Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ปุถุชน
•
ติดตาม
30 ม.ค. 2021 เวลา 18:32 • สุขภาพ
ผู้เสียภาษีทางตรงกับภาวะวิกฤต และการช่วยเหลือของรัฐ (ยาว)
คนไทยทุกคนเสียภาษี?
คำตอบคือ ใช่ คนไทยที่จับจ่ายใช้สอยผ่านสินค้าและบริการต่างๆ ย่อมเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และเป็นภาษีที่รัฐเก็บได้มากที่สุดในทุกประเภทภาษี ซึ่งคิดเป็นประมาณ 37% ของภาษีที่จัดเก็บได้ทั้งหมด
แต่!
ถ้าเรามาลองมองในมุมว่า ทุกคนล้วนต้องจ่าย VAT (สมมติน้ำหนักเท่ากัน แม้ในความจริงจะมีโอกาสในการเสีย VAT จะแตกต่างกันตามพื้นที่และรูปแบบการใช้ชีวิต)
แล้วรายได้จากภาษีอื่นๆ มาจากไหนอีก 63% คำตอบคือ
1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล ประมาณ 29%
2. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประมาณ 15%
3. ภาษีอื่นๆ (ปิโตรเลียม ธุรกิจเฉพาะ ...) ประมาณ 19%
(ข้อมูลจาก the matter, 2561)
แล้วใครรับผิดชอบภาษีในสัดส่วน 63% ที่เหลือนั้น?
คำตอบคือ
1. นิติบุคคล
2. ผู้มีรายได้ประจำ
3. ธุรกิจต่างๆ เช่น ปิโตรเลียม ไฟฟ้า ยานยนต์ บริการ การท่องเที่ยว เหล้า-เบียร์ ฯลฯ
ซึ่งในทุกๆ กลุ่ม จะมีส่วนร่วมกันคือ “แรงงาน” และจะเสียภาษีก็ต่อเมื่อแรงงานเหล่านั้น “เข้าระบบภาษี”
แล้วแรงงานมีสัดส่วนเท่าไหร่จากประชากรทั้งหมด?
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ เมือเดือนมีนาคม 2562 บอกเราว่าปัจจุบันประเทศไทยมีวัยแรงงานประมาณ 56 เกือบ 57 ล้านคน แต่มีผู้มีงานทำจริงๆ ประมาณ 38 ล้านคน
แต่! ใน 38 ล้านคนนี้ มีเพียง 11 ล้านคนที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และรวมกับนิติบุคคลประมาณ 460,000 ราย (ฐานเศรษฐกิจ, 2562)
นั่นหมายถึง 11 ล้านคนที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องเสีย VAT 1 ต่อแล้ว และต้องเสียภาษีเงินได้อีกต่อ และหากเป็นเจ้าของกิจการ/นิติบุคคล ก็อาจจะต้องเสียภาษีนิติบุคคลเป็นต่อที่ 3
ซึ่งผู้เสียภาษีเหล่านี้ เป็นผู้มีรายได้ประจำถ้าไม่ใช่ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ก็จะต้องเข้ากลุ่มประกันสังคมเป็นส่วนใหญ่
และคนเหล่านี้เองเป็นแรงงานในนิติบุคคลที่ทำให้เกิดการขับเคลื่อนภาษี 29% และต้องเสียภาษี ภงด. 90,91 อีก 15% เพื่อหล่อเลี้ยงคนในประเทศ
แต่ในเวลาวิกฤตอย่างในปัจจุบัน รัฐเลือกช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นอันดับแรก ทั้งค่าน้ำ-ค่าไฟ เราชนะ บวกกับสวัสดิการโดยปกติอย่างบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เงินอุดหนุนต่างๆ บัตรทอง เป็นต้น
ซึ่งในทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นให้เกิดผลมากที่สุด เพราะมีโอกาสใช้จ่ายมากกว่าการเก็บออม
แต่ในขณะที่ผู้ประกันตนตามระบบประกันสังคม ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ในฐานะผู้ขับเคลื่อนนิติบุคคล และผู้เสียภาษีต่อที่ 2 ให้รัฐ ที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐเพียงมาตรการค่าน้ำ-ค่าไฟ และไม่สามารถรับเงินประกันตนที่ส่งเข้ากองทุนประกันสังคมมาใช้ได้ในยามวิกฤต
ถ้ามองแบบมีอคติคงอดคิดไม่ได้ว่า รัฐเองเลือกที่จะไม่สนใจฟันเฟืองที่ทำรายได้ให้รัฐมากที่สุด (คือเสียทั้ง VAT ภงด. 90,91 และเป็นแรงงานให้นิติบุคคล) โดยค่อยๆ ปล่อยให้ตายลงอย่างช้าๆ
แล้วสุดท้ายกลไกของภาษีที่จะเป็นรายได้หลักที่รัฐจะเอามาแก้ปัญหาก็จะลดลง สวนทางกับความต้องการเงินของรัฐที่เพิ่มมากขึ้น ก็จะทำให้ระบบเศรษฐกิจยิ่งซบเซาไปเรื่อยๆ
จนถึงวันนึงที่อาจจะไม่สามารถฟื้นคื้นขึ้นมาได้อีกเลย...
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย