27 ม.ค. 2021 เวลา 16:05 • การศึกษา
" ทฤษฏี 70 : 20 : 10 กับการพัฒนาการเรียนรู้ "
โพสนี้ขอออกทรงวิชาการหน่อยนึงนะครับ คิดว่าเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่ใช่แค่นักเรียน แต่รวมไปถึงคนที่อยากพัฒนาตัวเองในด้านการเรียนรู้ด้วยเช่นกัน
ก่อนอื่นขอพูดถึงทฤษฎีนี้หน่อย ทฤษฎี 70 : 20 : 10 คือหลักการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นโดย Morgan McCall, Michael Lombardo และ Robert Eichinger ร่วมกับ Centre for Creative Leadership หลังจากพัฒนาแล้วได้ถูกใช้แพร่หลายมากเลย ยกตัวอย่างบริษัทที่ใช้แนวทางปฏิบัตินี้ เช่น Google, Standard Chartered, Nike, American Express, Coca-Cola, Microsoft, Bank of America, Home Depot, Dell, Oracle, และอีกมากมาย
The 70 : 20 : 10 Model In Learning And Development
ง่ายๆเลยก็คือแบ่งการเรียนรู้และพัฒนาออกเป็นสามส่วนหลักๆ
1. Experimental Learning / On the Job Experience หรือก็คือการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำนั่นเอง ส่วนนี้ให้นำหนักถึง 70% จากการเรียนรู้และพัฒนา 100%
ในมุมมองของการศึกษาว่ากันว่าหากนักเรียนได้เรียนรู้และฝึกฝนทักษะผ่านการลงมือทำด้วยตัวเองนั้น การเรียนรู้จะเกิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง และความรู้ที่ได้นั้นสังเคราะห์ออกมาจากตัวของเค้าเอง ไม่ได้เกิดจากการที่ครูสอนสั่งหรือให้ท่องจำแต่อย่างใด
2. Mentoring and Coaching หรือก็คือการให้คำปรึกษา และในยุคสมัยนี้ก็คือต้องมีโค้ชหรือเมนเทอร์นั่นเอง ไม่น่าเชื่อว่าศัพท์พวกนี้มีมาตั้งแต่ยุค 80 แล้วนะเออ ส่วนนี้ก็สำคัญไม่แพ้กันสัดส่วนอยู่ที่ 20%
นักเรียนจะพัฒนาการเรียนรู้ได้ดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับการชี้แนะของครูหรือโค้ชนั่นเอง หน้าที่ของครูอย่างเราๆไม่ใช่สักแต่ว่าเอาเนื้อหาไปพูดให้นักเรียนจำนะครับ หน้าที่ของเราเหมือนเข็มทิศเท่านั้น คอยแนะคอยเตือนให้เค้าดำเนิน 70% แรกไปในทิศทางที่ถูกต้อง
3. Formal Training, Classroom and Reading สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดคือการเรียนรู้ในห้องเรียน ไม่น่าเชื่อล่ะสิ ส่วนนี้เป็นเพียงแค่ 10% เท่านั้นนะเนี่ย แต่ก็ขาดไม่ได้เลยเชียว
ส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้จิ๊กซอของการเรียนรู้สมบูรณ์ก็คือ จัดการเรียนรู้ผ่านห้องเรียนหรือเลคเชอร์ที่เราๆคุ้นเคยนั่นแหละ เนื้อหาอะไรที่สำคัญๆจะได้มาจากส่วนนี้
อ้างอิงจากทฤษฎีนี้ หากเราอยากพัฒนาตัวเองให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดเราจงมุ่งเน้นไปเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง ผ่านการลงมือทำด้วยตัวเอง ล้มลุกคลุกคลานให้เต็มที่ ฝังใจแน่นอนครับผม
สำหรับครูอาจารย์หากจะจัดการเรียนรู้ให้นักเรียนที่น่ารักของเรา กระผมขอแนะนำให้เราเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ของนักเรียนก็พอแล้วครับ หากอยากให้นักเรียนคนเก่งของเราพัฒนาและเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ จงไปจัดชุดประสบการณ์มันส์ๆให้นักเรียนทั้งหลายจงบันเทิงและเรียนรู้อย่างเต็มที่เถิดหนา
หากเค้ามีข้อสงสัยเราก็จัดการชี้แนะ เน้นไปที่การแนะแนวทางให้เค้าแบบโค้ชนั่นแหละ อย่าไปกดดันหรือกีดกันเค้ามาก ยิ่งตีกรอบมาก กรอบเราเองนั่นแหละที่จะไปบัง 70% ของเค้านะนั่น
ส่วนท้ายอะไรที่ยังขาดก็ค่อยเติมในการเรียนในห้องเรียนให้หนำใจ เชื่อผมสิหากเค้าได้ไปลองผิดลองถูก เจ็บจากความไม่รู้มาเยอะๆ เค้าจะอยากรู้เองแหละว่าแบบไหนที่ถูกต้อง ในห้องเรียนจะได้นักเรียนตาใสๆสนใจการเรียนอีกเพียบครับผม
ท้ายที่สุดนี้ก็ขอให้เอาไปใช้กับชีวิตของทุกท่านนะครับ
อ่านอย่างเดียวไม่เฟี๊ยวเท่าลองเอาไปประยุกต์ใช้หรอกครับ ^^
1
โฆษณา