ควรจะถึงเวลาที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องควบคุมมลพิษจากการเกษตรอย่างจริงจัง
เราได้ยินมาตลอดว่าเมืองไทยเป็นเมืองเกษตรกรรม เกษตรกรเป็นอาชีพหลักของคนไทย แม้ในความเป็นจริงในปัจจุบันการขับเคลื่อนเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวเป็นหลัก
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเรามักพูดว่าเกษตรกรรม เป็นแหล่งมลพิษแบบ non-point source คือไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้แน่นอนเหมือนอย่างโรงงานอุตสาหกรรม ไม่สามารถระบุขนาดหรือปริมาณของมลพิษได้อย่างแน่นอน และเกษตรกรยังเป็นอาชีพที่รายได้ต่ำ ต้องได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐตลอดเวลา
จุดอ่อนส่วนนี้ทำให้การควบคุมดูแลมลพิษจากภาคการเกษตรย่อหย่อนลงไป ในขนาดที่ภาคอุตสาหกรรมถูกผลักให้ไปอยู่ในขอบเขตของผู้ร้าย ที่นับวันจะมีแต่การควบคุมที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ
จริงอยู่ที่ภาคอุตสาหกรรมดูจะปล่อยมลพิษในน้ำหนักความเป็นอันตรายที่มากกว่า แต่ต้องไม่ลืมว่าภาคการเกษตรแม้จะปล่อยมลพิษที่มีความอันตรายน้อยกว่า แต่ด้วยปริมาณที่มากกว่าก็ย่อมส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน
การตรวจวัดค่าตะกอนผิวดินที่ปากแม่น้ำสำคัญๆ อย่างแม่น้ำเจ้าพระยาหรือบางปะกง นอกจากค่าโลหะหนักบางค่าที่เกินเกณฑ์มาตรฐานแล้ว ก็ยังมีปริมาณไฮโดร-คาร์บอนที่เกินเกณฑ์มาตรฐานอยู่เสมอๆ หรือคุณภาพน้ำในลุ่มน้ำต่างๆ ที่มักเสื่อมโทรมตั้งแต่จังหวัดทางตอนบนที่ใกล้กับต้นน้ำ ซึ่งไม่ใช่เขตอุตสาหกรรมของประเทศ
หรือกระทั่งคุณภาพอากาศในช่วงลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือแผ่ปกคลุมประเทศไทย ที่มีค่า PM 2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐานในหลายจังหวัด แม้จะไม่ใช่จังหวัดที่มีอุตสาหกรรมหรือการจราจรที่หนาแน่น นั่นจึงแสดงให้เห็นว่าการเผาในพื้นที่โล่งในภาคเกษตรกรรมก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศเช่นกัน
นอกจากนี้ เราพูดเรื่องโลกร้อนในภาคอุตสาหกรรมอย่างหนักหน่วง แต่เรากลับพูดอย่างไม่เต็มปากว่าจริงๆ แล้วการปลูกข้าว ข้าวโพด หรือพืชไร่ประเภทอื่นๆ ปลดปล่อยมีเทน ซึ่งสามารถกักเก็บความร้อนได้มากกว่า CO2 หลายเท่า ในปริมาณมาก
ที่พูดมาทั้งหมดไม่ได้มีจุดมุ่งหมายให้เลิกทำเกษตรกรรมหรือโจมตีเกษตรกร แต่ส่วนตัวเห็นว่า
1. ภาครัฐต้องเริ่มเข้มงวดกับมลพิษที่เกิดจากเกษตรกรรมได้แล้ว เพราะทุกวันนี้มลพิษที่เกิดขึ้นกระทบกับประชาชนทุกคน รวมถึงเกษตรกรเอง
2. ภาคเกษตรกรรมควรปรับปรุงกระบวนการผลิต เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิต ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อลดต้นทุนการผลิต และลดการปลดปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ที่สำคัญสารเคมีไม่ใช่ตัวร้ายของภาคเกษตรกรรม แต่ต้องใช้ให้พอดี และใช้อย่างถูกวิธี ซึ่งรัฐเองควรส่งเสริมในส่วนนี้
เพราะอากาศ น้ำ และสิ่งแวดล้อมรอบตัวเป็นทรัพยากรที่ทุกคนต้องใช้ ไม่ใช่แค่เกษตรกรรม หรืออุตสาหกรรม และเราทุกคนก็ต้องรับผลกระทบร่วมกันทั้งหมด
ไม่ว่าใครก็ตาม...
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
