31 ม.ค. 2021 เวลา 06:00 • การศึกษา
" Reflection กิจกรรมที่ขาดไม่ได้ "
ดวงตามนุษย์ถูกออกแบบมาให้มองออกไปข้างนอกมากกว่ามองตัวเอง
ทุกสรรพเสียงที่เราสนใจมาจากรอบกายที่เราแวดล้อม
คำกล่าวของเราพูดถึงแต่สิ่งอื่นมากกว่าวิจารณ์เรื่องของตัวเอง
ไม่แปลกหากเราจะไม่ค่อยรู้จักตัวเองสักเท่าไร
กริ๊งงงง ~ เสียงกริ่งดังขึ้นเพื่อบอกเวลา จริงๆแล้วท้องเราส่งเสียงมาก่อนหน้านี้นานแล้ว
" เอาล่ะครับนักเรียน วันนี้พอแค่นี้ ไปพักกลางวันได้ " เรากล่าวจบคาบเรียนในวันนี้
' เห้อ เหนื่อยจัง เนื้อหาวันนี้แน่นสุดๆ แต่ก็ดีละ จะได้จบบทนี้ซักที เดี๋ยวอีกไม่นานก็สอบแล้ว จะได้มีเวลาติวสอบให้เด็กๆซักหน่อย '
เรากำลังจะเดินออกจากห้องเรียน เหลือบไปเห็นรอยแดงบริเวณดวงตาของนักเรียนคนหนึ่ง ทำให้เราชะงักและรีบไปถามไถ่ทันที
" บัวลอย หนูเป็นอะไรรึเปล่า " เราถามนักเรียนทันที
" ครูวว... " เสียงอ่อยๆ ลากยาว แบบทิ้งหางเสียง ทำให้ใจเราโหวงแปลกๆ
" หนูไม่รู้เรื่องเลย ที่ครูสอนเมื่อกี้ " บัวลอยพูดต่อ
" เอ้า ทำไมไม่บอก ครูจะได้สอนย้ำให้ "
" หนูเห็นเพื่อนๆเค้าเข้าใจหมดแล้ว เหลือหนูนั่งโง่อยู่คนเดียว " น้ำเสียงสั้นเครือออกจากปากเล็กๆของบัวลอย
1
" อย่าว่าตัวเองแบบนั้น ไม่มีใครโง่หรอก แค่เรายังไม่รู้เฉยๆ " คำพูดปลอบโยนของเราส่งเสียงออกไป
' ทำไมเราไม่เห็นรู้เรื่องเลย มีเด็กนั่งร้องไห้ในคาบเรียนเรา ร้องจนน้ำตาแห้งไปแล้วเราก็ยังไม่เห็น ' ความรู้สึกไม่ดีก่อตัวขึ้นในใจเรา
" เอาล่ะ ไปพักกินข้าวก่อนไป เดี๋ยวคาบหน้าครูสอนเรื่องเดิมให้ใหม่นะ " เราเบรกจิตใจเค้าเอาไว้ก่อนแล้วกัน
ในคาบเรียนถัดมา ก่อนเริ่มคาบเราตัดสินใจหยุดสอนแล้วนั่งคุยกับเด็กๆ
" ครูมีคำถาม ถามพวกเรา และอยากให้เราบอกจากใจจริงเลยละกันนะ " ประโยคคำถามนี้เรียกความสนใจนักเรียนได้ดีจริงๆ
" นี่ก็จะจบเทอมละ แล้วเนื้อหาที่สอนมา 4 บท พวกเราก็เรียนไปหมดแล้ว
ครูอยากรู้ว่าพวกเราเข้าใจเนื้อหาที่ครูสอนไหม หรือครูสอนเร็วไป ช้าไป ยังไง "
" ไม่รู้เรื่องสักกะนิดเลยครับ " นักเรียนคนหนึ่งพูดแทรกเราทันที
" เหมือนศูนย์เลย เริ่มใหม่เลยครับ ฮ่า ฮ่า " คำพูดติดท้ายประโยคกลั้วเสียงหัวเราะของนักเรียนอีกคนต่อเนื่องเป็นคอมโบ
" เอาดีๆ ครูอยากรู้จริงๆ จะได้สอนใหม่เฉพาะเรื่องที่เราไม่เก็ท
เอางี้ๆ เพื่อไม่ให้เรารู้สึกไม่ดี ครูจะให้พวกเราทุกคนหลับตาลงนะ แล้วครูจะถามทีละเรื่อง ถ้าไม่เข้าใจให้ยกมือ ครูจะนับดูว่ามีกี่คนนะ "
เราอธิบายกติกาให้นักเรียนฟัง
" ยังๆๆๆ ยังไม่เริ่ม ยกทำไม คุณมะขาม เดี๋ยวก่อนๆ" ยังไม่ทันเริ่มก็ยกมือยกไม้กวนใจเราแต่แรกเลย
เมื่อทุกคนหลับตาลง ห้องก็ตกอยู่ในความเงียบสงบ
" บทที่หนึ่ง เรื่องการแก้สมการ.... ใครไม่เข้าใจส่วนนี้ ยกมือขึ้น "
" บทที่สอง...."
