28 ม.ค. 2021 เวลา 14:11 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่อง“คัมภีร์เก้าบุปผา”
ตอนที่ 18
ความเดิมตอนที่แล้ว
3 สำนักกระบี่ได้จัดการชุมนุมเพื่อก่อตั้งสำนัก 3 ขุนเขากระบี่ขึ้น
ซึ่งเป็นการนำเอา 3 สำนักมารวมกันขึ้นเป็นหนึ่งสำนักเดียวเพื่อให้มีความยิ่งใหญ่และทัดเทียมกับเส้าหลินและบู๊ตึ๊ง
ซึ่งในตอนนี้ได้มีการประลองยุทธกันเพื่อคัดเลือกเจ้าสำนักใหญ่โดยการประลองในรอบแรกเจ้าสำนักจางเหลียงได้ท้าให้เจ้า
สำนักกีเฮียวพู้เข้าประลองผลสรุป
เจ้าสำนักจางเหลียงเป็นฝ่ายชนะ
ส่วนการประลองในรอบที่ 2 นั้น
เป็นเจ้าสำนักเอี้ยเทียนที่ท้าประลอง
เจ้าสำนักจางเหลียง
เจ้าสำนักจางเหลียงจึงคิดขึ้นในใจว่าหากเราทำการนี้สำเร็จตำแหน่งเจ้าสำนักใหญ่จะต้องตกเป็นของเราอย่างแน่นอน
ดูจากสถานการณ์ ณ เวลานี้เจ้าสำนัก
เอี้ยเทียนคงมีฝีมือไม่เท่าไหร่นัก
แต่มิคาดเมื่อเจ้าสำนักเอี้ยเทียนลงมือ แม้แต่ เจ้าสำนักจางเหลียงก็แทบตั้งตัวไม่ทัน เจ้าสำนักเอี้ยเทียนชักกระบี่ออกมาแล้วพุ่งจู่โจมด้วยความรวดเร็วคมกระบี่ถูกแขนซ้ายเจ้าสำนักจางเหลียง
2
ได้รับบาดเจ็บ เจ้าสำนักจางเหลียงถึงกับ ใจหายวูบ หวนคิดขึ้นในใจว่าตนฝึกยอดเพลงกระบี่เก้ามังกรมายาจนถึงขั้นแตกฉานแล้วแต่มิคาด เจ้าสำนักเอี้ยเทียนก็ฝึกยอดเพลงกระบี่ปราบพยัคฆ์ถึงขั้นแตกฉานแล้วเช่นกัน
เจ้าสำนักจางเหลียงเมื่อคุมสติกลับมาได้จึงเริ่มชักกระบี่ออกอย่างช้าๆแล้วจู่โจมกลับในทันที ทั้งคู่ต่างฟาดฟันเพลงกระบี่ด้วยความรุนแรงเกิดเสียงดังทั่วบริเวณ
ต่างฝ่ายต่างงัดไม้ตายเด็ดของตนเองออกมาใช้อย่างเต็มที่ ผ่านไปกว่า 300 กระบวนท่าก็ยังไม่รู้ผลเหล่าผู้คนที่ชมดูอยู่รอบข้าง
ได้แต่กลืนน้ำลายแล้วหวนคิดขึ้นในใจว่าการประลองของทั้งคู่นี้น่าชมยิ่งนักเพลงกระบี่ชุดนึงหลากหลายชุดหนึ่งลึกลับยากคาดคิดคำนวณ
ผ่านไปนานถึงครึ่งท่อนวันจนจะพบค่ำ
ทั้งคู่ก็เริ่มที่จะอ่อนแรงลงเจ้าสำนัก
จางเหลียงด้วยความที่ไม่อยากจะเสียหน้าจึงใช้แรงสุดท้ายบวกกับพลังลมปราณที่เหลืออยู่ฟันด้วยความรวดเร็ว
คมกระบี่ถูกเข้าที่ท้องน้อยของเจ้าสำนัก
เอี้ยเทียนด้วยความกระชั้นชิด จึงต้องม้วนตัวหลบแล้วฟาดฝ่ามือโต้กลับไปถูก
เจ้าสำนักจางเหลียงถอยไปหลายก้าว
เซียวอี้และทูตซ้ายขวาเห็นท่าไม่ดีจึงกระโจนออกจากพุ่มไม้เข้ามาขวางกั้นระหว่างกลางของทั้งสองเจ้าสำนัก
เซียวอี้ฟาดฝ่ามือเข้าใส่เจ้าสำนักจาง
เหลียงทำให้ทั้งคู่จึงต้องเข้าต่อสู้กัน
เซียวอี้ใช้ออกด้วยคัมภีร์เก้าบุปผาขั้นที่ 7 ซึ่งเป็นการโคจรพลังของคู่ต่อสู้จากอีกที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
