28 ม.ค. 2021 เวลา 14:08 • ความงาม
ปัญหาผิวกับหน้ากากอนามัย (ละเอียดหน่อย แต่เป็นประโยชน์จริงๆนะ เข้าใจง่ายมาก!)
ผิวแพ้ เป็นสิว ผดขึ้น ผิวแดง ผิวระคายเคือง เป็นปัญหาผิวที่คนในยุคที่ต้องใส่หน้ากากเพื่อป้องกัน COVID-19 ต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หน้ากากอนามัยไปทำอะไรกับผิวของเราบ้าง เรามาดูกันครับ content นี้ผมเคยลงใน profile ส่วนตัวแล้วแต่ผมได้ทำการปรับปรุงเนื้อหาบางส่วนเพื่อให้มีความชัดเจนและครบถ้วนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นผมสรุปประเด็นสั้นๆมาให้แล้วตามนี้เลยครับ
1. หน้ากากจะปิดคลุมผิวทำให้เกิดความชื้นภายใต้หน้ากากเอื้อต่อสภาวะการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย (C.Acne, ชื่อใหม่ของ P. Acne) ที่ก่อให้เกิดสิวและสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันในรูขุมขน ยิ่งบางคนแต่งหน้า ผิวยิ่งอุดตัน
2. ความชื้นภายใต้หน้ากากจะทำให้ค่า pH บนผิวมีค่าความเป็นด่างมากขึ้นทำให้ความสมดุลของผิวเสีย Skin Barrier อ่อนแอ เกิดความระคายเคืองและอ่อนแอในเวลาต่อมา
3. การเสียดสีของหน้ากากอนามัยกับผิวหน้าทำให้เกิดความเสียหายของ Skin Barrier ทำให้เกิดความอักเสบของผิวหนังและทำให้ผิวไม่สามารถเก็บกักความชุ่มชื้นได้อย่างเป็นปกติ ผิวพัง อ่อนแอ หรือแย่กว่านั้นอาจจะเป็นผื่นแพ้ได้เลย
เราควรจะทำอย่างไรดีล่ะ?
หน้ากากอนามัย
✅เริ่มต้นจากหน้ากากอนามัยที่ใช้ครับ ทดลองสวมหน้ากากอนามัยรูปแบบต่างๆที่เมื่อสวมใส่แล้วรู้สึกไม่อึดอัดจนเกินไป และมีผิวสัมผัสที่ไม่บาดผิวหน้า
✅ความสะอาดของหน้ากากอนามัยก็เป็นสิ่งสำคัญ หากใช้แบบกระดาษหรือแบบใช้แล้วทิ้ง ก็ควรจะใช้ครั้งเดียวแล้วไม่นำกลับมาใช้ครับ หากใช้หน้ากากผ้าควรมีสำรองไว้และใช้แบบวันต่อวันแล้วซัก แต่ว่าถ้าใช้แล้วสิวขึ้นลองไม่ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเวลาซักดูนะครับ เพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มอาจก่อความระคายเคืองต่อผิวหน้าได้ครับ
การแต่งหน้า
✅ถ้าหากเป็นไปได้ลดการลงรองพื้น และย้าย focus ไปที่คิ้วและดวงตา เพื่อให้ผิวได้พัก อาจจะเปลี่ยนเทคนิคจากการทารองพื้นทั้งหน้าเป็นการกลบเฉพาะจุดโดยการใช้ Concealer ก็ได้ครับ
การใช้ผลิตภัณฑ์
🙂การรู้จักสภาพผิวของตัวเองและปัญหาของผิวตัวเองสำคัญที่สุดในการเลือกผลิตภัณฑ์ เมื่อเรารู้ว่าผิวเราเป็นอะไรต้องการแก้ไขอะไร เราจะแก้ไขได้อย่างตรงจุด ไม่เสียเวลา และเงินทองโดยใช่เหตุ
🙂เริ่มจากขั้นตอนการทำความสะอาดผิว ขั้นนี้สำคัญที่สุดเพราะเราต้องล้างเอาสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนผิว ควรทำความสะอาดผิวให้หมดจดในสองขั้นตอนหรือการทำ Double cleansing ด้วย cleansing balm/cleansing liquid/cleansing water ก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการทากันแดดหรือแต่งหน้า (ถ้าแต่งตาก็ใช้ eye makeup remover ให้เรียบร้อยครับ) จากนั้นล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าโดยโฟมทำความสะอาดที่เลือกใช้จุดสำคัญคือควรมีค่า pH ที่ 4.5-5.5 เพื่อคงสภาพความสมดุลของค่า pH บนผิว ใช้สารทำความสะอาดที่อ่อนโยน ล้างแล้วไม่แห้งตึง ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำเช่น Sebamed Liquid Face and Body Wash หรือ Acne Aid (ไม่เป็นสิวก็ใช้ได้นะครับ มันแค่อ่อนโยนต่อคนเป็นสิวเฉยๆครับ) และหากมีสิวร่วมด้วย อาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ AHA หรือ BHA เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน เช่น La Roche-Posay Effaclar Micro-Peeling Purifying Gel เป็นต้น พยายามล้างตามแนวโพรงขน แล้วล้างนานประมาณ 1 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ในตอนเช้าเราอาจล้างด้วยโฟมล้างหน้าอย่างเดียวก็ได้ครับ
