1 ก.พ. 2021 เวลา 23:44 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่อง “คัมภีร์เก้าบุปผา”
ตอนที่ 19
ความเดิมตอนที่แล้ว
ปรมาจารย์ฟงหยวนหนึ่งในห้ายอดฝีมือ
และยอดฝีมืออันดับ 1 ของแผ่นดินฉายา
เจ้ายุทธภพได้เข้าช่วยเหลือเซียวอี้และพรรคพวกคลี่คลายสถานการณ์และเรื่องราวทั้งหมด
ภายหลังทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจึงได้จัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองขึ้น ณ เขาหัวซานโดยมี
3 สำนักกระบี่เส้าหลินบู๊ตึงเซียวอี้และทูตซ้ายขวาพร้อมด้วยปรมาจารย์ฟงหยวน
เพื่อทำให้ยุทธภพกลับเข้าสู่ความสงบ
อีกครั้งภายหลังการตายของ 2 เจ้าสำนักเซียวอี้จึงได้แต่งตั้งให้ศิษย์คนโตของทั้ง 2 สำนักคือ จื่อปิ้งแห่งสำนักพยัคฆ์บิน
และจุนฮงแห่งสำนักมังกรฟ้า
ขึ้นเป็นเจ้าสำนักคนใหม่ทั้งคู่
ตัดภาพไปที่จางต้าและหลินหลิน
ภายหลังจากการ โจมตีพรรคมารจางต้าก็เอาแต่เก็บตัวและดื่มเหล้า ไปวันๆพอเมาแล้วก็อาละวาดทำลายข้าวของจนกระทั่งถึงขั้นที่ เมาไม่ได้สติจางต้า จึงได้ทำการขืนใจ
หลินหลิน
1
หลินหลินที่รับไม่ได้จึงเกิดอาการสติแตกและขาดสติ หยิบมีดสั้น แทงจางต้าจนสิ้นใจตาย หลังจากนั้นด้วยความที่กลัวความผิดจึงได้หนีออกจากสำนักมังกรฟ้า และหายเข้าป่า ไปอย่างไร้ร่องรอย
ตัดภาพกลับไปที่ งานเลี้ยง ชุมนุมที่เขา
หัวซาน เซียวอี้ จึงได้ ถามไปยัง
ปรมาจารย์ฟงหยวนว่า ผู้น้อยอยากทราบว่า วิชาที่ท่านใช้ สลายพิษเย็นในตอนนั้นคือวิชาอะไรกัน
ปรมาจารย์ฟงหยวนจึงตอบว่า นี่เป็น 1 ใน 3 สุดยอดวิชา ของข้า ชื่อของมันคือ
“ดรรชนีเอกสุริยัน”
1
วิชานี้เป็นการแปรสภาพลมปราณภายใน ให้กลายเป็นพลังความร้อนสูงแล้วใช้ออกโดยการถ่ายทอดผ่านนิ้วมือ
นอกจากวิชานี่แล้ว ยังมีอีก 2 วิชาคือ
“เก้ากระบี่เดียวดาย” ซึ่งเป็นเพลงกระบี่สุดยอดอันดับหนึ่งของแผ่นดิน มีรูปแบบ 9 รูปแบบแปรเปลี่ยนไปอีกกว่า 900 กระบวนเพลงสุดคาดคิดคำนวณ และ
“คัมภีร์เก้าอิมจินเอ็ง”
ซึ่งเป็น ยอดวิชาสายเย็น เป็นการแปรสภาพกำลังภายใน ให้กลายเป็นพลังความเย็น เรียกได้ว่าเย็นกว่าฝ่ามือเยือกเย็น ถึง 100 เท่า
ผู้ใดก็ตามที่ได้ร่ำเรียน 1 ใน 3 วิชานี้
ก็จะสามารถขึ้นมา ทัดเทียมเคียงบ่าเคียงไหล่กับเหล่ายอดฝีมืออันดับต้นๆของ
ยุทธภพได้
เซียวอี้จึงถามต่อไปอีกว่าถ้าอย่างนั้นท่านก็สามารถ สลายพิษของฝ่ามือเยือกเย็นได้สบายๆเลยสิ ปรมาจารย์ฟงหยวนจึงตอบว่า ใช่แล้วล่ะ
