28 ม.ค. 2021 เวลา 08:48 • การเกษตร
เริ่มต้นเกษตรด้วยการปลูกพืชเชิงเดี่ยว
ครอบครัวของผมทำอาชีพเกษตรกร อยู่ในจังหวัดราชบุรี เกิดมาจำความได้ก็เห็นพ่อแม่ทำไร่แล้ว เช้ามาพ่อแม่ก็แต่งตัวด้วยชุดยูนิฟอร์มพร้อมออกงาน (เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ร้องเท้าบูต หมวก ไอโม่ง(พ่อ) ผ้าพันหน้ากันแดด (แม่)) เอาน้ำใส่กระติก พร้อมเข้าไร่ เห็นอยู่แบบนี้ตั้งแต่เด็ก จนโต พืชที่คุ้นเคยมากที่สุดก็คงเป็นสับปะรด
ในการปลูกสับปะรด จะต้องปลูกแค่เพียงสับปะรดอย่างเดียว ไม่มีพืชอย่างอื่นปน เนื่องด้วยสับปะรดเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดมาก เท่าที่สังเกตุหากบริเวณไหนอยู่ใกล้ต้นไม้ใหญ่มีร่มปกคลุม สับปะรดบริเวณนั้นจะให้ผลผลิตได้ไม่เต็มที่ ลำต้นมีลักษณะลีบเล็ก ออกผล(หัว) ออกมาก็จะตาหยี ไม่เต่งตึง มีรสเปรี้ยว ไม่หวานเหมือนต้นเพื่อน ๆ จึงทำให้ไร่สับปะรดส่วนมาก แทบจะทั้งหมด ไม่มีร่มไม้อยู่เลย เวลาทำงานก็ทำกลางแดดจัด (ร้อนมาก)
ในไร่มีแต่สับปะรดและสับปะรด
ปีไหนสับปะรดราคาถูก (สมัยก่อนราคาถูกมาก ราคาต่อกิโลกรัมหน่วยเป็นสตางค์กันเลย ไม่ถึงบาท ) ก็ต้องปล่อยให้เน่าเสียทิ้งอยู่ในไร่ จำหน่ายไม่ได้ ขายไม่ออก บางครั้งได้คิวไปส่งโรงงานสับปะรดก็ต้องไปนอนค้างรอคิวลงสับปะรด กันอยู่หลายคืน เป็นแบบนี้มาตลอดระยะเวลาหลายปี
เล่ามาซะยาวจะให้มองเห็นภาพของพืชที่ต้องปลูกชนิดเดียว ในแปลงเดียว รวมใช่เฉพาะสับปะรด ยังมีอีกหลายอย่าง เช่น อ้อย มันสำปะหลัง ข้าว ที่นิยมปลูกชนิดเดียว ไม่มีพืชอื่นปน โดยการปลูกแบบนี้เรียกว่าการปลูกพืชเชิงเดี่ยว เมื่อมีราคาถูกจึงทำให้เกษตกรมีรายได้น้อย บางรายแทบสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะมีรายได้มาจากพืชชนิดเดียวเท่านั้น
สับปะรดที่ไร่อร่อยมากนะจะบอกให้
แต่ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น(เยอะ) ร่างกายที่อยากจะพัก จึงทำให้พ่อนั้นคิดที่จะปลูกไม้ยืนต้น ที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดทุกปี ไม่จำเป็นต้องปลูกใหม่ทุกปี จึงมองหาพืชชนิดใหม่ ซึ่งก็คือยางพารา แต่ยางพารานั้นใช้เวลานานกว่าจะโตและให้ผลผลิตได้(ประมาณ 7 ปี) จึงทำให้ยังไม่สามารถละทิ้งสับปะรดได้ จึงเป็นที่มาของการปลูกสับปะรดในสวนยางพารา จะให้ถูกน่าจะเรียกว่า ปลูกยางพาราในไร่สับปะรดมากกว่า ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการปลูกพืชเชิงซ้อน ซึ่งจะนำมาเล่าบทความต่อ ๆไป รออ่านกันน่ะครับ
ยางพาราเริ่มมาแล้วนะ รอติดตาม
โฆษณา