1. Bobbi Brown Extra Balm Rinse 2. Origins Modern Friction Cleansing Oil with Radiance-Boosting White and Purple Rice
1. Acne aid 2. Sebamed Liquid Face and Body Wash 3. La Roche-Posay Effaclar Micro-peeling Purifying Gel 4. ทำใช้เองครับ เป็น sulfate free pH 5 ผสม Capryloyl Glycine และ Saccharide Isomerate ครับ
🙂บำรุงผิวตามความปัญหาของผิว และ สภาพของผิว ในเบื้องต้น ลักษณะของเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ต้องเหมาะสมกับสภาพผิว ดังต่อไปนี้
• ผิวมันมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย-ผิวผสมค่อนมัน เหมาะกับ ผลิตภัณฑ์เนื้อน้ำและเจล หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดความมัน
• ผิวธรรมดา เหมาะกับ ผลิตภัณฑ์เนื้อน้ำ เจล และ เจลครีม
• ผิวผสมค่อนแห้ง-ผิวแห้ง เหมาะกับผลิตภัณฑ์เนื้อน้ำ อิมัลชั่น และเนื้อครีม
อย่าลืม! Less is more หรือ น้อยแต่มาก คือ เราไม่จำเป็นต้องโบกครีมลงไปเยอะๆเหมือนกับที่หลายๆคนทำก็ได้ เพราะมันไม่ได้ช่วยอะไรเพราะผิวของเราก็มีขีดจำกัดของการซึมเช่นกัน ดังนั้นทาครีมให้รู้สึกแค่สบายผิวเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
ที่นี้เรามาเจาะประเด็นทีละปัญหากันครับ
🔥ผิวเป็นสิว สิวผด สิวอุดตัน สิวอักเสบ
✅ผิวที่มีปัญหานี้มักจะเกิดขึ้นกับสภาพผิวมันถึงผิวธรรมดา และมักเกิดกับผิวที่แต่งหน้าอีกด้วย อย่างแรกดูก่อนว่าเราล้างหน้าสะอาดรึเปล่าถ้าไม่ให้ย้อนกลับไปอ่านตรงขั้นตอนการล้างหน้า แต่ถ้ายังไม่หาย ตัวช่วยสำคัญคือ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเพื่อลดการอุดตัน ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการสะสมของเชื้อก่อสิว และ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการอักเสบระคายเคือง
✅ขั้นตอนแรกของการบำรุงเราควรจะเตรียมพร้อมผิวด้วยน้ำตบ หรือ essence เนื้อน้ำ ที่ให้ความชุ่มชื้น และถ้าจะดีไปกว่านั้นช่วยปลอบปะโลมผิวได้ด้วยยิ่งดี เพราะผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเรื่องสิวอาจทำให้ผิวแห้งได้ควรเตรียมผิวให้พร้อมก่อน โดยผลิตภัณฑ์ที่แนะนำควรมีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นเช่น Glycerin, Hyaluronic Acid, Betaine หรือ Saccharide Isomerate ฯลฯ และสารปลอบปะโลมผิวเช่น Allantoin, Dipotassium Glycyrrhizate, Licochalcone A ฯลฯ โดยผลิตภัณฑ์ที่แนะนำเช่น Curel Sebum Trouble Care Sebum Care Lotion, IPSA The Time Reset Aqua, IPSA Metabolizer (ให้ไปตรวจสภาพผิวก่อนนะครับ) ฯลฯ
1. IPSA The Time Reset Aqua 2. IPSA ME Metabolizer 3. Curel Trouble Care Sebum Care Lotion 4. ทำใช้เองครับเป็น Capryloyl Glycine+Saccharide Isomerate+Dipotassium glycyrrhizate ครับ (เยินมาก)
✅ขั้นต่อไปเน้นเรื่องการลดการอุดตันของรูขุมขนและการลดการสะสมของเชื้อก่อสิว ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ต้องมีส่วนผสมของสารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเช่น AHA (Glycolic Acid, Lactic Acid หรือ Malic Acid), BHA (Salicylic Acid) หรือ LHA (Capryloyl Salicylic Acid) เช่น Eucerin Pro Acne Solution A.I. Clearing Treatment หรือ La Roche-Posay Effaclar K+ ฯลฯ และผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องของการลดการสะสมของเชื้อก่อสิวก็จะมีพวก decylene glycol, isopropyl methylphenol (o-cymen-5-ol), tea tree oil ฯลฯ เช่น Eucerin Pro Acne Solution Super Serum (เนื้อบางกว่าไม่มัน เหมาะกับผิวมัน) หรือ Eucerin Pro Acne Solution A.I. Matt fluid (เหมาะกับผิวธรรมดาเพราะเนื้อที่หนักกว่าจะให้ความชุ่มชื้นได้ดีกว่า)