ว่าแล้ว เซียวอี้จึงเร่งให้คนนำข่าวสารนี้ ไปแจ้งต่อ 4 เจ้าผู้คุมกฎ ที่ตั้งกองกำลังอยู่ที่เนินเขา ให้รีบมาสมทบที่เขาหัวซานโดยเร็ว
เมื่อ 4 เจ้าผู้คุมกฎทราบข่าวแล้ว จึงสั่งให้
5 กองธง ถอนกองกำลังทั้งหมด แล้วมุ่งหน้าไปที่เขาหัวซาน ด้านเตี่ยเมี่ยงก็คอยประคับประคองกังปิ่นอย่างใกล้ชิด
ในระหว่างเดินทางนั้นเอง ณ จุดพักแห่งหนึ่ง ในขณะที่เตี่ยเมี่ยง กำลังจะไปหาน้ำที่ลำธาร เพื่อเอามาให้กังปิ่นดื่ม นางก็ถูกใครบางคน ลักพาตัวไป
นางถูกจับ ไปยังวัดร้างแห่งหนึ่ง ที่แท้ บุคคลผู้ที่จับตัวนางมา ก็คือหลินหลิน
ดูเหมือนว่า ตอนนี้นางจะ สติฟั่นเฟืองไปแล้ว แต่นางก็ยังคงคิดว่าคนที่แย่ง เซียวอี้ไป
จากนาง ก็คือ เตี่ยเมี่ยง
1
หลินหลิน จึงได้เอายาพิษ ชนิดหนึ่งชื่อของมันคือ “ดอกไร้รัก”
ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าสุดยอดยาพิษของแผ่นดิน
1
อาการของมันก็คือผู้ที่ถูกยาพิษนี้ในช่วงแรกจะไม่แสดงอาการอะไร แต่เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ ผู้ที่ถูกพิษเกิดความรู้สึกหรือความรักขึ้นมา พิษมันก็จะแทรกซึม เข้าไปยังหัวใจ ซึ่งจะทำให้รู้สึกเจ็บปวดราวกับหัวใจจะระเบิดออกมาก็มิปาน
1
หลังจากนั้นหลินหลินจึงปล่อยตัวนางกลับไป เตี่ยเมี่ยงก็กลับมาหาทุกคนอย่างปลอดภัย แต่นางก็ไม่ได้เล่าเรื่องที่นางไป
เจอหลินหลินและถูกยาพิษให้ใครฟังเลย
4 เจ้าผู้คุมกฎ เตี่ยเมี่ยงและกังปิ่นพร้อมด้วย 5 กองธง จึงเดินทาง ไปถึงเขาหัวซานในที่สุด
เมื่อเดินทางไปถึงแล้ว ด้วย ใกล้ครบกำหนด 7 วันของฤทธิ์วิชาฝ่ามือเยือกเย็น
กังปิ่นจึงอยู่ในสภาพที่ร่อแร่เต็มที
ปรมาจารย์ฟงหยวนจึงรีบดำเนินการ ถ่ายทอดพลังดรรชนีเอกสุริยัน
เข้าสู่ร่างกายนางในทันที ผ่านไปไม่นานนัก พิษเย็นในร่างกายของนางก็ถูกความร้อนของดรรชนีเอกสุริยันสลายไปจนสิ้น
เมื่อนางได้สติฟื้นกลับคืนมา นางจึงได้กล่าวขอบคุณ ทุกคน ที่คอยช่วยเหลือนางตลอดมา และด้วยบุญคุณครั้งนี้ นางจึงฝากตัว เป็นผู้รับใช้ ปรมาจารย์ฟงหยวนตลอดไป
แต่ในใจนางเองก็ยังอาลัยอาวรณ์ต่อเซียวอี้และยังคง คอยเป็นห่วงอยู่เสมอ
1
ปรมาจารย์ฟงหยวน จึงได้รับนาง เป็น
ลูกศิษย์ หลังจากนั้น ปรมาจารย์ฟงหยวน ก็กล่าวอำลา เหล่าบรรดาจอมยุทธ์ทุกคน และพากังปิ่น ลอยหายไป อย่างไร้ร่องรอย
1
ทางด้าน 3 สำนักกระบี่เส้าหลินบู๊ตึงพร้อมด้วยพรรคสุริยันจันทราจึงได้กล่าวอำลากันและกำลังจะแยกย้ายกันเดินทางกลับไปยังสำนักและพรรคตนเอง
ในขณะนั้นเองก็ปรากฏมีกองกำลัง ขนาดใหญ่ที่มีกำลังถึง 10,000 คน ตั้ง กองกำลังล้อมรอบเขาหัวซานเอาไว้
