3 ก.พ. 2021 เวลา 06:14 • อาหาร
ครัวซองต์ฟีเวอร์
ฮิตกันทั่วทุกหัวระแหงจริงๆ สำหรับขนมอบจากซีกโลกตะวันตกชนิดนี้
เชิญชวนท่านมาสำรวจครัวซองต์ที่แสนหอมหวล ยั่วทั้งจมูกและใจจนเกินต้านทาน
เชื่อแน่ว่าผู้คนส่วนใหญ่คิดว่าขนมชนิดนี้ต้องเป็นขนมสัญชาติฝรั่งเศสเป็นแน่แท้ แต่แท้ที่จริงแล้วครัวซองต์นั้นถือกำเนิดขึ้นในประเทศออสเตรียมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 13
Kipferl เป็นขนมที่ถือได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของ Croissant โดยแท้จริง ขนมชนิดนี้มี
รูปร่างคล้ายพระจันทร์เสี้ยว มีเนื้อแน่นกว่าขนมปังและทำจากแป้งโดว์ (dough)ที่
อ่อนนุ่มกว่าขนมปัง
Cr:Roberto ferzo
มีตำนานเล่าถึงที่มาของขนมชนิดนี้เอาไว้อยู่หลายเรื่อง เช่น ในช่วงที่จักรวรรดิออต-โตมันกรีธาทัพเข้าสู่กรุงเวียนนา (เมืองหลวงของออสเตรีย)(ประมาณปี ค.ศ. 1683) มีช่างทำขนมคนหนึ่งตื่นขึ้นมาทำขนมกลางดึกทำให้เขาได้รู้ว่าทหารของกองทัพ
ออตโตมันกำลังขุดอุโมงค์เพื่อลักลอบเข้าตีเวียนนา ดังนั้นเขาจึงรีบส่งสัญญาณให้คนภายนอกได้ทราบ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กรุงเวียนนารอดพ้นจากเงื้อมมือของจักร-วรรดิออตโมมันมาได้ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะจึงได้มีการทำขนมเป็น
รูปพระจันทร์เสี้ยวอันเป็นสัญลักษณ์ของจักรววรดิ์ออตโตมัน แล้วกินมันด้วยความ
สะใจนัยว่าประหนึ่งได้กลืนกินศัตรูลงไปนั่นเอง และเรียกขนมชนิดนี้ว่า Kipferl ซึ่ง
เป็นภาษาเยอรมันซึ่งหมายถึงพระจันทร์เสี้ยวนั่นเอง
Cr:Wikipedia/Tyssil
จวบจนปัจจุบัน Kipferl ก็ยังได้รับความนิยมและรับประทานกันทั่วไปในเวียนนาและยุโรปตะวันออก
นอกจากตำนานข้างต้นแล้วยังมีอีกเรื่องที่โรแมนติกกว่า นั่นคือในสมัยของพระนาง-มารี อังตัวเน็ตต์ (Marie Antoinette)สมเด็จพระราชนิของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่ง
ฝรั่งเศส เจ้าของวลีเด็ด "Let them eat cake) นั่นเอง
ด้วยความที่พระนางถือกำเนิดขึ้นในราชวงศ์ฮับบูร์กของจักรวรรด์โรมันแห่งออสเตรีย
และได้มาเสกสมรสกับมกุฎราชกุมารแห่งฝรั่งเศส ฉะนั้นพระนางจึงเป็นคนออส-
เตรียที่มีความถวิลหาอาหารและขนมแบบชาวออสเตรียอยู่เนืองๆ หนึ่งในขนมที่พระนางอยากจะเสวยก็คือ Kipferl นั่นเองจึงมีคำสั่งให้พ่อครัวทำขึ้นถวาย ช่วยจุดกระแสความนิยมในขนมชนิดนี้แก่ชนชั้นสูงของปารีสขึ้นมา และนั่นคือที่มาของคำ ว่า Croissant เพราะในภาษาฝรั่งเศสคำนี้หมายถึงพระจันทร์เสี้ยวนั่นเอง
2
Cr:uchicagopalate.wordpress.
