>>ตอนจบ<< The dream don't come truth unless you do.
Ep.5 Lao Pai Loei มนุษย์เงินเดือนผจญภัยในต่างแดน
เรื่องราวของ มนุษย์เงินเดือนผจญภัยในต่างแดน ดำเนินมาถึงตอนสุดท้ายแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านบทความของผมมากๆครับ ผมหวังว่าบทความเหล่านี้จะทำให้ทุกท่านได้สนุกและมีความสุขไปกับตัวหนังสือที่ผมได้บรรยายขึ้นมา
และแล้ววันหยุดสุดสัปดาห์นี้ก็เป็นวันหยุดท้ายที่ผมจะได้ใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น หลังจากนี้ไปก็ต้องกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองที่ไทย คงมีอะไรให้คิดถึงอยู่เยอะเลย
ความสุขจากหลังห้อง
ผมได้วางแผนไปเที่ยวในตัวเมืองนาโกย่า เพื่อเดินถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศไปเรื่อย ย่านที่ผมมาเดินเล่นก็คือ Osu Kannon ย่านการค้า แหล่งช็อปปิ้ง แหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งของนาโกย่าและใกล้ๆก็มี วัดโอสึคันนง ถือเป็นวัดพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองนาโกย่า ภายในวัดมีประติมากรรมองค์เทพเก่าแก่ที่ชาวญี่ปุ่นนับถือหลายองค์ และพื้นที่ด้านหลังยังมีย่านการค้ายอดนิยมที่มีร้านค้าให้ไปเดินช้อปปิ้ง และหาของอร่อยกินกันได้ทั้งวัน ทั้งของกิน ของใช้ หรือสถานบันเทิงคลายเครียดก็เยอะแยะไปหมด
หลังจากที่ผมเข้าไปกราบไหว้พระที่วัดเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เดินไปในย่านการค้าโอสึ คันนงต่อเลย ย่านการค้าโอสึ (Osu Shopping Street) คือย่านช็อปปิ้งขนาดใหญ่ในบรรยากาศแบบญี่ปุ่นที่ให้ความรู้สึกคลาสสิก และในขณะเดียวกันก็มีขายสินค้าไฮเทคทันสมัยอยู่ร่วมในพื้นที่เดียวกันอย่างมาก ย่านการค้าโอสึมีร้านค้ามากมายกว่า 1,000 กว่าร้านค้าเป็นระยะทางยาวเกือบ 2.0 กม. เต็มไปด้วยสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งของกิน ของใช้ สินค้าแฟชั่น แบรนด์เนม ของเก่า ของสะสม สินค้ามือสอง สินค้าอนิเมะ ร้านอาหาร คาเฟ่ ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยใหม่ เรียกว่าถ้าใครชอบช้อปปิ้ง สามารถเดินอยู่ในย่านนี้ได้ตลอดทั้งวันอย่างเพลิดเพลิน อีกทั้งยังมีร้านขายของสไตล์ญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น ร้านขายชุดกิโมโน ร้านชาเขียวแบบดั้งเดิม
ซึ่งระหว่างที่เดินเที่ยวเล่นก็ได้ไปเห็นตุ๊กตาโมเดลน่ารักๆหลากหลายแบบ ทั้งที่เป็นแบบตุ๊กตาโบราณของญี่ปุ่น ตุ๊กตาการ์ตูนชื่อดังของดิสนีย์ มาร์เวล วางขายเป็นคอลเล็คชั่นมอยู่มากมาย เลยได้ซื้อกลับมาเป็นของที่ระลึกนิดหน่อย ร้านข้างๆก็จะเป็นร้านขายเสื้อผ้าแนวสตรีท ลายการ์ตูนสวยงามมากเลยแหละ
ถัดมาทางได้ของกินกันบ้าง ผมไม่รอช้าที่จะเดินไปหาของกิน ใครที่มาท่องเที่ยวในย่านการค้าโอสึ คันนง ก็คงต้องไม่พลาดไก่ทอดคาราเกะเจ้าดังเจ้านี้(จำชื่อร้านไม่ได้) ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดหรือวันธรรมดาคนก็เยอะเหมือนเดิม ซึ่งในวันที่ผมไปนั้นผมก็ได้ยืนรอคิวอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงเลย มาทั้งที่ยังไงก็ต้องรอทานไก่คาราเกะร้านนี้ให้ได้ หลังจากรออยู่สักพักก็ได้ทานสมใจ ต้องบอกเลยว่ารสชาติไก่มีความนุ่มลึกปนกลิ่นของความเผ็ดเล็กน้อย เป็นอะไรที่ลงตัวเป็นอย่างมาก ซึ่งเจ้านี้ก็ได้ตั้งอยู่ข้างกับร้านดังอีกเจ้าหนึ่ง ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผู้คนถึงสนใจร้านนี้เป็นพิเศษ ดูได้จากคนที่ยืนรอหน้าร้านเยอะมาก