ทันใดนั้นเองก็ปรากฏชาย 3 คนเดินนำหน้ามาและมีชายและหญิงอีกกว่า 12 คนเดินตามหลังพร้อมกับชูป้ายสัญลักษณ์รูปดินและฟ้าแล้วพูดว่า “พรรคฟ้าดิน”
ที่แท้คนพวกนี้ก็คือคนของพรรคฟ้าดิน
โดยชาย 3 คนที่เดินนำหน้ามาก็คือ
“3 ทูตพรรคฟ้าดิน”
ส่วนหญิงและชายอีก 12 คนก็คือ
“12 มณีพฤกษา”
เดิมทีพรรคฟ้าดินนั้นตั้งอยู่นอกเขต
ภาคกลางหลายร้อยกิโลเมตร ส่วนมาก
จะอยู่แถวๆภาคเหนือและจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนของภาคกลางเป็นพรรคที่มีอิทธิพลมากในเขตภาคเหนือ
ทางด้าน เจ้าอินทรีปีกขาวจึงพูดขึ้นว่า พรรคฟ้าดินไม่ได้เหยียบเข้าแผ่นดินภาคกลางมาเป็นเวลากว่าร้อยปีแล้ว มิรู้เหตุใดครั้งนี้จึงได้ เดินทางมา
1 ใน 3 ทูตพรรคฟ้าดินจึงพูดขึ้นว่าพวกเราในนามพรรคฟ้าดินเดินทางเข้าสู่แผ่นดินภาคกลางในครั้งนี้มิได้มีจุดประสงค์ร้าย แต่จะมาขอรับตัวธิดาเทพกลับไปยังแผ่นดินภาคเหนือก็เท่านั้นเอง
เซียวอี้จึงพูดขึ้นว่าไม่ทราบว่าธิดาเทพที่ท่านพูดถึงคือใครกัน
ทูตพรรคฟ้าดินจึงตอบว่า พวกเราเองก็ไม่อาจจะตอบท่านได้อย่างแน่ชัด เพราะตัวธิดาเทพนั้นเข้ามายังแผ่นดินภาคกลางตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้วมิรู้ว่าหน้าตาปัจจุบันจะเป็นอย่างไร
รู้เพียงแค่ว่า ธิดาเทพอยู่ ในพรรคสุริยันจันทรานี่แหละ
ทูตพรรคฟ้าดินจึงพูดต่อไปว่าได้โปรดส่งตัวธิดาเทพกลับคืนมาให้พวกเราด้วยเถิด
ทูตซ้ายจึงพูดขึ้นว่าพวกเราก็ไม่รู้ ว่าธิดาเทพที่พวกท่านพูดถึงนั้นเป็นใครกันแน่ท่านจะมาเซ้าซี้ถามจากพวกเราทำไมเล่า
1 ใน 3 ทูตพรรคฟ้าดินจึงพูดขึ้นว่า
พวกเรามาด้วยดี แต่ทำไมท่านถึงพูดเช่นนี้
ท่านจะส่งตัวธิดาเทพหรือไม่ส่งรีบบอกมาเลย
ด้วยความโมโห ทูตซ้ายจึงตอบไปว่า
ไม่ส่งแล้วจะทำไม!
ว่าแล้ว 3 ทูตพรรคฟ้าดิน จึงกระโจนเข้าไป แล้วโจมตีใส่ทูตซ้ายในทันที
จึงทำให้เกิดการต่อสู้กันของทั้งสองฝ่ายฝ่ายด้านทูตซ้ายด้วยเหตุที่ถูกรุมจึงเสียเปรียบเป็นอย่างมาก
เซียวอี้เห็นท่าไม่ดีจึงรีบดึงตัวทูตซ้ายออกมาแล้วกระโจนเข้าไปแทน เซียวอี้ใช้ออกด้วย คัมภีร์เก้าบุปผาขั้นที่ 8 ซึ่งเป็นการใช้ออกด้วยเพลงหมัด ที่มีทั้งความหนักแน่น และอ่อนหยุ่น
ฝ่ายด้าน 3 ทูตพรรคฟ้าดิน จึงใช้ออกด้วย
ยอดวิชา “สามประสานพันธ์เหลี่ยม”
เมื่อเซียวอี้เจอเข้ากับยอดวิชานี้ยังต้องตกตะลึงและประหลาดใจเพราะไม่เคยพานพบรูปแบบวิชาเช่นนี้ในแผ่นดินภาคกลางมาก่อน
จบตอนที่ 19
โฆษณา