ชวนไป #ลงเล ให้ #หลงเล ที่ Longlay Beach Life Festival
มีโอกาสไปงานเทศกาลดนตรีของคนรักทะเล กับ Longlay Music Festival ปีล่าสุดที่จัดที่ชะอำค่ะ จริงๆอ่ะงานมันควรจะมีตั้งแต่เดือนเมษายนละ แต่ว่าเนื่องจากพิษโควิดก็เลยทำให้งานนี้ถูกเลื่อนมาจัดเอาเดือนธันวาคม เคยได้ยินว่างานนี้ดีตั้งแต่ปีที่แล้ว ปีนี้ก็เลยเอาซะหน่อย ซื้อบัตรตั้งแต่เริ่มขายแรกๆ ก็ได้ราคาดีหน่อย 500 บาท เข้าได้ 2 วัน คุ้มเวอร์วัง อลังการ แล้วพอไปถึงงานดีมั้ย ..... บอกเลยว่าอากาศเป็นใจ เที่ยวงานดนตรี ริมหาด อากาศเย็นๆ คิดว่าดีป่ะหล่ะะะ
ก่อนถึงจุดถ่ายรูปนี้ต้องบอกก่อนว่านี่เป็นการเที่ยวงานคอนเสิร์ตในช่วงสถานการณ์ไม่ปกติ เพราะฉะนั้น ทุกคนก็จะต้องใส่แมส วัดอุณหภูมิให้ถูกต้องตามกฏ ทุกครั้งที่เข้าออกงาน (ที่บอกแบบนี้เพราะว่า จุดห้องน้ำอยู่นอกงานั่นเอง) ก็จะมีพี่ๆ การ์ดคอย scan ให้เราทำตามกฏทุกครั้ง ไว้ใจได้ วัดไข้ ใส่แมส ฉีดแอลฯ ตรวจสิ่งแปลกปลอมก็เป็นอันเสร็จพิธี เข้างานโลด
ในงานมีของขายมากมายล้านสิ่ง 555 เรียกได้ว่าดักให้เสียเงินกันตั้งแต่ต้นทาง งานนี้เค้าก็จะคัดของเก๋ๆ เรียกได้ว่าถูกใจขา ฮิปปี้ หรือสาย Craft Handmade เค้าหล่ะ ไม่ว่าจะเสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า หรือ พร๊อพ!! สำหรับสายถ่ายรูปริมหาดก็มี เอาซี๊
เทศกาลดนตรี ขาดไม่ได้คือของกิน ซุ้มอาหารคือดีย์!! บอกเลยดีมากก หลากหลาย มีตั้งแต่ยำ อาหารไทย อาหารเทศ (เพราะฝรั่งเยอะ และดี! 555) ราคาก็เรียกได้ว่ากำลังดี 70 บาท ถือว่ารับได้แหละ กับปริมาณที่ได้มา
ของเค้าคัดมา ใครจะไปคิดว่ามางานดนตรีจะมี เชฟจากมาสเตอร์เชฟ น้องพลอย Ploy Natnicha มาทำอาหารให้ทานตรงนี้ แต่บอกเลยว่า หมดตั้งแต่ยังไม่สองทุ่มอ่ะ 555
สถานที่จัดงานค่อนข้างกำลังดีนะ ไม่ใหญ่ไป ไม่เล็กไป แบ่งเป็นปีกซ๊าย ปีกขวา แบ่งกันระหว่างเวทีดนตรีสด ที่มี Music Line Up แน่นเวอร์ หรือจะสาย EDM ตี๊ดๆๆ ก็จะมีเวทีปลาหมึก เปิดแผ่นตื๊ดๆ กันทั้งคืน ส่วนตรงหลางก็จะเป็นร้านอาหาร ลานกิจกรรม และนี่แหละ ที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ
เรียกได้ว่าเป็น activity ที่กำลังฮิตเลยหล่ะ Surf Skate มีให้ลองเล่นกันสนุกสนาน
นี่หล่ะๆๆ Stage ใหญ่ ใครเล่นเวลาไหนบ้างก็มีป้ายบอก
ตอนเราไปถ่ายก็เวลาประมาณ 5 โมงนิดๆ หนุ่มแขนกุดก็คือพี่เป้ อารักษ์ของเรานั่นเองงง ลานนั่งอาจจะโหดไปนิด สอบถามมาก็ได้ความว่าก่อนจัดงานฝนตก ก็จะแฉะนิดนึง แต่เอาน่า มาเล่นเซิฟตัวเปียกขนาดนี้ เลอะโคลนหน่อยไม่เป็นไรร๊อกก
อันเนี่ย บอกตรงๆว่าไม่รู้ว่าพี่แกขาย หรือเตรียมมานนั่งดูคอนเสริต ไม่กล้าถามจริงๆ 555
เดินสำรวจงานมาเรื่อยๆ ด้านหลังเวทีอย่างเก๋! มันคือจุดกางเต้นท์ และแบบ มาทั้งรถบ้านแบบนี้เลยคือดีสุด แล้วเห็นพร๊อพแต่ละเต้นคือ บ้าบออออ พี่ขนพร๊อพมานอนกันกี่วันเนี่ยยยย
