4 ก.พ. 2021 เวลา 14:36 • นิยาย เรื่องสั้น
ตัวประกันรัก 9
.
" ยัยแว่น!" เสียงห้าวตะคอก ร่างสูงผุดลุกขึ้น ดวงหน้าเข้มดุดันจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนที่ขมับ
ผู้กองพัฒน์กับจ่าดำลุกขึ้นตาม ผู้กองหนุ่มจับแขนดนัยบอกให้ใจเย็นๆ. จ่าดำหันไปบอกเจ้าของร้านและลูกค้าคนอื่นๆว่าไม่มีอะไร
ดวงตากลมโตวาวโรจน์เงยหน้ามองคู่หูของเธออย่างท้าทาย
" ทำบ้าอะไรของเธอ!" เขาเดินอ้อมโต๊ะไปอีกฝั่งที่คนหน้าใสนั่งอยู่พร้อมจับมือกระชากแขนให้ลุกขึ้นตามเขาไป หญิงสาวพยายามฝืนแต่สู้แรงเขาไม่ได้จึงถูกลากตามไป จ่าดำทำท่าจะลุกตาม ผู้กองพัฒน์ห้าม
" ให้เคลียร์กันเองเถอะจ่า เจ้าดนัยมันไม่ทำอะไรน้องชัญหรอก " ร่างสูงนั่งลงแล้วสั่งให้พนักงานร้านเก็บเงิน ในขณะที่ผู้อาวุโสมองตามอย่างเป็นห่วง
.
.
หมวดหนุ่มลากชัญญามาที่หลังกำแพงลานจอดรถที่ไม่มีคนอยู่ คนหน้าใสถูกปล่อยมือ หล่อนสะบัดข้อมือที่มีรอยนิ้วเพื่อคลายความเจ็บ เขาหันมาเผชิญหน้าหน้าตาโกรธเกรี้ยว
" เป็นอะไรของเธอ คุยกันอยู่ดีๆเป็นบ้าอะไร!" เขาตะคอกเสียงดังจนคนตัวเล็กสะดุ้ง หล่อนกลั้นน้ำตาไว้ สายตาโกรธขึ้ง
" ก็คุณมาว่าเจ ๊" เขาทำหน้าเหวอหันหน้าไปทางอื่นแล้วระงับอารมณ์หันหน้ามาหาหล่อน
" ล้อเล่น เธอเข้าใจมั้ย ว่าล้อเล่น ประสาทรึเปล่าเนี่ย "
" ถ้ามีใครมาพูดล้อเล่นแบบนี้กับพ่อแม่คุณ คุณจะโอเครึเปล่าคะ?" หล่อนตอบ น้ำตาเริ่มหยดลงมาเพราะกลั้นไม่อยู่.
" ต้องจริงจังขนาดนั้นด้วย ไหนเธอบอกมาซิ เจ๊เค้าเป็นใคร ทำไมต้องปกป้องขนาดนั้นด้วย" ชายหนุ่มเท้าสะเอวถาม
" เจ๊ช่วยชีวิตฉันกับครอบครัวไว้ ถ้าไม่มีเจ๊ แม่ฉันคงตายไปแล้ว และฉันคงไม่อยู่มาจนถึงทุกวันนี้ " ชัญญาตอบเสียงสั่นเครือ. หล่อนนึกถึงวันที่เจอเจ๊ครั้งแรก หล่อนอายุ 12 ปี ป๊าหล่อนไปทำงานต่างจังหวัดส่วนแม่ป่วยหนัก ตอนนั้นฐานะทางบ้านเรียกได้ว่ายากจน จึงต้องไปขอร้องร้านขายยาขอผ่อนค่ายาเพราะมีเงินไม่พอ แต่ไม่มีใครช่วย
และแล้วก็เหมือนสวรรค์โปรด ส่งนางฟ้ามา หญิงสาวเดินมาหาเด็กหญิงชัญญาบอกให้พาไปหาแม่เธอ. นางฟ้าคนนี้ช่วยเรียกรถพยาบาลให้ ออกค่ารถพยาบาลให้ เมื่อป๊าของเธอมาถึง. ก็ให้เงินป๊าไว้ทำทุนก้อนหนึ่ง. เด็กหญิงมองนางฟ้าของเธออย่างเทิดทูนนับแต่นั้นมาถ้าใครมาแตะต้องหรือว่าพูดจาไม่ดีถึงสารวัตรชล หล่อนเอาตาย!
1
ชัญญาพยายามกระพริบตาถี่ๆไล่น้ำตาที่หยดลงมาอาบแก้ม ดนัยใจอ่อนยวบทันทีที่เห็นน้ำตาของหญิงสาว เขาลูบหัวหล่อนอย่างแผ่วเบา
" ฉันผิดเอง เลิกร้องไห้เถอะ ต่อไปนี้ฉันจะไม่พูดแบบนั้นอีกแล้ว โอเคมั้ย?" คนหน้าใสเงยหน้าขึ้นมองเขา หล่อนใช้มือปาดน้ำตาทั้งสองข้าง เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าตัวเองส่งให้ หล่อนรับมาเช็ดน้ำตา แล้วสั่งน้ำมูกสุดแรง
" นี่ไม่ได้แกล้งกันใช่มั้ย?" เขาพูดยิ้มๆ หล่อนผลักไหล่เขาไปทีหนึ่งแบบไม่จริงจังนัก
.
