28 ม.ค. 2021 เวลา 04:48 • ข่าว
การผลิตเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียงลำแรกที่เข้าสู่บริการเชิงพาณิชย์ในรอบกว่า 50 ปีกำลังเกิดการแข่งขันอย่างหนักจากหลายบริษัท
AS2
Aerion คือผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐฯซึ่งมีเครื่องบินเจ็ท AS2 ที่จะบินจากนิวยอร์กไปลอนดอนภายได้ใน 4.5 ชั่วโมง โดยได้เริ่มการสร้างสำนักงานใหญ่ระดับโลกแห่งใหม่ในฟลอริดาก่อนที่จะเริ่มการผลิตยานความเร็วเหนือเสียงภายในปี 2566
นับเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับ บริษัท ที่จะใช้เงินจำนวน 300 ล้านดอลลาร์ซึ่งดึงดูดการลงทุนเพื่อพัฒนา Aerian Park ขนาด 110 เอเคอร์ในเมลเบิร์นติดกับสนามบินนานาชาติออร์แลนโดเมลเบิร์นให้เป็นสำนักงานใหญ่แห่งใหม่และวิทยาเขตแบบบูรณาการสำหรับทำการวิจัย
Aerion
เครื่องบินเจ็ทธุรกิจ AS2 จะเป็นเครื่องบินสำหรับผู้โดยสาร 8-12 สามารถเดินทางด้วยความเร็ว 1.4 Mach (มากกว่า 1,000 ไมล์ต่อชั่วโมง)  
ซึ่งหมายความว่าจะสามารถลดเวลาการเดินทางมาตรฐานจากนิวยอร์กไปยังเคปทาวน์ได้สามชั่วโมงครึ่งและมากกว่าสี่ชั่วโมงในการเดินทางระหว่าง JFK  กับสิงคโปร์และ JFK กับซิดนีย์
AS2
Aerion มียอดสั่งซื้อทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันมียอดสั่งซื้อสูงถึง 6.5 พันล้านดอลลาร์และมีแผนจะส่งมอบเครื่องบิน 300 ลำในช่วง 10 ปีของการผลิต  เที่ยวบินแรกของ AS2 มีกำหนดในปี 2567 และ บริษัท ตั้งใจที่จะนำเครื่องบินออกสู่ตลาดในปี 2569
Aerion ได้คิดค้น "การลงจอดไร้เสียงรบกวน" เนื่องจากการบินเหนือเสียงแบบอื่นที่เงียบกว่าเรียกว่า "เสียงต่ำ" ในขณะที่มีเสียงดังน้อยกว่าคองคอร์ด(เครื่องบินเหนือเสียงลำแรก)
Vice กระตือรือร้นที่จะพิสูจน์ว่าเทคโนโลยีใหม่สามารถทำงานได้
เป้าหมายที่ประกาศไว้ของ Aerion คือการสร้างอนาคตที่ผู้คนจะสามารถโดยเครื่องบินเจ็ทระหว่างสองจุดใดก็ได้บนโลกภายในสามชั่วโมง  โดยตั้งใจให้ AS2 เป็นเครื่องแรกในตระกูลเหนือเสียงโดยมีสายการบิน AS3 แผนการในอนาคตสำหรับเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงแบบไฮบริด - ไฟฟ้า
AS2
Aerion มีคู่แข่งหลายรายในสาขาการบินความเร็วเหนือเสียง แต่สิ่งที่สร้างความฮือฮาที่สุดในขณะนี้คือ Boom
ในเดือนตุลาคมปี 2020 การเริ่มต้นใช้งานในเดนเวอร์ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเปิดตัวเครื่องบินสาธิต XB1 ซึ่งเป็นเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงที่พัฒนาขึ้นโดยอิสระลำแรก
โดยมีการขนานนามว่า Baby Boom ลำตัวยาว 71 ฟุตเป็นเครื่องบินต้นแบบขนาด 1: 3 ของเครื่องบินเจ็ทเชิงพาณิชย์ความเร็วเหนือเสียงที่กำลังจะมาถึงของ Boom ซึ่งจะมีความเร็วสูงสุด  2.2 Mach ทำให้สามารถบินไปลอนดอนไปนิวยอร์กได้ในเวลาเพียงสามชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้น
และนี่ก็เป็นข่าวความเคลื่อนไหวของวงการอากาศยานโดยสารในต่างประเทศที่น่าสนใจ
หากถูกใจอย่าลืมกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
โฆษณา