📩 มาเริ่ม! เข้าเรื่อง 📩
1. เมื่อเราช้อปปิ้งประเทศไหนก็ตาม ให้เราศึกษา หรือถามไกด์ ถามหัวหน้าทัวร์ ว่ามีการคืนเงินภาษีไหม เพราะอย่างอเมริกา จะไม่มีนะจ๊ะ
2. ถามร้านค้า หรือสังเกตป้ายว่าร้านมีระบบคืนภาษีไหม เพราะส่วนใหญ่อย่างร้านหนังสือ ของกินจะไม่ให้ค่ะ
3. เมื่อช้อปฯ เสร็จในร้านนั้นๆ ให้ขอแบบฟอร์มรับภาษี จากที่ร้านนั้นๆเลยในวันนั้น ตอนนั้น! ไม่สามารถข้ามวันได้ และไม่สามารถช้อปฯหลายๆร้านและนำบิลมารวมกันได้
4. ห้างสรรพสินค้า จะสามารถช้อปปิ้งหลายๆร้านมารวมบิลได้ และมีจุดทำใบขอรับภาษีคืน หรือรับเงินคืนได้เลยในห้าง (ไปกับหัวหน้าทัวร์ เขาก็จะบอกสถานที่ทำนะ อิอิ) หรือไปเองก็สังเกตป้าย Tax free หรือ Tax refund ไม่ก็พนักงานขายเขาจะเป็นคนบอกเราเองค่ะ
5. เก็บรวบรวมใบเสร็จและแบบฟอร์มภาษี ไว้จนวันสุดท้ายที่เราออกจากประเทศนั้น เพื่อไปทำเรื่องขอเงินภาษีคืนที่สนามบิน (แนะนำนับ!!! ว่าเรามีกี่ใบ จะได้ไม่หาย ไม่พลาด เวลาไปยื่นค่ะ)
6. สินค้าที่ซื้อมา ตามหลักแล้ว ห้าม!!!นำไปแกะใช้ เพราะของที่จะขอภาษีคืนได้ ต้องเป็นของใหม่ บางร้านจะปิดผนึกถุงไม่ให้เราแกะเลยด้วยซ้ำไป แต่บางสถานที่ ที่เขาไม่ได้เข้มงวด เราก็สามารถใช้ แล้วเก็บใส่ถุงหรือกล่องให้เหมือนเดิมวันกลับได้ค่ะ (นี่บอกทริคละเอียดแบบไม่ต้องไปกะนิวก็ได้นะเนี่ย😂😂😂)
7. ถึงวันกลับไปสนามบิน มี 2 แบบค่ะ (มีข้อย่อยไปอีก😆)
7.1 สินค้าที่ใส่ในกระเป๋าใบใหญ่ จะทำภาษีด้านนอกก่อนเข้า Gate โดยเราจะต้อง เช็คอินการเดินทางก่อน เมื่อเราได้บัตรโดยสาร และติดแท็กกระเป๋าเรียบร้อยพร้อมโหลด แต่!! เราจะยังไม่โหลด เราต้องนำ>>>
- กระเป๋าใบที่มีสินค้าอยู่
- พาสปอร์ต บัตรโดยสาร
- แบบฟอร์มขอภาษีคืน
- ใบเสร็จสินค้า<<< ไปทำเรื่องขอคืนภาษีที่เคาเตอร์กรมศุลกากร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปั๊มตราประทับที่แบบฟอร์ม ซึ่งขั้นตอนตรงนี้ เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ขอตรวจสินค้า ว่าเราซื้อมาจริงไหม และถ้าเราไม่มีสินค้า หรือสินค้ามีร่องรอยใช้แล้ว ไม่ใช่ของใหม่ ถ้าเขาเข้มงวด ก็มีสิทธิ์ปฏิเสธการปั๊มตราให้เรา เราก็จะไม่ได้เงินคืนเพราะ No Stamp No Refund นะจ๊ะ
7.2 สินค้าที่ต้องการถือขึ้นเครื่องติดตัวไปด้วย ทำการเช็คอินเรียบร้อย เราสามารถเข้าด้านใน และไปที่เคาเตอร์กรมศุลกากร ทำเหมือนกันกับข้อ 7.1 นะคะ