เอชวนดูหนัง: "FYRE Party Festival ความจริงที่ไม่มีอยู่จริง"
เตือนก่อนอ่าน: มี spoil หนังเล็กน้อยถึงปานกลาง อยากสนุกข้ามไปดูก่อนเลย
ผมเป็นคนชอบดูหนังใน Netflix ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะ Netflix Original หรือพูดกันง่ายๆว่า Netflix ออกทุนให้เพื่อฉายใน platform ของเค้าเองนั่นหละ.... หลายๆเรื่องไม่ว่าจะเป็นหนัง หรือแนว documentary ล้วนแต่มีความสนุก และข้อคิดหลายอย่างในตัว นอกเหนือจากหนัง Hollywood จากอเมริกาที่เราคุ้นเคย
ที่นี้ไอ้ FYRE นี่มันโผล่มาใน list ผมเมื่อไม่กี่วันนี้ ด้วยความสงสัยว่าสะกดแบบนี้มันอ่านว่าอะไร คำตอบที่ได้คือการเล่นคำพ้อเสียงจาก "FIRE = FYRE" นั่นเอง
แล้วไอ้ FYRE นี่มันเป็นหนังแนวไหน? บอกเลยว่าไม่ใช่หนัง แต่เป็น documentary ที่เกี่ยวกับ นาย "Billy McFarland" นักต้มตุ๋นตัวพ่อ ปัจจุบันอายุ 29ปี ใช้ชีวิตอยู่ในคุกที่ Ohio เรื่องราวอะไรที่นำเขามาใช้ชีวิตในซังเตในอายุเพียงแค่นี้ผมจะมาสรุปย่อๆให้อ่านกันในมุมมองของผม
Billy เป็นวัยรุ่นที่มี idea ในการทำธุรกิจแปลกๆ แต่คนหมู่มากรวมถึงนักลงทุน ต่างๆเชื่อถือ เค้าเริ่มด้วยการเอาบัตรพลาสติคใบนึงมาทำเป็น membership card ที่อ้างว่ามีสิทธิพิเศษต่างๆ เช่นจองบัตร VIP งาน event ดังๆ สามารถเอาเครติดในบัตรไปใช้ และอื่นๆอีกมากมาย โดยผู้สมัครต้องจ่ายค่าสมาชิกด้วยราคาที่สูงมาก แต่ไม่พอแค่นั้น การตลาดของ Billy เทพไปกว่าโดยการเปลี่ยนวัสดุของบัตรให้เป็นโลหะ คล้ายๆกับ Apple Credit Card ที่ใช้วัสดุ Titanium
แน่นอนบัตรโลหะแบบนี้ใครเห็นก็ต้องถามว่าบัตรอะไร? แต่สุดท้ายเรื่องนี้จบด้วยการต้มตุ๋น เพราะสิทธิพิเศษต่างๆมันไม่มีอยู่จริง และการเติมเงินมันก็ใช้ไม่ได้จริง
หมดจากเรื่องบัตร Billy ก็มาจับมือกับ Ja Rule ศิลปิน Hip hop จาก East coast ใน New York แล้วเกิดไอเดียจัดงาน music festival บนเกาะ Bahamas โดยนั่งเครื่องบินไปดูสถานที่จนได้เกาะๆนึงมี runway เครื่องบิน สอบถามเบื้องต้นก็ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของแต่รู้มาว่าเป็นเกาะส่วนตัวของเจ้าพ่อยาเสพติด Pablo Escoba เลยอุปโลกว่าเกาะนี้ใช้จัดงานได้
หลังจากกลับมาก็ไประดมทุน และจ้างทีมงาน production รวมถึงดารา นักร้อง และนางแบบตัวท็อปมาถ่ายทำ ads กันที่บนเกาะ
ใครเป็นสายปาร์ตี้เห็นโฆษณานี้แล้วคงอดใจไม่ไหวแน่นอน ทำจนเคลิ้มไปเลยว่าเกาะสวรรค์สำหรับสายนี้แน่นอน แถมดารานางแบบยังติด hashtag กันกระหึ่ม IG ในช่วงนั้นจนเป็น viral วัยรุ่นทั่วอเมริกาแห่กันจ่ายเงินจองบัตรกันจน sold out
ปัญหาคือ festival อันนี้มันไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด สิ่งที่เห็นในสื่อก็เป็นแค่การถ่ายทอดออกมาจากคนกลุ่มเล็กๆที่ถูกจ้าง และหลอกมา รวมถึงทีมงาน agency, production, logistics และแรงงานบนเกาะ
ผมจะไม่ลงรายละเอียดตรงนี้ละกัน ให้ไปตามดูกันเอง แล้วจะพบว่าโลกเสมือนจริงที่เราเห็นในสื่อ social media ต่างๆนั้นก่อนจะเสพมันด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่ ใคร่ครวยและพิจารณาให้ดีก่อนที่จะจ่ายเงินออกไป จำไว้ว่าเงินของเราอยู่ในกระเป๋าเราไม่มีใครเอาไปได้นอกจากโดนกรีดกระเป๋า 5555
ท้ายสุดผมอยากให้เห็นภาพว่าการหลอกลวง (fraud) ไม่ได้มีแค่ email, sms, โทรติดต่อ หรือแม้กระทั่งจดหมายธรรมดาๆ ตั้งสติกันสักนิดแล้วคิดว่าไอ้ที่เห็นๆเนี่ยมันจริง หรือหลอก จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจว่า "รู้งี้ ไม่.....ดีกว่า"
ข้อมูลอ้างอิง
Netflix
Wikipedia
Youtube
Google
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
