Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
MovieGuroo ดูหนังทุกวัน
•
ติดตาม
2 ก.พ. 2021 เวลา 10:09 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
🤲🤲🤲 กราบเบญจางคประดิษฐ์ขอขมา #Netflix ที่เคยกล่าวหาว่า #อย่าหาทำ หนังแอ็คชั่นเลย ด้วยความอ่อนด้อยที่เป็นสมาชิกได้ 2 ปีกว่า ๆ เลยตกหล่นหนังแอ็คชั่นลุ้นระทึกดี ๆ เรื่องนี้ไป ส่วนไหนที่เคยสงสัยว่าหนังแอ็คชั่น Netflix หาดีไม่ได้ อยากให้ลองดูเรื่องนี้ก่อน เพราะคุณ (อาจจะ) เปลี่ยนใจแบบแอดก็ได้
ขอเล่าเรื่องย่อคร่าว ๆ ว่า หนังเป็นเรื่องของนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกส่งเข้าไปยังเมืองที่ย่อยยับเพราะภัยสงคราม เพื่อหาคำตอบของสิ่งมีชีวิตลึกลับที่มีลักษณะคล้ายวิญญาณ ที่มีพลังนำในทำลายล้างทรงอานุภาพและเข่นฆ่าทหารและชาวบ้านเป็นจำนวนมาก ว่าเจ้าสิ่งนี้มันคืออะไรกันแน่ และหาวิธีที่จะยับยั้งมันก่อนที่การทำลายล้างจะขยายวงกว้างไปมากกว่านี้
หนังผนวกความเป็นหนังแนวลุ้นระทึกปนสยองขวัญเข้าไปในหนังแอ็คชั่นได้อย่างลงตัว ภาพต่าง ๆ เหมือนกำลังเล่นเกมส์อยู่ มีการปูเหตุและผลให้กับเรื่องราวที่นำเสนอ ตลอดจนใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ในการหาคำตอบและนำมาวิเคราะห์เพื่อใช้ต่อสู้กับเจ้าสิ่งนี้ได้อย่างมีหลักการ หนังอาจจะไม่ได้มีการสะท้อนสังคมหรือวิพากษ์วิจารณ์การทำสงครามในเชิงลึกนัก (มีพูดถึงแต่ไม่ได้ลงลึก) แต่กับสิ่งที่หนังนำเสนอ โดยมุ่งเน้นไปที่ความสนุกแบบมีเหตุมีผลเป็นหลัก ก็ถือว่าเป็นทำออกมาได้สมบูรณ์ในแบบที่หนังแอ็คชั่นดี ๆ สักเรื่องควรเป็น คือไม่ทำอะไรเกินตัว จนเนื้อเรื่องยุ่งเหยิงไปหมดเหมือนหนังแอ็คชั่นยุคหลังของ #Netflix หลาย ๆ เรื่อง ที่แมสเสจเต็มไปหมด แต่หาความสมเหตุสมผลของเนื้อเรื่องไม่ได้เลย
หนังให้เวลาในการปูเรื่องในช่วงต้นที่ค่อนข้างนานตามสไตล์หนังสยองขวัญ ที่ปูเรื่องเพื่อสร้างความเร้นลับและความน่ากลัวที่คาดเดาไม่ได้ของเจ้าสิ่งนี้ ทำให้คนดูอยากร่วมหาคำตอบไปกับพระเอกของเรื่อง สำหรับที่อยากเสพความอึกทึกครึกโครมอาจหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะช่วง 15 นาทีแรก หนังให้ความสำคัญกับการปูเรื่องให้แข็งแรง ก่อนที่จะซัดกระหน่ำหลังจากนั้นแบบ (แทบจะ) Non-Stop เลยทีเดียว
หลังจากที่หนังสร้างบรรยากาศคุกรุ่นมาอย่างเต็มที่แล้ว พอถึงเวลาลงสนามจริง ๆ อารมณ์ความ #มันจะมาอีท่าไหน ของเจ้าสิ่งนี้ก็ซัดเราไปเต็ม ๆ ด้วยความที่มันมาในรูปแบบที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ต้องใช้อุปกรณ์ในการมองเห็น ทำให้จังหวะในการสู้รบกับมันมาในแนวเหมือนสู้กับผี ที่ไม่มีรูปแบบการโจมตีที่ชัดเจน ทำให้ยากที่จะรับมือ แค่บินมาโฉบก็ถึงตาย อีกทั้งยังเป็นพวกฆ่าไม่ตายอีกด้วยไม่ว่าจะใช้ปืนที่อานุภาพสูงแค่ไหน ทำให้การต่อสู้ของฝั่งพระเอกเป็นการสู้เหมือนหมาจนตรอก ดูยังไงก็ไม่มีทางชนะ
ระหว่างฉากแอ็คชั่นที่ดูอันตรายทุกวินาที หนังก็ค่อย ๆ เผยให้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ที่ใช้จัดการไอ้เจ้าตัวนี้ แม้ที่มามันจะดูบังเอิญไปหน่อย แต่หลังจากนั้นด้วยการมีหลักการทางวิทยาศาสตร์มารองรับ เลยทำให้มันมีน่าเชื่อถือ
และท่ามกลางห่ากระสุนที่เอาไว้ต่อสู้กับเจ้าสิ่งนี้ หนังยังสอดแทรกอารมณ์เศร้าจากการสูญเสียของหลาย ๆ ตัวละครได้อย่างถูกทีถูกเวลา และไม่ยืดเยื้อจนเกินไป ก็คือเศร้าหล่ะ แต่กูก็ต้องเอาตัวรอดด้วย ไม่มายืนดราม่าให้โดนฆ่าเล่น
ฉากแอ็คชั่นที่เป็นไฮไลต์ช่วงท้ายก็ดูยิ่งใหญ่สมสเกลของหนัง และตัดต่อออกมาได้อย่างมีจังหวะและชั้นเชิงให้คนดูได้ลุ้นกันอย่างเต็มที่
ในส่วนของนักแสดงที่ไม่ได้เป็นระดับซุปตาร์หรือมีชื่อเสียงในวงกว้างมากนัก รูปลักษณ์ภายนอกอาจดูขัดกับบทเล็กน้อย อย่าง James Badge Dale ที่เป็นพระเอกนักวิทยาศาสตร์ ก็มีลุคส์ที่ขัดกับภาพนักวิทยาศาสตร์ที่เราเห็นทั่วไป เพราะมีความห่าม ๆ หน่อย แต่หลังจากที่ผ่านแอ็คชั่นสุดชีวิต ก็ถือว่าเหมาะ เพราะถ้าจะมาแนวเนิร์ด ๆ ก็คงใช่นักวิทยาศาสตร์ที่ออกสนามรบมาแล้วหลายครั้ง ที่ขัดสุดก็คงเป็น Emily Mortimer นางเอกของเรา ที่รูปร่างออกจะบอบบางไปหน่อย โดยเฉพาะช่วงบู๊ท้ายเรื่อง เวลาถือปืนกลัวจะถือปืนไม่ไหว
#MovieGuroo #Netflix #Spectral
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย