2 ก.พ. 2021 เวลา 08:21 • การตลาด
เรียนรู้ “ศิลปะในการเสียเปรียบ” ของ “โรบินฮู้ด”
โพสต์แรกของนายวอแว ขอนำเสนอเรื่องราวของแอพเดลิเวอรี่ส่งอาหารสัญชาติไทย กับแนวคิดในการทำธุรกิจที่เปิดตัวมาไม่ถึงปี แต่สามารถทำตัวเลข 580,000 ลูกค้าที่ลงทะเบียนใช้งาน 55,000 ร้านอาหาร 11,500 ไรเดอร์ ที่อยู่ในระบบ
อย่างที่เรารู้กันดีว่าในอุตสาหกรรมฟู้ดดิลิเวอรี่ มียักษ์ใหม่ที่ครองตลาดอยู่ 2-3 ราย สำหรับ โรบินฮู้ด นับว่าเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาท้าชิงตลาดด้วยวิถีการต่อสู้ในแบบฉบับ “คนตัวเล็ก” ที่เรียกได้ว่าเสียเปรียบทุกทาง เราลองมาดูกันว่า “โรบินฮู้ด” สู้ตามตำราไหนถึงได้เดินเข้าสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างสวยงาม
ธนา เล่าต่อไปอีกว่า แม้จะเป็นแอพ Local แต่เวลาไปแข่งกับสนามใหญ่เรื่อง “มาตรฐาน” เป็นสิ่งที่สำคัญ นั่นจึงทำให้การทำแอพ ฟังก์ชั่นการใช้งานต้องตอบโจทย์และได้มาตรฐานระดับ Global
“เพราะเรามาช้า จึงต้องกลับหัวตีลังกา ถ้าเราไปตามเบอร์ 1 ไม่มีทางที่เราจะชนะ เมื่อเราใช้จุดขายให้ร้านค้าเข้ามาขายแบบไม่มี GP เลยทำให้เราได้ใจร้านอาหาร ที่จะเป็นหัวใจของธุรกิจ ผลที่ตามมาคือร้านอาหารเข้าระบบอย่างรวดเร็ว”
คำถามต่อมาคือ เมื่อไม่เก็บ GP แล้ว SCB ได้อะไร ???
1
เราน่าจะได้คำตอบนี้จากเป้าหมายของโรบินฮู้ด ตามที่ ธนา ได้อธิบายไว้ข้างต้นว่าโรบินฮู้ด เกิดมาด้วยเป้าหมายว่าเป็น CSR คือการช่วยเหลือร้านอาหารร้านเล็กๆ ให้ได้เจอกับผู้ซื้อผ่านช่องทางใหม่ๆ แต่สิ่งที่เราเห็นมากกว่านั้นคือการสู้ในวิธีที่แตกต่างแม้จะเสียเปรียบก็ตาม
“การเสียเปรียบ กลายเป็น Positioning ของเรา เพราะเราใช้ศิลปะในการเสียเปรียบมาเป็นอาวุธในการต่อสู้”
แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ยังเห็นข้อได้เปรียบของโรบินฮู้ด ก็คือ การมี SCB เป็นบริษัทแม่ การเข้าถึงฐานลูกค้าในแง่ผู้ใช้งาน และในแง่ของร้านอาหารก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็วด้วยการผสมผสานช่องทางทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ไปพร้อมๆ กัน เรียกได้ว่าเป็นการใช้ O2O (Online to Offline) ได้อย่างทรงพลัง
1
“โรบินฮู้ด ตะลุมบอน ผสมผสาน เราไม่ได้ใช้ออนไลน์ 100% เราใช้เน็ตเวิร์คของธนาคารทั้งในส่วนของร้านค้า และผู้บริโภค แม้ว่าเราจะเล่นแพลตฟอร์มออนไลน์ แต่จะละเลยความเป็นอะนาล็อกไม่ได้”
มากกว่าการใช้ศิลปะของความเสียเปรียบมาสู้แล้ว ธนา ยังได้อธิบายถึงอนาคตของโรบินฮู้ดในปีนี้ที่ต้อง Scale ให้ได้ “เราตัวเล็ก และมาช้าก็เลยต้องใช้ท่าพิสดารมากกว่าปกติ”
2
เราจะได้เห็นโรบินฮู้ด เจาะตลาดผู้ใช้งานใหม่ๆ ตามพฤติกรรมและช่องว่างทางการตลาดที่เกิดขึ้นจากการเก็บข้อมูล เช่น ร้านอาหารช่วงดึก อาหารมื้อเช้า เป็นต้น โดยมุ่งเพิ่มลูกค้าผู้ใช้งานเป็น 1 ล้านราย เพิ่มร้านค้าเป็น 1.5 แสนร้านค้า เพิ่มไรเดอร์เป็น 2 หมื่นราย และสร้างยอดเงินไหลผ่านแพลตฟอร์ม (Gross Transaction Value) 1,596 ล้านบาท พร้อมกับการเดินหน้าขยายสู่ต่างจังหวัด เตรียมนำร่อง 5 จังหวัด เน้นจังหวัดที่ไม่ได้พึ่งพานักท่องเที่ยวเป็นหลัก เช่น โคราช เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี ขอนแก่น
2