1. Eucerin Pro Acne Solution A.I. Clearing Treatment และ La Roche-Posay Effaclar K+ 2. Eucerin Pro Acne Solution Super Serum 3. Eucerin Pro Acne Solution A.I. Matt fluid 4. ภาพที่ยืนยันว่าเคยใช้จริง Eucerin Pro Acne Solution Super Serum 🤣
✅หากเป็นสิวอักเสบให้ใช้แผ่นแปะดูดซับสิวครับช่วยได้ค่อนข้างมาก และยาแต้มสิวต่างๆครับ เช่น Pair Acne Cream, Retin A (ทากลางคืนเท่านั้น) ฯลฯ
เรียงจากซ้าย-ขวา Pair Acne Cream, Retin A 0.05% และ Shiseido Pureness Blemish Targeting Gel
✅ปิดท้ายด้วย กันแดด ควรทากันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้านอย่างน้อย SPF 30 PA+++ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการ burn จากแสงแดด เนื่องจากเรามีการผลัดเซลล์ผิว กันแดดที่อยากแนะนำคือ Nivea Sun Protect&Sensitive Oil Control Serum SPF50+ PA+++
1. Nivea Sun Protect&Sensitive Oil Control Serum SPF50+ PA+++ 2. ทำใช้เองครับ SPF50+ PA++++ (in vivo)
🔥ผิวแดง ผิวอักเสบ ผิวแพ้
✅ขั้นตอนแรกของการบำรุงเราควรจะเตรียมพร้อมผิวด้วยน้ำตบ หรือ essence เนื้อน้ำ ที่ให้ความชุ่มชื้น และถ้าจะดีไปกว่านั้นช่วยปลอบปะโลมผิวได้ด้วยยิ่งดี เช่นเดียวกับผิวเป็นสิวครับ ยังไงลองย้อนกลับไปอ่านในส่วนที่แนะนำของคนเป็นสิวได้ครับ
✅ขั้นตอนต่อมาคือการทาครีมบำรุงเพื่อปลอบปะโลมผิว ให้เน้นส่วนประกอบที่ให้ความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ และป้องกันการระเหยของน้ำในผิว (Trans epidermal water loss) โดยส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ควรเป็นครีมที่มีส่วนของน้ำและน้ำมัน เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นและเสริมความแข็งแรงของผิวได้อย่างเต็มรูปแบบ เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์และปริมาณก็เลือกจากสภาพผิว หากผิวไม่แห้งมากก็เลือกใช้เนื้อที่บางเบาลงหน่อยเช่น La Roche-Posay Toleriane Utra Light Fluid, IPSA ME Metabolizer หรือ Hada Labo Perfect Gel (กระปุกทอง) แต่หากมีผิวที่แห้งมากขึ้นก็ให้ใช้ Physiogel AI cream หรือ Ezerra cream ครับ
1. La Roche-Posay Toleriane Utra Light Fluid 2. Hada Labo Perfect Gel 3. Physiogel AI cream 4. Ezerra cream 5. IPSA ME Metabolizer
✅ปิดท้ายด้วย กันแดด ควรทากันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้านอย่างน้อย SPF 30 PA+++ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการ burn จากแสงแดด เนื่องจากเรามีการผลัดเซลล์ผิว กันแดดที่อยากแนะนำคือ Nivea Sun Protect&Sensitive Oil Control Serum SPF50+ PA+++ แต่ถ้าผิวแห้งมากก็ขอแนะนำให้ใช้กันแดดของ La Roche-Posay หรือ Eucerin รุ่นอื่นๆครับ จะกันแดดได้ค่อนข้างดี แต่จะไม่เหมาะกับคนผิวมันเลยครับ
วันนี้ผมขอฝาก content สั้นๆคร่าวๆเพียงแค่นี้ก่อน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะครับ
ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ แล้วถ้าอยากให้รีวิวผลิตภัณฑ์ตัวไหนแบบละเอียดยิบ สามารถคอมเม้นด้านล่างได้ครับ
ปล. ภาพประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผมใช้จริงครับ บางตัวเคยใช้แล้วไม่ได้ถ่ายรูปเก็บเอาไว้จึงต้องใช้รูปจากแหล่งที่มาอื่น แต่บางส่วนผมผสมใช้เองดังนั้นจึงได้แต่แนะนำผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดตามส่วนผสมที่เห็นสมควรกับการใช้งานให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ครับ
โฆษณา