พอขึ้นรถออกเดินทาง เราก็นั่งเจ็บท้องทั้งทางทรมานมาก แล้วเพื่อนก็แวะแมคโดนัลให้ซื้ออะไรกิน ตอนนั้นเราไม่กล้ากินอะไรเพราะเจ็บท้องมากเลยสั่งสลัดมาจะได้เบาท้องหน่อย เรากินไปได้สี่ห้าคำ ถ้านับผักเป็นใบก็คงแค่สามใบได้ เพราะกินไม่ได้เลย
กลืนลงไปก็เจ็บท้องมาก มันก็เลยรู้สึกท้องอืดไปด้วย แต่จะไม่กินเลยก็ไม่ได้เดี๋ยวเจ็บหนัก เราก็อดทนจนเข้าตัวจังหวัดของตำหนัก คือเพื่อนเราขับรถเร็วเพลินๆแล้วรถดีจัดไม่รู้สึกถึงความไว ตี 4 ถึงพิษณุโลกแล้วค่ะ จากกทม. ในขณะที่ขับปกติจะใช้เวลา ประมาน 5 ชั่วโมง ยิ่งใกล้ถึงเรายิ่งเจ็บท้อง พอ 6 โมงเช้าก็ใกล้ถึง อยู่ๆเราก็รู้สึกไม่อยากไปแล้ว
เราก็หันไปบอกพี่ว่า “ทำไมกูรู้สึกไม่อยากไปแล้ววะ อยากกลับบ้าน”
พี่เราก็โวยให้สิคะรออะไร จะถึงอยู่แล้วเนี่ย บ้านงานอยู่ใกล้แค่เอื้อม อีกแค่ครึ่งชั่วโมงเราก็จะถึงแล้ว แต่อยู่ๆก็มีหมอกลงปกคลุมถนน หมอกแบบว่าขาวโพลนมองไม่เห็นแม้กระทั่งเส้นแบ่งเลน รถหลายคันเริ่มชะลอตามเรา พวกเรามองไม่เห็นไฟรถข้างหน้าเลยสักคัน เลยขับกันอย่างระวัง หลังจากขับอย่างชิลมาทั้งคืน
ขับไปสักพัก หมอกไม่มีท่าทีจะบางลง เราเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิป แล้วอัพลงโซเชียลส่วนตัว
ผ่านไปอีกสักพักหมอกก็เริ่มบางลงและหายไป ตัวบ้านงานอยู่ในอำเภอเมืองแต่ต้องขึ้นเขาไปสักหน่อย แล้วเลี้ยวเขาชุมชนอีกที
พอใกล้ถึงเราก็เห็นตุงหลายสีถูกแขนไว้ระดับประมานบ้านสองชั้นอยู่ปากซอย เราก็เลี้ยวเขาซอยนั้น เป็นซอยแคบๆ รถยนต์เข้าได้ทีละคัน เราก็เริ่มเห็นบ้านงานอยู่ท้ายซอย สภาพบ้านไม่ได้น่ากลัวเป็นบ้านปกตินี่แหละค่ะ พอเราถึงบ้านงานก็เห็นคนนั่งทำบายศรีกันประมานสิบกว่าคน
พี่สาวเราก็ทักทายคนนั้นคนนี้แล้วก็บอกเมื่อกี้พวกเราเจอหมอกลง แล้วก็มีเพื่อนพี่เราเพิ่มมาถึงเหมือนกัน เราก็ถามกันว่า เมื่อกี้เจอหมอกมั้ย เขาบอกไม่เจออะไรเลย โล่งสบาย พวกเราก็ได้แต่สงสัยกัน แล้วก็ปล่อยไป ไม่ทันได้ทำความรู้จักใครก็มาช่วยงานก่อน แล้วเราก็ได้เจอป้าสร้อย ผู้หญิงวัยกลางคนที่อยู่ในคลิปกับพี่สาวค่ะ ป้าสร้อยเดินมาทางครัวที่เหล่าป้าๆกำลังทำอาหารกันอยู่ แล้วพี่ผู้ชายคนนึงหันมากระซิบบอกพี่สาวเราว่า “พี่เพชรๆ” (นามสมมุติ) แล้วชี้ไปทางป้าสร้อย พี่สาวก็ตาโตแล้วก็พาเรากับเพื่อนไปไหว้ป้าสร้อย ตอนนั้นเราก็ยังไม่เข้าใจ สรุปป้าชื่ออะไรกันแน่เนี่ย แต่ก็สวัสดียกมือไหว้เฉยๆ แล้วป้าสร้อยก็พูดเสียงเล็กๆว่า “หวัดดีครับๆ มาช่วยกันทำบายศรี จะได้ร่วมกันสร้างบุญให้ตัวเอง” เราก็แยกย้ายกันทำงานต่อ ส่วนเรากับเพื่อนไม่กล้าหยิบจับอะไรกลัวทำของเขาพังค่ะ ทำได้แค่เรียงผลไม้ใส่ถาดแล้วก็คัดดอกไม้เพื่อร้อยพวงมาลัย ในช่วงเวลานั้นเราก็ถามพี่สาวเรื่องชื่อของป้าสร้อย
เรา : สรุปแล้วป้าเขาชื่ออะไร
พี่ : ป้าสร้อยไง
เรา : ก็เมื่อกี้เห็นเรียกพี่เพชร
พี่ : ก็เมื่อกี้เป็นพี่เพชร
เรา : ห๊ะ
พี่ : พี่เพชร เป็นชื่อพระพิฆเนศปางหนึ่ง องค์ประจำป้าสร้อย ท่านจะลงมาจัดงานเองทุกปี