เราค่อยๆนับจำนวนมือของนักเรียนที่ไม่เข้าใจในแต่ละบท
' ทำไมเยอะอย่างนี้ แม้กระทั่งเด็กที่เรียนดียังยกมือกันเพียบ '
พอจบการนับเราก็ให้นักเรียนลืมตาขึ้นมา
" นี่ถามจริง พวกคุณแกล้งผมปะเนี่ย ทำไมยกกันเยอะแยะขนาดนี้ "
" ป่าวแกล้งครู ครูสอนเร็วเกิ๊น " เสียงกวนๆเดิมๆแทรกเราอีกแล้ว
" จริงๆค่ะครู อย่างคาบที่แล้วเหมือนกระพริบตาทีนึงครูก็ไปอีกข้อแล้ว "
" เนี่ย ขนาดส้มโอยังไม่ทัน พวกผมจะไปเหลืออะไร " เสียงสนับสนุนมาอย่างรวดเร็ว ทีเรื่องอื่นนะทะเลาะกันตลอด ทีงี้มาประสานกันอย่างดิบดี
" โอเคๆๆ พอก่อน ครูเข้าใจละ " เรารีบหยุดก่อนจะโดนคลื่นเสียงนักเรียนกลบ
" เดี๋ยวครูจะเปิดติวให้ตอนเย็นเพิ่ม ถ้าพวกคุณไม่เข้าใจจริงๆ เดี๋ยวผมสอนให้ใหม่ " หึ จะมากันมั้ยทีนี้ เด็กพวกนี้นี่จริงๆเลยเชียว
และท้ายวันเราก็มาเปิดคาบเพิ่มเติมให้นักเรียนตามสัญญา พอเราเดินเข้าไปในห้องเท่านั้น
" มาสายกว่านักเรียนไม่ดีนะครับ "
" ใช่ๆ ผมมารอตั้งนาน ฮ่า ฮ่า "
" แกเพิ่งเข้ามาเมื่อกี้เองนะยะ มั่วไปเรื่อย "
ภาพที่เห็นคือนักเรียนมาเรียนเพิ่มกันเต็มเลย เราตกใจและก็ทำให้เรามานั่งคิด เราว่าเราสอนดีมากแล้ว และยกตัวอย่างให้นักเรียนตลอด ทำไมเค้าไม่เข้าใจกันเยอะขนาดนี้
กิจกรรม Refection หรือการสะท้อนความคิด จึงเป็นกระบวนการที่ขาดไม่ได้ เพราะว่าในขณะที่เราสอน เราสนใจแต่การสื่อเนื้อหาไปสู่นักเรียนอยู่ฝ่ายเดียว อาจจะมีตอบโต้มาบ้างจากคำถามในชั้นเรียน แต่ไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมด
2
มุมมองนักเรียนจะเห็นอีกอย่างหนึ่งเสมอ เราไม่สามารถคิดไปเองได้ว่าเค้าจะเข้าใจสิ่งที่เราสอน ต่อให้เราเตรียมมาดีขนาดไหนก็ตาม
ถ้าอยากจะเป็นครูที่ดี เราต้องรับฟังนักเรียนเยอะๆ มองสิ่งที่สะท้อนกลับมา และปรับตัวเราใหม่ มันจะไม่ได้ประโยชน์อะไรถ้าเข้าไม่ได้รับสิ่งที่เราสอนไปเลย
1
โฆษณา