หลังจากทานอิ่มแล้วผมก็ได้ชมการแสดงเปิดหมวกของคนญี่ปุ่นเพื่อจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวที่มาเดินโอสึได้ชมกัน สิ่งที่ผมสัมผัสได้คือชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจการแสดงเปิดหมวกเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการแสดงกายกรรมจักรยานหรือการแสดงร่วมกับเหล่าบรรดาสัตว์เลี้ยง เพราะมันทำให้คนที่แสดงนั้นมีกำลังใจอยากทำการแสดงออกมาให้ดีที่สุด
เมื่อเดินเที่ยวในย่านโอสึ คันนงเรียบร้อยแล้ว วันนี้ผมมีอีกกิจกรรมที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษ คือ การชมการแข่งขันฟุตบอลของญี่ปุ่น ผมได้เดินทางไปชมฟุตบอลต่อ ซึ่งคู่ผมได้เดินทางมาชมนี้ เป็นการพบกันของสโมสร นาโกย่า แกมปัส vs โทคุชิม่า วอร์ติส ซึ่งระหว่างนั้นแข่งขันกันในระดับ J.league 2 ซึ่งการชมฟุตบอลที่ญี่ปุ่นครั้งนนี้ของผม ถือเป็นครั้งแรกก็เลยทำให้ผมตื่นเต้นเป็นพิเศษ แค่ถนนเดินทางไปที่สนามโยโต้า สเตเดียม ก็ทำให้ผมรู้สึกอลังการขึ้นมาแล้ว ราวกับผมได้ดูฟุตบอลอยู่ที่ยุโรปเลยก็ว่าได้
เมื่อผมเดินทางมาถึงหน้าสนามก็ได้เดินสำรวจรอบๆสนามเป็นอันดับแรกต่างก็เห็น แฟนบอลของทั้งสองทีมทยอยเดินทางมากัน แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นแฟนบอลของเจ้าบ้าน นาโกย่า แกรมปัส มีหนาตามาเลยทีเดียว บริเวณรอบๆสนามจะมีร้านค้าของฝากที่ระลึก ของกิน รายล้อมอยู่รอบๆ ผมเองก็ได้หาของกินตนท้องไว้และของซื้อของฝากสโมสรไว้เป็นที่ระลึกด้วย
พอเข้ามาในสนาม ต้องตกตะลึงตาค้างไปสักพักเพราะในสนามโตโยต้า สเตเดียมนั้น ใหญ่อลังการมาก มีระบบการจัดการที่เรียบร้อยประตูเข้า-ออก สนามก็ได้มีการชี้บ่งชัดเจน ระหว่างที่ชมการแข่งขันอยู่นั้น บรรดาแฟนบอลของทั้งสองทีมก็ได้ร้องเพลงเชียร์ของทีมตัวเองอยู่เป็นระยะ พบสัมผัสได้ถึงการคลั่งไคล้กีฬาฟุตบอลของคนญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าเป็นกีฬาประจำชาติอีกอย่างเลย
เมืองชมฟุตบอลจบผมก็ได้กลับมาในเมืองเพื่อตามเก็บสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่ยังไม่ได้ไปต่อ และผมก็ได้ไปที่ห้าง Sunshine sakae แลนมาร์คอีกที่ที่มีลักษณะเด่นเป็นเอกลักษณ์ก็คือ ชิงชาสวรรค์ Sky boat ไว้สำหรับมองวิวเมืองนาโกย่านได้ดีเลย อีกทั้งยังได้เดินทางต่อไปยัง โอเอซิส 21 (Oasis 21) ยานอวกาศแห่งน้ำใจกลางเมืองนาโกย่า อีกหนึ่งแลนด์มาร์คและจุดถ่ายรูปยอดนิยมที่อยู่ในย่านซากาเอะเช่นกัน โอเอซิส 21โดดเด่นด้วยหลังคาสูงรูปวงรีที่เรียกว่า Spaceship-Aqua ด้านบนเป็นสระน้ำที่มีทางเดินอยู่รอบ สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองนาโกย่าได้ที่ความสูง 14 เมตร ในตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟไลท์อัพสีสันสวยแปลกตา ใกล้ๆกันนั้นก็จะเป็นที่ตั้งของหอคอย นาโกย่าทีวีทาวเวอร์ (Nagoya TV Tower) ใครที่มาเที่ยวนาโกย่าควรไม่พลาดที่จะมาถ่ายรูปกับแลนมาร์คเหล่านี้เป็นแน่นอน
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านบทความของผมมากครับ ผมก็แค่อยากบอกเล่าเรื่องงราวประสบการณ์ในแบบของผมให้ทุกท่านได้รับชมกัน ขอบคุณการทำงานในต่างแดนที่ทำให้ชีวิตผมมีสีสันมากขึ้น ประสบการณ์ครั้งนี้ได้สอนอะไรๆหลายอย่างกับตัวผมมาก บางวันเราอาจจะได้เจอเรื่องราวที่ดีหรือร้ายปะปนกัน แต่ขอเพียงเราไม่ยอมแพ้ ผมเชื่อตลอดว่าสิ่งนี้แหละจะทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตได้
แล้วเราจะพบกันใหม่ ขอบคุณครับ _/\_
Lao Pai Loei : เล่าไปเลย
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