ด้านข้างเวทีคือก็ติดหาด นั่งฟังเพลง พังเสียงคลื่น ลมเย็น เอาจริงๆคือเราไปเดินแล้วเรารู้สึกว่า งานนี้มันชิลอะไรขนาดนี้
ฝั่งนี้เค้ามีสอนเล่น Skim Board กัน มันคล้ายๆ เซิฟแหละมั้ง จากที่ดูนะ แต่บอร์ดจะเล็กกว่า สั้นกว่า บางกว่า แล้วก็เล่นผิวน้ำ คือดูสนุกดี
จะบอกว่า เป็นงานดนตรีที่เราเห็น ทาสหมาทาสแมว พาเจ้านายมาเที่ยวเยอะมากก น้องน่ารัก เป็นงานดนตรีที่นอกจากสาวก Surf club หรือสาย Music Fest แล้ว มันเป็น activity ที่พาครอบครัวมาเที่ยว มาพักผ่อนอีกแบบที่ดีทีเดียวนะ แอบเห็นครอบครัวพาน้องๆมาเล่นทราย ส่วนพ่อกับแม่ก็ฟังเพลงไป น่าร๊ากกสุดๆ
บู๊ทนี้คือเซอร์ไพรส์ 5555 บู๊ทมาร์แชล เราก็ว่าเอ้ออ นางคงมาขายเครื่องเสียง แต่อยู่ตรงกลางงานนะ พอตกกลางคืนเท่านั้นหล่ะ เรียกได้ว่าแหล่งรวมพล 555555 คนอย่างแน่น DJ เปิดดีมากกกก ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะว่าเราก็เต้นอยู่
งานคอนเสริตกับเครื่องดื่มเป็นของคู่กัน ก็จะมีให้เลือกหลายแบบ สีเหลือง สีใส หรือจะยี่ห้อที่ชอบบอกให้เดินต่อไปก็มา เรียกได้ว่าครบ! ชอบอะไรก็ไปบู๊ทนั้น ส่วนราคาไม่ได้ Over จากร้านนั่งดื่มทั่วไป ถือว่าผ่าน
อ่ะๆๆ อันนี้เลย สอนเล่นเซิฟกับ Nature Active Camp มาแบบตัวต่อตัว พร้อมบอร์ดให้เช่า รวมอยู่ที่งานนี้เลย
นั่งสอนกันแบบนี้แหละ มั่นใจได้ว่าเป็นชัวร์ ส่วนใครติดใจก็ตามไปเรียนที่นี่ Laem Yah Rayong Surf Club คุณครูหน้าโหดแต่ใจดีทุกคน 555
ทุกคนไม่ได้สายตาเป็นอะไร หรือเน็ตไม่ได้มีปัญหา ถ่ายโฟกัสไม่เข้าเอง
ขออภัย T^T
นี่แหละบู๊ท มาร์แชลที่ว่า แหล่งรวมพลมั้ยหล่ะะะะ
เก็บตกรูปตอนเช้าของอีกวันซักหน่อย อย่าถามว่าอันนี้คือพร๊อพที่คนจัดงานเค้ามาวาง หรือมาตามธรรมชาติ บอกตรงๆ ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่า มันกลายเป็นจุดที่ใครๆก็ต้องมาถ่ายเฉย
โดยรวมกับงานรอบนี้ สนุกมากกกก ชอบนะ เพลงดี อากาศดี อาหารดี คนดี เรียกได้ว่าติดใจปีหน้ามาอีกแน่นอน แต่ขอดูก่อนว่าเค้าจัดเดือนไหน ส่วนตัวเราชอบเดือนธันวาอ่ะ ไม่รู้ว่าจะกลับไปจัดเมษาอีกรึเปล่า
ที่พัก ครั้งนี้เราเลือกพักจาก Airbnb เพราะว่าเจอที่พักที่นึงซึ่งห่างจากที่จัดงานแค่ 7 นาที ราคาดี สะอาด ห้องพักก็ใหญ่ เป็นคอนโดบอกแค่นี้
ส่่วนกล้องก็เอาลุง Rollei ไปอีกนั่นแหละ แต่รอบนี้มีน้อง Ricoh TF 500D เป็นออโต้ไปด้วยหนึ่งตัวเพราะรู้ว่าต้องมีช้อตกลางคืนแน่ๆ เอาลุง Rollei ไปถ่ายน่าจะไม่รอด แต่สุดท้ายที่ไม่รอดอ่ะคนถ่าย ไม่มีสติ 5555
ฟิล์มที่ใช้ก็หลักๆ Kodak Pro Image 100 , Kodak Ultramax 400
ส่วนร้านล้างและ Dev ก็เจ้าเดิม ล้างดี ล้างไว Bangkok Film Lab 135 by Film Crew
เจอกันงานหน้าจ๊ะ
#SorryImHappy
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