แต่ทั้งหลายทั้งปวงนั้นเป็นเรื่องเล่าของบรรพบุรุษของครัวซองต์เท่านั้น ครัวซองต์ที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้ มีบันทึกเอาไว้ว่าเมื่อช่วงต้นของศตวรรษที่ 19 ช่างทำขนมนามว่า August Zang เจ้าของร้านขนม Boulangerie Viennoise ในกรุงเวียนนา
ร้านของเขามี Kipferl ที่มีชื่อเสียง เพราะทำจากแป้งโดว์ที่เมื่ออบแล้วให้ผิวขนม
หลุดลอกออกมาได้เป็นชั้นๆ
Cr:whatthefrancais.wordpress
ต่อมาช่างทำขนมชาวฝรั่งเศสนามว่า Sylvian Claudius Goy ได้บันทึกสูตรการทำ
ครัวซองต์ ไว้ ณ ปี ค.ศ. 1915 โดยมีหัวใจสำคัญที่เป็นหลักการสำคัญของครัวซองต์สมัยใหม่คือการใช้ยีสต์ที่แตกต่างไปจากยีสต์แบบดั้งเดิม นั่นนำมาสู่การเป็นหมุดหมายที่สำคัญของวงการขนมอบแบบพายชั้น (puff pastry)ขึ้นมาและยังเป็นการให้กำเนิดครัวซองต์ในยุคปัจจุบันขึ้นมาอย่างแท้จริง
Cr:kokblog.johannak.com
และภาพด้านบนคือเทคนิคที่เป็นหัวใจสำคัญของการทำครัวซองต์ในปัจจุบันคือการรีดแป้งที่ห่อเนยเอาไว้ภายใน ให้ซ้อนไปมาเป็นชั้นๆเมื่ออบแล้วส่วนแป้งที่เป็นชั้นๆ
จะแยกตัวจากกันส่วนเนยก็จะซึมเข้าไปในตัวแป้งก่อเกิดเป็นชั้นแป้งเบาบางแต่ชุ่ม-
ฉ่ำไปด้วยเนยนั่น ว่ากันว่าครัวซองต์เจ้าไหนที่จะกลายเป็นกระแสในหมู่ครัวซองต์
เลิฟเวอร์นั้นต้องวัดกันด้วยโพรงแป้งที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ(Honey comb)นี่เลยทีเดียว
Cr:bakingfanatic.wordpress.com
มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาฝากแฟนๆครัวซองต์ ในบ้านเราจะสังเกตได้ว่าครัวซองต์แต่ละร้านจะมีรูปร่างและขนาดแตกต่างกันออกไปจะถือเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละร้านก็
ว่าได้ แต่ทราบไหมว่าที่ประเทศฝรั่งเศสที่เป็นต้นกำเนิดของครัวซองต์สมัยใหม่นี้
ได้มีข้อกำหนดที่ว่า เฉพาะครัวซองต์ที่ใช้เนยแท้ล้วนเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์มีรูปทรงตรงๆ แต่ถ้าหากว่ามิได้เป็นครัวซองต์ที่ใช้เนยล้วนผลิตแล้วละก็จะต้องใช้รูปร่างแบบครัว-
ซองต์ดั้งเดิมคือเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวที่ด้านปลายจะงองุ้มเข้ามามากพอสมควร
Cr:CuroiusRambler
สรุปการ Evo ร่างของครัวซองต์ที่แสนฮิตกันนี้ จึงมีดังนี้แล
Cr:CurousRambler
ในบ้านเราฮิตแค่ไหนนะหรือ เอาเป็นว่าเจ้าดังๆที่มีส่งทั่วประเทศนั้น ว่ากันว่าต้องสั่งขั้นต่ำ 5xx บาท ไม่รวมค่าส่ง แต่เดี๋ยวก่อนมีเงินใช่ว่าจะได้กินเลย คุณต้องรอวันที่
เข้าเปิดรับพรีออเดอร์ ถึงวันเปิดรับจองก็ต้องเข้าไปแย่งกัน CF พร้อมโอน ว่าจะทัน
ชาวบ้านเขาไหม เพราะแต่ละร้านจะมีจำนวนจำกัดในการจำหน่ายแต่ละรอบ เพราะ
อย่างที่ทราบแม้ส่วนประกอบหลักของครัวซองต์จะมีแค่ แป้ง น้ำตาล นม เนย และ
ยีสต์ เท่านั้น ทั้งหมดดูๆแล้วก็ไม่น่าจะเป็นวัตถุดิบที่แพงนักแต่สิ่งที่ทำให้ครัวซองต์มีมูลค่าสูงขึ้นมาก็คือกรรมวิธีการทำที่ทั้งยุ่งยาก ซับซ้อน และกินเวลาชนิดที่เรียกได้
ว่าข้ามวันกันเลยทีเดียว
ครัวซองต์คือผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาช่วยต่อลมหายใจให้กับธุรกิจเบเกอรี่หลายๆแห่ง
จากสถิติระบุว่า
พ.ศ. 2562 ธุรกิจเบเกอรี่มีมูลค่าการตลาดอยู่ที่ 24,000 ล้านบาท แบ่งเป็นขนมปัง
56%,เค้ก 24% และขนมอบประเภทพาย คุกกี้และครัวซองต์ 20%
แต่ในปีที่ผ่านมา พ.ศ. 2563 มูลค่าการตลาดของธุรกิจนี้เพิ่มเป็น 30,000 ล้านบาท แน่นอนส่วนแบ่งตลาดย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเป็น ขนมปังลดลงเหลือ 53%,เค้กก็ลดลง 22% ถูกต้องค่ะ ตลาดของขนมอบ พาย และครัวซองต์เพิ่มขึ้นเป็น 25%
Cr:buttermilkpantry.wordpress.com
กล่าวกันว่าครัวซองต์ที่ดีตามแบบฉบับก็คือ
1.ต้องอุดมไปด้วยเนยแน่นอนว่าต้องเป็นเนยฝรั่งเศสนะจ๊ะ
2.เมื่อกัดลงไปจะต้องแยกจากกันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย กินแล้วเสื้อผ้าไม่เลอะเทอะถือว่ายังไม่ดีพอจ๊ะ
3.ผิวด้านนอกกรอบ ด้านในนุ่ม
มีครบสามข้อนี้ ก็สอบผ่านการเป็นครัวซองต์ในอุดมคติ
โฆษณา