.
.
" สอบสวนคนร้ายได้ความว่ายังไงบ้างครับเจ๊?" ดนัยถามหัวหน้าสาวที่ยืนอยู่หน้าห้องสอบปากคำ หล่อนไม่ได้ไปกินข้าวกับพวกเขาเพราะต้องการสอบปากคำคนร้ายจนเสร็จ
" คุณกับชัญญาไปตรวจร่างกายมาแล้วเหรอคะ?"
" ครับ ผมกับยัยแว่นพึ่งกลับมาเมื่อกี้เองครับ แล้ว?" หมวดหนุ่มพยักเพยิดไปทางห้องสอบสวน
" ไม่พูดอะไรเลยค่ะ ถ้าไม่จงรักภักดี ก็คงกลัวตาย" หมวดหนุ่มขมวดคิ้ว
" ให้ผมลองมั้ยครับเจ๊?" ชายหนุ่มเสนอขณะมองคู่กรณีที่จับตัวเขาไปผ่านกระจกอีกห้องที่สามารถมองห้องสอบสวนได้. แต่อีกฝั่งมองไม่เห็นเขา คนร้ายร่างใหญ่วัยสามสิบปลายนั่งบนเก้าอี้อลูมิเนียมอย่างสงบ มือที่ถูกใส่กุญแจมือไว้ข้างขวาเคาะโต๊ะอลูมิเนียมตรงกลางห้องเป็นจังหวะอย่างรอเวลา
" ได้ค่ะ นี่ค่ะ" หัวหน้าสาวส่งแฟ้มบางอย่างให้ เขารับมาเปิดดูแล้วเลิกคิ้วอย่างสงสัย
" รายชื่อคนที่เกี่ยวข้องกับนายคนนี้ค่ะ เรายังไม่รู้ว่าใครสั่ง เพราะฉะนั้นต้องทำให้รู้ " หมวดหนุ่มพยักหน้ารับ เขากระชับเสื้อหนังสีดำ หายใจเข้า แล้วเปิดประตูเข้าห้องสอบสวนไป
" ว่าไง ลูกพี่ " ดนัยทัก คนร้ายมองมาที่เขาแล้วยืดตัวนั่งตรง แต่สายตาบ่งบอกความไม่เป็นมิตร
คนมาใหม่หยิบเก้าอี้. ลากมานั่งอีกฝั่งของโต๊ะที่คนร้ายนั่งอยู่ เขาวางแฟ้มบนโต๊ะ เปิดออกดู
" พี่วิเชียร สุกแสง ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ" ดนัยยิ้มแป้น ต่างกับฝ่ายตรงข้าม
" ผมไม่รู้จักคุณ คุณตำรวจ" คนพูดชักสีหน้าไม่พอใจ
" แหม พี่พึ่งจะกระทืบผมไปไม่ใช่เหรอครับ ลืมง่ายจังครับ " หมวดหนุ่มพูดต่อ
" เหรอ? " ยังไม่ถึงวินาที ดนัยผุดลุกขึ้นจับแขนฝ่ายตรงข้ามบิดอย่างแรง จนร้องโอ๊ย หมวดหนุ่มดันคนร้ายนอนกับโต๊ะขณะที่ขายังนั่งบนเก้าอี้ วิเชียรหายใจหอบ
" เจ๊ จะไม่ห้ามหมวดเหรอคะ?" ชัญญาที่พึ่งเข้ามาถาม. ทันทีที่เห็นภาพรุนแรง
" ยังก่อน" สารวัตรชลตอบสั้นๆ มือกอดอกยืนดูเหตุการณ์ต่อ
ภายในห้องสอบสวน ดนัยยังคงกดคนร้ายไว้แล้วพูดต่อ.
" พี่วิเชียร ยังไงก็ไม่รอดคุกแน่ๆ บอกมาดีกว่าว่าใครสั่ง เดี๋ยวปมจะช่วยกันพี่เป็นพยาน" ฝ่ายที่โดนจับกดทำเสียงเฮอะ รอยยิ้มเหยียดปรากฎ
" ผมจะบอกอะไรให้นะคุณตำรวจ ผมจะไม่พูดอะไรถ้าไม่มีทนาย "
" ได้!" หมวดหนุ่มปล่อยแขนให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ
" งั้นไม่ต้องพูดอะไรก็ได้ครับ พี่วิเชียร แค่'ฟัง' ก็พอ" ดนัยเดินกลับมานั่งที่ของตัวเอง นิ้วเรียวเปิดแฟ้ม
" พี่ทำงานให้หลายคนนะครับ
ทั้งนายยศพล นักธุรกิจสีเทา" ใบหน้าฝั่งตรงข้ามยังคงยิ้มเหยียดขณะฟังตำรวจหนุ่ม
" นายสุทิน นักการเมืองท้องถิ่น" ดนัยเว้นระยะ วิเชียรยังคงสีหน้าเรียบเฉย
" นายพีรพล มาเฟียใหญ่เจ้าของบาร์ และธุรกิจหลายอย่าง " วิเชียรเหลือบตาขึ้นมองดนัยนิดหนึ่งทันทีที่ได้ยินชื่อ สารวัตรชลที่มองอยู่อีกห้องเลิกคิ้วข้างหนึ่ง ' หมอนี่สินะ' สารวัตรสาวคิด
.
.
.
โปรดติดตามตอนต่อไป
โฆษณา