30 ม.ค. 2021 เวลา 09:56 • ครอบครัว & เด็ก
ดนตรีเสริมสร้างพัฒนาการเด็กจริงหรือ?
หากพูดถึงดนตรี มันคือศิลปะแขนงหนึ่ง โดยถูกเรียบเรียงเป็นทำนอง จังหวะ คำร้อง และ อีกมากมาย ผ่านรูปแบบของเสียง ดนตรียังเป็นสิ่งที่มีผลต่อความรู้สึกอารมณ์
ความคิด จินตนาการ และสติปัญญา ทั้งยังช่วยเรื่องของการเสริมสร้างพัฒนาการต่างๆ ในทุกช่วงอายุอีกด้วย แล้วเคยสังสัยกันไหมว่าเด็กทารก จนถึงเด็กโต หากรับฟังเสียงดนตรีจะได้รับประโยชน์ หรือเสริมสร้างพัฒนาการเด็กได้อย่างไร ?
หลายคนเคยคงได้ยินคำบอกเล่า ที่มีการบอกกล่าวกันว่า
“ดนตรีมีผลให้เด็กมีความเฉลี่ยวฉลาด”
กรณีนี้ผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะเกิดได้ในเด็กทุกๆคน
แต่ ดนตรีมีผลต่อเด็กอย่างมากแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ทำให้เด็ก รู้สึกสงบ ร่าเริง หรือ แม้กระทั่ง กล่อมให้นอนหลับ และถ้าขยายเพิ่มเข้าไปถึงเรื่องของการพัฒนาการของเด็ก เด็กทุกคนจะมีการตอบสนองต่อดนตรี โดยจะสังเกตได้จาก
การที่เด็กขยับร่างกายตามจังหวะหรือทำนองของเพลง หรือการ ปรบมือ
การเคาะ และการแสดงความรู้สึกสนุกสนานไปกับจังหวะของดนตรีนั้นๆ ดังนั้นเรื่อง ดนตรีมีผลต่อความเฉลี่ยวฉลาด คงยังตีความหมายไปได้รู้จบ
แต่ที่เราทราบแน่ชัดนั้นคือ ดนตรีสามารถเสริมสร้างพัฒนาการ ของเด็กทั้ง กายภาพ และ สติปัญญา ความจำ รวมทั้งสร้างความสัมพันธ์ของพ่อแม่และ
คนรอบตัวให้แน่นมากขึ้น อย่างแน่นอน
แล้วดนตรีแบบไหนที่เหมาะกับพัฒนาการเด็ก ?
เด็กแรกเกิดจะไม่เข้าใจภาษาของเพลงแต่จะได้ตอบสนองต่อจังหวะ หรือการเคลื่อนไหว และเสียงที่เคยได้ยินตั้งแต่ในครรภ์แม่ โดยช่วง 10-12 เดือน โดยในช่วงนี้เด็กจะมีพัฒนาการเริ่มฟังเพลงตามรสนิมยมของพ่อแม่ โดยสมองจะเริ่มแยกทำนองและเสียง และสร้างความจำให้แข็งแรงขึ้น แต่ทั้งนี้ รสนิยมดนตรีของพ่อแม่ก็ยังไม่ใช่เพลงที่เหมาะกับเด็กอยู่ดี แต่เป็นเพียงหนึ่งในกระบวนการพัฒนาสมอง เท่านั้น การที่จะทราบได้ว่าเพลงไหนเหมาะกับเด็กจริงๆ นั้น ควรเป็นเพลงที่เด็ก สามารถสนุกสนานและยังสอดแทรกเนื้อหาบทเรียนและความคิดสร้างสรรค์ และดึงดูดเด็ก ได้ โดยอาจจะมีการเต้น การร้อง การเคาะของเล่นหรือวัตถุ ร่วมไปด้วยเช่นเพลง Babyshark, Old MacDonald, Wheel on the bus, อื่นๆ เป็นต้น
แล้วการเปิดดนตรีคลาสสิคส่งผลดีต่อเด็กไหม?
มีงานวิจัยหลายชิ้นพูดถึงผลงานของเพลงคลาสสิค ของ Mozart ที่บ่งบอกว่า การรับฟังเพลงคลาสสิค นั้นช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กให้ดีขึ้น แต่กระนั้นก็ยังไม่มีบทข้อพิสูจน์แน่ชัด แต่ผลการวิจัยชี้ไปทางเดียวกันว่า การฟังเพลง Classic จะทำให้วงจรประสาทส่วนที่ใช้คิดคำนวณของสมองแข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ยังพัฒนาหลักการแก้ปัญหา ที่ซับซ้อนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย รวมไปถึงการคิดอย่างมีเหตุผล
สรุปได้ว่า
ดนตรีมีส่วนช่วยให้เกิดการพัฒนา ระบบความคิด สมอง อารมณ์ และร่างกาย ตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนโต โดยการเลือกแนวเพลงดนตรีนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรสังเกต พฤติกรรม ของเด็กว่าว่ามีความสนุกสนานหรือจดจ่อกับเพลงนั้นได้ และดนตรีคลาสสิคก็ถือเป็นตัวเลือกที่นิยมมาอย่างยาวนาน โดยให้เหตุผลว่า เด็กที่ฟังจะมีพัฒนาการทางด้านความคิดอย่างเป็นเหตุและผล มากขึ้น และ การแก้ไขปัญหาอีกด้วย
สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับเด็กเพิ่มได้ที่ ABC THE BABY
โฆษณา