การเพิ่มฟีเจอร์การใช้งานให้ตอบโจทย์และครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เช่น ระบบการจ่ายเงินผ่านบริการเงินที่หลากหลาย สร้างเครื่องมือให้ร้านค้าจัดการได้ง่ายมากขึ้น
อีกหนึ่งจุดขายที่สำคัญของโรบินฮู้ดก็คือ LS (Logistic Subsidy) หรือส่วนลดค่าอาหารจากทางร้าน ที่เป็นพลังที่ดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ทำให้ฝั่งของโรบินฮู้ดเองต้องทำให้ร้านค้าเข้าร่วม LS ให้เพิ่มมากขึ้น เมื่อลูกค้าได้ส่วนลดจากร้านค้า จะทำให้รู้สึกถึงความคุ้มค่าในการใช้งานที่ถูกกว่า
“ราคา ก็ยังมีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจใช้บริการของลูกค้าต่อแพลตฟอร์ม ฟู้ด ดิลิเวอรี่ ทำให้ LS เป็น Key ของโรบินฮู้ด”
1
ในมุมของไรเดอร์ โรบินฮู้ดก็ได้ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างงานสร้างอาชีพให้มากยิ่งขึ้น ขยายโอกาสไปยังกลุ่มคนที่ไม่มีรถมอเตอร์ไซสค์ในการทำงานส่งของ โดยใช้โมเดลการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ แบบ EV ผ่านการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่จะเข้ามาสนับสนุนด้านรถและเรื่องของที่ชาร์จไฟ
แม้ว่าโรบินฮู้ดจะไม่ได้มีรายได้มาจากการเก็บ GP ร้านค้า แต่เราจะค่อยๆ เห็นภาพ Community ของร้านอาหารภายในโรบินฮู้ด ที่สามารถต่อยอดบริการต่างๆ ได้อีกมากมาย เพราะบรรดาร้านเล็ก ร้านน้อย ต่างมีความต้องการองค์ความรู้ในหลายแขนงเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับร้านของตัวเอง
ธนา อธิบายต่อว่า ร้านค้าเหล่านี้ จะเทิร์นมาให้เราสามารถสร้างบริการแบบ B2B Platform ได้ในอนาคต ทั้ง Financial Service ในมิติต่างๆ หรือบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งเป็นจุดที่เรามีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว Supply Chain Fulfilment หรือการช่วยบริหารจัดการเรื่องต่างๆ ให้กับร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัตถุดิบ ระบบบริหารงานต่างๆ
1
นำไปสู่การสร้าง Business Service ที่อาจจะเป็นการสร้างแพลตฟอร์มมาเพื่อรองรับความต้องการของร้านค้า และสุดท้ายคือ Market Intelligence นำ Data ที่มีไปช่วยร้านอาหารในมุมต่างๆ
แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ การทดสอบให้บริการที่ “ตลาดสด” ซึ่งเป็นโจทย์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่ต้องการช่วยเหลือร้านค้าภายในตลาดโดยไม่เก็บ GP การนำร่องบริการนี้นับว่ามีความน่าสนใจอย่างมาก เพราะจะเป็นการตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ยังมีความต้องการในส่วนนี้อีกมาก โดยเริ่มมกราคม 2564 ไปแล้ว 4 ตลาด ได้แก่ ตลาดเสนีย์ ฟู้ดมาร์เก็ต ตลาดถนอมมิตร ตลาดมีนบุรี ตลาดบางใหญ่
1
ดูเหมือนว่า 88 วัน ของโรบินฮู้ด จะมีเรื่องราวต่างๆ มากมาย นับเป็นก้าวสำคัญที่จะให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในปีนี้ ธนา เปรียบเทียบการงานของโรบินฮู้ด กับ พนักงานใหม่ว่า โรบินฮู้ดมาถึงช่วงผ่านโปร และเป็นพนักงานประจำเต็มตัว ที่มีท่าพิศดารมากมาย และคงจะมีอีกหลายท่าให้เราได้เห็น
อีก 365 วันของปี 2021 โรบินฮู้ด จะมีอะไรให้เราได้เห็นอีกบ้าง.....
1
ไม่แน่ว่าการเดินเกมของ SCB กับการขับเคลื่อนองค์กรด้วย Data อาจจะทำให้เราเห็นอะไรใหม่ๆ มากกว่าธุรกิจ “ฟู้ด ดิลิเวอรี่”
นายวอแว
“ศิลปะในการเสียเปรียบ” ของ “โรบินฮู้ด”
โฆษณา