ดูบอลเป็นเรื่อง
ครึ่งหลังพรีเมียร์ลีก เชียร์กันยาวๆ
โดย พลวัตร บุญโสธรสถิตย์
บอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษเพิ่งมาถึงครึ่งฤดูกาลซึ่งช้ากว่าที่เคยเป็น ปกติครึ่งฤดูกาลจะจบประมาณช่วงบ็อกซิ่งเดย์ แต่ฤดูกาลนี้ล่วงเลยมาถึงช่วงท้ายเดือนมกราคมแล้ว บางทีมยังแข่งแค่ 17-18 นัด มีนัดตกค้างกันอยู่ ผลการแข่งขันครึ่งบนของตาราง ณ วันที่ 24 มกราคมเป็นดังนี้
1. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แข่ง 19 นัด 40 แต้ม
2. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แข่ง 18 นัด 38 แต้ม
3. เลสเตอร์ ซิตี้ แข่ง 19 นัด 38 แต้ม
4. ลิเวอร์พูล แข่ง 19 นัด 34 แต้ม
5. สเปอร์ส แข่ง 18 นัด 33 แต้ม
6. เอฟเวอร์ตัน แข่ง 17 นัด 32 แต้ม
7. เวสต์แฮม แข่ง 19 นัด 32 แต้ม
8. แอสตัน วิลลา แข่ง 17 นัด 29 แต้ม
9. เชลซี แข่ง 19 นัด 29 แต้ม
10. เซาแธมป์ต้น แข่ง 18 นัด 29 แต้ม
บอลพรีเมียร์ลีกเปลี่ยนมาจากดิวิชัน 1 เมื่อฤดูกาล 1992-1993 จนถึงตอนนี้ก็นับเป็นปีที่ 29 แล้ว มีอยู่ 12 ครั้งที่ทีมนำในช่วงครึ่งฤดูกาลไม่ได้แชมป์
ฤดูกาล 1992-93 ทีมนำครึ่งแรกอย่างนอริชมี 39 แต้มเหนือกว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 3 ที่ทำได้ 33 แต้ม แต่ท้ายสุดเป็นทีมปีศาจแดงที่คว้าแชมป์ไป และทำคะแนนเหนือเจ้านกขมิ้นเหลืองอ่อนไปถึง 12 แต้ม
ฤดูกาล 1995-96 นิวคาสเซิลผงาดขึ้นมานำจ่าฝูงเมื่อเล่นไปได้ 19 นัดมีถึง 45 แต้ม ขณะที่ปีศาจแดงตามอยู่ห่างๆ 10 แต้มที่อันดับ 2 แต่เมื่อจบฤดูกาลกลับเป็นปีศาจแดงที่แซงคว้าแชมป์ไปอีกครั้งด้วยคะแนน 82 แต้ม ส่วนทีมสาลิกาดงตามเข้าป้ายอันดับ 2 ที่ 78 แต้ม พอได้แชมป์ รอย คีน ก็ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “เรารู้ว่านิวคาสเซิลจะพลาด”
มาถึงการแข่งขันในปี 1996-97 ทีมลิเวอร์พูลภายใต้การนำทีมของ รอย อีแวนส์ แข่งไป 20 นัดทำคะแนนนำแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่แข่งไป 19 นัดอยู่ 5 คะแนน แต่เมื่อปิดฤดูกาลกลับเป็นทีมปีศาจแดงที่ครองแชมป์ นำทีมหงส์แดงที่ร่วงลงไปอยู่อันดับที่ 4 ถึง 7 คะแนน
ฤดูกาลต่อมาแชมป์เก่าอย่างแมนฯ ยูไนเต็ดที่แข่ง 19 นัดนำห่างทีมอาร์เซนอลอันดับ 6 ที่แข่ง 18 นัดอยู่ถึง 13 แต้ม โดยเป็นฤดูกาลที่ อาร์แซน เวงเกอร์ คุมอาร์เซนอลเต็มฤดูกาลเป็นปีแรก ทีมปืนใหญ่ไล่กวดแชมป์เก่าแบบสุดมันส์ ในที่สุดก็สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองได้ โดยแชมป์ใหม่เฉือนชนะไปเพียงแต้มเดียว
พอฤดูกาล 1998-99 ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลับมาผงาดครองแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกรอบโดยมีแต้มเหนือที่ 2 อย่างอาร์เซนอล 1 แต้ม และมากกว่าที่ 3 อย่างเชลซีที่เป็นผู้นำครึ่งแรกของฤดูกาลถึง 4 แต้ม
ปี 1999-2000 ทีมปีศาจแดงเถลิงแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกสมัยโดยมีคะแนนนำห่างทีมอาร์เซนอลอันดับ 2 อยู่ 18 แต้ม และนำห่างอันดับ 3 อย่างลีดส์ถึง 22 แต้ม แม้ว่าตอนจบ 19 นัดตอนครึ่งฤดูกาลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะตามลีดส์อยู่ 1 แต้มก็ตาม แต่ช่วงหลังของฤดูกาลทีมปีศาจแดงแพ้ให้นิวคาสเซิลเพียงนัดเดียว และกวาดชัยชนะได้ถึง 15 จาก 19 นัด
นิวคาสเซิลในยุค เควิน คีแกน เป็นผู้จัดการทีมสามารถนำทีมได้รองแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 ปีติดต่อกัน คือในฤดูกาล 1995-96 และ 1996-97 ทีมสาลิกาดงกลับมามีลุ้นในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้งสมัย บ็อบบี ร็อบสัน โดยทีมแม็กพายนำอยู่อันดับหนึ่งเมื่อจบครึ่งฤดูกาล มีคะแนน 39 แต้มเหนือปืนใหญ่และหงส์แดงอยู่ 3 แต้ม แต่หงส์แดงแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด แต่ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังกลายเป็นอาร์เซนอลที่ชนะรวด 13 นัดสุดท้ายคว้าแชมป์ฤดูกาล 2001-02 ไปครอง
ฤดูกาล 2002-03 กับ 2003-04 เป็นการสลับกันของอาร์เซนอลกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยปี 2002-03 อาร์เซนอลเป็นฝ่ายนำก่อนตอนครึ่งฤดูกาลแรก และกลายเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่แซงเข้าวิน พอฤดูกาลต่อมาปีศาจแดงนำก่อนตอนครบ 19 นัด แต่ทีมอาร์เซนอลชุดประวัติศาสตร์ก็ทำสถิติไร้พ่ายตลอดฤดูกาล ทำคะแนนเสมอต้นเสมอปลายได้แชมป์พรีเมียร์ลีกไปในที่สุด โดยนำห่างลำดับ 2 อย่างเชลซี 11 คะแนน และที่ 3 อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไป 15 คะแนน
ในฤดูกาล 2008-09 เป็นการแข่งขันกันระหว่างคู่ปรับเก่าลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ว่าเมื่อหมดฤดูครึ่งแรกหงส์แดงจะนำปีศาจแดงถึง 7 แต้ม แต่ทีมปีศาจแดงมีนัดตกค้างในมืออีกสองนัด ที่สุดท้ายแล้วก็สามารถเก็บชัยชนะได้ทั้งสองนัด เมื่อจบฤดูกาลก็เป็นทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่คว้าถ้วยพรีเมียร์ลีกติดต่อกันเป็นปีที่ 2
เมื่อเข้าสู่ยุคแห่งความสำเร็จของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีอยู่ 2 ฤดูกาลที่ทีมเรือใบสีฟ้ามาไล่จี้ในครึ่งหลังจนคว้าแชมป์ นั่นคือปี 2013-14 ที่ทำคะแนนตามทีมปืนใหญ่อยู่ 1 คะแนนหลังจากจบนัดที่ 19 ส่วนลิเวอร์พูลก็แซงจากอันดับ 5 เมื่อจบครึ่งฤดูกาลจนขึ้นไปนำจ่าฝูงจนเหลืออีก 3 นัด ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ที่ สตีเวน เจอราร์ด ไปลื่นล้มทำให้ เดมบา บา ของเชลซีแย่งบอลไปยิงประตูแรกได้ก่อนหมดครึ่งแรก นัดนี้ลิเวอร์พูลแพ้ให้เชลซี 0:2 ทำให้ตกจากอันดับ 1 และได้แค่รองแชมป์พรีเมียร์ลีกไป พอฤดูกาล 2018-19 เป็นลิเวอร์พูลที่ครองแชมป์ครึ่งฤดูกาล นำที่ 2 อย่างสเปอร์สกับที่ 3 อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้อยู่ 6 และ 7 แต้มตามลำดับ แต่ด้วยความแข็งแกร่งของทีมเรือใบสีฟ้าที่เอาชนะได้ 18 จาก 19 นัดในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง รวมถึงการเอาชนะลิเวอร์พูลด้วย ทำให้ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้เฉือนชนะลิเวอร์พูลไป 1 คะแนนตอนจบฤดูกาล
ด้วยประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่าทีมที่นำอยู่ในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกจะสามารถรักษาฟอร์มการเล่นจนคว้าแชมป์ได้ ในขณะทีมที่ตามมาในอันดับต่ำกว่าก็มีโอกาสเร่งฟอร์มพุ่งถึงแชมป์ได้เช่นกัน ต้องค่อยๆ ดูการพัฒนาของแต่ละทีมว่าจะไปทางไหน จะมีนักเตะใหม่ตัวเก่งมาเสริมช่วงตลาดหน้าหนาวกี่คน หรือนักฟุตบอลดาวรุ่งที่ปั้นไว้อาจจะเข้ามาเสริมได้ดีในช่วงครึ่งหลัง รวมถึงการที่ฟอร์มไม่โดดเด่นช่วงนี้ก็อาจทำให้คิดไอเดียปรับปรุงแผนการเล่นออกได้ เราคงต้องติดตามเชียร์กันอีกยาวๆ ไม่แน่ว่าปีนี้อาจจะต้องตัดสินแชมป์กันในนัดสุดท้ายก็เป็นได้
#พรีเมียร์ลีก #สเปอร์ส #ลิเวอร์พูล #แมนยู #ผลฟุตบอล #ผลบอล #ฟุตบอล #Football #Soccer #PlayNowThailand #KhelNowThailand
อัพเดตข่าวสารกีฬาก่อนใคร
พร้อมมีของรางวัลพิเศษให้ร่วมสนุกกันเป็นประจำ
ร่วมไลค์ ร่วมแชร์ Play Now Thailand
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
