรเบิร์ต สติกวู้ด ที่ร่วมงานกันมากว่า 5ปีอีกด้วย
ทั้งหมดนี้คือปฐมบทเริ่มต้น ของวงในตำนานระดับโลกอย่าง Bee gees ที่มียอดขาย กว่า 500 ล้านแผ่นทั่วโลก
นับจากปี1973-1974 จะเป็นช่วงขาลงของ Bee Gees ก่อนจะกลับมา ผงาด ขึ้นใหม่ ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ซึ่งผมได้เคยเขียนบทความไปแล้ว “ปีที่ยากลำบากของ Bee gees”
ครั้งหน้า จะเป็นบทสรุป ของBee Gees แล้วนะครับ ช่วงยุคทองที่สุดกับเพลงแนวดิสโก้ จนถึงการปิดฉากวงในตำนาน Bee Gees ที่จะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมได้อีก (เป็นตอนที่ทั้งสนุกและเศร้าพอสมควร) แล้วพบกันครับ
#เรื่องเล่าเพลงดังในอดีต
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