เมื่อเจ้าสำนักจางเหลียงใช้ออกด้วยยอดเพลงกระบี่เมื่อเจอกับท่านี้ของเซียวอี้จึงทำให้พลังโคจรย้อนกลับเข้าหาตนเองผลสุดท้ายจึงทำให้ ได้รับบาดเจ็บ
เจ้าสำนักเอี้ยเทียนเมื่อเห็นดังนั้นจึงรีบพุ่งเข้าไปแล้วใช้กระบี่ตัดคอเจ้าสำนักจาง
เหลียงในทันที เจ้าสำนักจางเหลียง
จึงสิ้นลม ขาดใจตาย ในที่สุด
เซียวอี้เมื่อเห็นดังนั้น ก็ตกใจได้แต่ยืนตะลึงเพียงชั่วพริบตานั้นเจ้าสำนักเอี้ยเทียนก็ฟาดฝ่ามือเข้าใส่กลางหลังของเซียวอี้
ทูตซ้ายทูตขวาที่เห็นดังนั้นจึงรีบเข้ามาช่วยปรากฏว่าก็ถูกฝ่ามือของเจ้าเอี้ยเทียนไปทั้งคู่ทำให้ทั้งสามคนจึงต้องรีบนั่งลงแล้วโคจรพลังต้านพิษเย็น
ที่แท้ 1 ใน 3 เจ้าสำนักที่ขโมย เคล็ดวิชาฝ่ามือเยือกเย็นไปก็คือเจ้าสำนักเอี้ยเทียนนี่เอง...
เจ้าสำนักเอี้ยเทียนจึงหัวเราะขึ้นฮ่าๆๆแล้วพูดว่าข้าวางแผนนี้มาหลายปีแล้วนับตั้งแต่ได้เคล็ดวิชาฝ่ามือเยือกเย็น ข้าเพียรภาวนาฝึกฝ่ามือเยือกเย็นจนประสบผลสำเร็จ
และเริ่มวางแผนลงมือโดยเริ่มจากไปลอบสังหาร 6 ทูตศักดิ์สิทธิ์หลังจากนั้นก็ให้เหล่าลูกศิษย์ปลอมเป็น 6 ทูตศักดิ์สิทธิ์ข้าและลูกศิษย์อีก 6 คนจึงไปลอบโจมตีสำนักคุ้มภัย
แล้วใส่ร้ายให้กับพรรคสุริยันจันทรา ต่อด้วยบุกโจมตีสำนักหงส์อัคคีจัดการคนที่น่าจะเป็นเสี้ยนหนาม
แล้วสุดท้ายก็รอให้เจ้าสำนักจางเหลียงจัดงานชุมนุมนี้ขึ้นมา อาศัยความสามารถของข้าชิงตำแหน่งเจ้าสำนักใหญ่
เมื่อแผนการนี้สำเร็จก้าวต่อไปคือกำจัด
เส้าหลินและบู๊ตึงสุดท้ายก็ปราบพรรคสุริยันจันทราตั้งตัวขึ้นเป็น “เจ้ายุทธภพ”
พวกเจ้าคงจะคาดคิดไม่ถึงล่ะสิว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดจะเป็นข้า
แต่ข้าก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าพวกเจ้า จะมาให้ข้ากำจัดถึงที่นี่ “ตายซะเถอะ”
ว่าแล้วเจ้าสำนักเอี้ยเทียนก็ใช้กระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะแทงเซียวอี้แต่ทันใดนั้นเองภรรยาของเจ้าสำนักเอี้ยเทียน
ซึ่งเป็นอดีตอาจารย์หญิงของเซียวอี้ก็รีบพุ่งเข้ามาแล้วใช้ตัว บังเซียวอี้ไว้ทำให้ถูกคมกระบี่แทงทะลุหน้าอก
ก่อนตายนางจึงพูดว่าท่านพี่กลับตัวกลับใจซะเถอะ หลังจากนั้นนางจึงสิ้นลมหายใจ
1
เจ้าสำนักเอี้ยเทียนก็ยังคงไม่หยุดจึงชักกระบี่ออกจากร่างนางแล้วจะแทงต่อให้ได้
ทันใดนั้นเองก็มีชายผู้หนึ่งสวมชุดคลุมสีดำปกปิดใบหน้า
ลอยลงมาจากท้องฟ้า แล้วใช้นิ้วจี้ไปที่กลางหลังของเจ้าสำนักเอี้ยเทียนเมื่อนิ้วกระทบถูกกลางหลังความร้อนอันมหาศาลก็แผดพุ่งเข้าร่างเจ้าสำนักเอี้ยเทียน ส่งผลให้เจ้าสำนักเอี้ยเทียน กระอักเลือดและสิ้นลมขาดใจตายในที่สุด
ทั้งเซียวอี้และผู้คนที่อยู่บริเวณโดยรอบ ต่างตกตะลึง ได้แต่ยืน ดู อย่างนิ่งเฉย
