28 ม.ค. 2021 เวลา 03:02 • การเกษตร
การปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ กับการปลูกผักออแกนิก (การปลูกผักแบบธรรมชาติ ใช้ปุ๋ยจากธรรมชาติเป็นหลัก)
ถ้ามองผิวเผินแล้วจะคิดว่าการปลูกพืชทั้งสองวิธีนี้มีความแตกต่างกันมาก และอาจมองว่าการปลูกผักแบบไร้ไม่เป็นการปลูกผักแบบธรรมชาติ แต่ถ้ามองให้ลึกซึ้งแล้วเราก็จะทราบว่าการปลูกผักทั้งสองวิธีนี้คือการปลูกแบบธรรมชาติเหมือนกัน เนื่องจากปุ๋ยธรรมชาติหรือปุ๋ยอินทรีย์ทั้งหลายเริ่มแรกพืชจะยังนำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ เพราะจะต้องถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ในดินจนกลายเป็นสารอนินทรีย์ก่อนพืชถึงจะนำไปใช้ประโยชน์ได้ แต่ในระบบไฮโดรโปนิกส์เราจะให้สารละลายธาตุอาหารที่เตรียมขึ้นจากปุ๋ยอนินทรีย์บริสุทธิ์แทน รากและขนอ่อนก็จะดูดธาตุอาหารและน้ำได้ไม่ว่าจะจากดินหรือจากระบบไฮโดรโปนิกส์ในลักษณะที่เหมือนกัน สรุปก็คือ การปลูกพืชไร้ดินเป็นการปลูกแบบเป็นธรรมชาติเหมือนกับการปลูกบนดิน เพียงแต่เป็นการปลูกพืชที่ใช้เทคโนโลยีที่มีการจัดการที่ดีกว่า
ประโยชน์ของการปลูกพืชไร้ดิน
1.ช่วยป้องกันมลพิษที่จะบังเกิดขึ้นแก่พื้นดินจากสารเคมี
เช่น ปุ๋ยยาป้องกันกำจัดศัตรูพืช และสารปราบวัชพืช
2.ช่วยประหยัดปุ๋ย เพราะการใส่ปุ๋ยลงในดินโดยตรง
ย่อมมีส่วนที่สูญเสียไปกับดินอย่างเปล่าประโยชน์และยังมีผล
ทำให้คุณสมบัติของดินเปลี่ยนแปลงไปจากธรรมชาติอีกด้วย
3.ช่วยประหยัดแรงงานและค่าใช้จ่ายในด้านเครื่องมือกล
4.เป็นระบบที่ประหยัดน้ำในการปลูกพืชน้ำที่เก็บไว้ในภาชนะปลูก
จะถูกใช้ไปในการเจริญเติบโตของพืช อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
มีทางรั่วไหลน้อยที่สุด
5.สามารถควบคุมการเจริญเติบโต การออกดอกออกผลของพืชให้
เป็นไปตามเวลาที่ต้องการได้
6.ใช้พื้นที่ในการเพาะปลูกน้อยแต่ได้ผลผลิตสูง
7.พืชผักที่ปลูกโดยวิธีนี้จะสด สะอาด มีแร่ธาตุสูง และ ไม่มีพิษ
ตกค้างจากสารฆ่าแมลงข้อดีและข้อจำกัดของการปลูกพืชไร้ดิน
ข้อเสียของระบบไฮโดรโปนิกส์
• การปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์จะมีต้นทุนการผลิตเริ่มต้นค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์ในการเพาะปลูกต่าง ๆ มากมายและมีราคาแพง แต่มีศักยภาพในการคืนทุนเร็ว (ในปัจจุบันเราสามารถหาซื้อชุดปลูกผักสำเร็จรูปได้ในแบบราคาย่อมเยา หรือจะศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อทำเองก็ได้)
• ผู้ปลูกต้องมีความชำนาญและมีประสบการณ์มากพอสมควรในการควบคุมดูแล เพราะถ้าไม่มีความรู้หรือไม่มีความสามารถในการจัดการที่ดีพอก็อาจทำให้พืชผักที่ปลูกมีปริมาณธาตุอาหารในพืชสูงได้
• ผู้ปลูกจะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานของสรีรวิทยาของชนิดพืชที่จะปลูก รวมไปถึงพื้นฐานทางเคมีและธาตุอาหารที่พืชต้องการ
• การปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ต้องมีการควบคุมดูแลอย่างสม่ำเสมอ
• วัสดุที่ใช้ในการเพาะปลูกบางอย่างจะเน่าเปื่อยหรือสลายตัวได้ยาก ซึ่งอาจเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมได้ ถ้าหากไม่มีการจัดการที่ดีพอ
• มีข้อจำกัดของชนิดพืชที่ปลูกมีค่อนข้างสูง ทำให้การเลือกพืชที่จะเพาะปลูกในเชิงพาณิชย์จะต้องมีการศึกษาตลาดอย่างถี่ถ้วน และควรเป็นพืชที่แตกต่างจากพืชที่ปลูกกันอยู่ทั่วไปบนดิน
• นอกจากนี้ในบริเวณที่จะติดตั้งระบบไฮโดรโปนิกส์ จะต้องมีระบบไฟฟ้าและระบบน้ำที่พร้อม เนื่องจากเป็นพื้นฐานของการติดตั้งระบบการปลูกด้วยวิธีนี้
โฆษณา