เซียวอี้ หวนคิดขึ้นในใจว่า เขาผ่านพบเจอเหล่ายอดฝีมือแห่งยุคมามากยิ่งนัก แต่ก็ไม่มีใครที่ดูน่าเกรงขามและมีพลังภายใน เท่าคนผู้นี้เลย
เซียวอี้สัมผัสได้ถึงพลังภายในที่ลึกล้ำและพิสดาร เซียวอี้ สำนึกตนว่ากำลังภายในของตนเป็นรองชายผู้นี้อยู่ถึง 30 ส่วน
หลังจากนั้น ชายผู้นี้จึงได้ใช้นิ้วจี้ไปที่หลังของทั้ง 3 คนนั้นแล้วถ่ายทอดพลังความร้อนสูง เข้าสู่ร่างกายสลายพิษไอเย็นทั้งหมด
เซียวอี้และทูตซ้ายขวาจึงได้กล่าวขอบคุณชายผู้นั้น แล้วพูดขึ้นว่าเรียนถามนามอันสูงส่งของท่านมิทราบว่าท่านเป็นผู้ใด
ว่าแล้วชายผู้นี้จึงค่อยๆถอดผ้าคลุมออกแล้วพูดขึ้นว่าข้ามีนามว่า “ฟงหยวน”
ที่แท้ชายผู้นี้คือ ปรมาจารย์ฟงหยวนเป็นหนึ่งในห้ายอดจอมยุทธแห่งยุค และเป็นยอดฝีมืออันดับ 1 ของแผ่นดิน ถูกขนานนามว่า “เจ้ายุทธภพ”
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ในตอนนั้น คัมภีร์เก้าบุปผาปรากฏขึ้นในยุทธภพเหล่าจอมยุทธต่างพากันแย่งชิงเพื่อหวังที่จะได้ครอบครอง
จนในที่สุดมีคนผู้หนึ่งได้นำคัมภีร์เก้าบุปผา ไปยังเขาหัวซานและจัดงานชุมนุมประลองยุทธขึ้นเพื่อชิงคัมภีร์เก้าบุปผา
ใครที่ชนะก็จะได้ครอบครอง คัมภีร์เก้าบุปผา ในตอนนั้นเองมี 5 ยอดฝีมือแห่งยุคเป็น 5 จอมยุทธ ที่มีพลังฝีมือทัดเทียมกัน
ทั้ง 5 คนต่างต้องการที่จะครอบครองคัมภีร์เก้าบุปผา จึงได้เดินทางไปยังเขาหัวซาน
โดย 5 จอมยุทธนี้
คนที่ 1 คือ ฟงหยวน
คนที่ 2 คือ จอมพนัน กงซุน
คนที่ 3 คือ ประมุขพรรคมาร อึ้งเจียซุน
คนที่ 4 คือ เจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน
คงเกี่ยง ไต้ซือ
คนที่ 5 คือ เจ้าสำนักบู๊ตึ๊ง นักพรตชงซี
ทั้ง 5 คนได้เข้าต่อสู้กันเพื่อชิงคัมภีร์ต่างฝ่ายก็ต่างใช้สุดยอดวรยุทธของตนเองทั้ง 5 คนต่อสู้กันยาวนานกินเวลาถึง 7 วัน 7 คืนจนในที่สุดผู้ที่ชนะก็คือ ฟงหยวน
แต่ปรากฏว่าคำภีร์เก้าบุปผาเล่มนั้นเป็นของปลอมแต่ฟงหยวนก็ไม่ได้สนใจอะไร
หลังจากนั้นให้หลัง ฟงหยวนก็ถูกขนานนามว่า ปรมาจารย์ฟงหยวน ยอดฝีมืออันดับ 1
เจ้ายุทธภพ
ถัดจากนั้นไม่กี่ปี ปรมาจารย์ฟงหยวน
ก็หายตัวไปจากยุทธภพตลอดกาล
หลังจากที่ ปรมาจารย์ฟงหยวน เล่าเรื่อง
ที่ไปที่มาและแนะนำตัวแล้ว ฝ่ายเซียวอี้
ก็แนะนำตัวเช่นกัน
หลังจากนั้นเซียวอี้จึงได้นำร่างของอาจารย์ทั้งสองไปฝัง และทำพิธีให้อย่างเรียบร้อย
ไม่นานนักเส้าหลินและบู๊ตึ๊งก็ได้เดินทางมาถึงยังเขาหัวซาน
เซียวอี้จึงได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ทั้ง
คงเกี่ยงไต้ซือและนักพรตชงซีฟัง
เมื่อต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันแล้วปรมาจารย์
ฟงหยวนจึงเสนอให้พักกันที่นี่และจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง
จบตอนที่ 18
โฆษณา