6 ก.พ. 2021 เวลา 04:10 • ธุรกิจ
How to get the team effectively.
​ เมื่อไม่นานมานี้ผมมีโอกาสได้ชมสารคดีกีฬาที่ให้แง่คิด และ แรงบันดาลใจเรื่อง The Playbook: A Coach’s Rules For Life (กฎชีวิตพิชิตทุกสนาม) จาก Netflix ที่เล่าเรื่องราวของเหล่าโค้ชผู้มีประวัติการคว้าแชมป์ เพื่อมาแบ่งปันบทเรียนส่วนตัวที่พาพวกเขาก้าวสู่ความสำเร็จทั้งในชีวิต และ วงการกีฬา โดยในวันนี้ผมขอพูดถึงเรื่องของ ด็อค ริเวอร์ส (Doc Rivers) โค้ช NBA (National Basketball Association) ลีกบาสเกตบอลอาชีพในอเมริกา ที่มีมาตรฐานระดับการแข่งขันที่สูง มาแชร์ปรัชญาการรวมทีมเป็นหนึ่งเดียว การสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมแชมป์จากบอสตัน
Doc Rivers :
“I told them, if we're going to win, we're going to have to sacrifice. You're going to have to change . . .
That was the challenge: getting them to buy in to being a team."
(NBA coach: Doc Rivers,)
ภาพจาก : yahoo.com
 
​ในสารคดีกีฬานี้ ผมประทับใจประเด็นที่ ด็อค ริเวอร์ส ได้นำเอาแนวคิดแบบอูบูนตู (Ubuntu is a Way of Life) มาสร้างความเป็นทีมให้กับลูกทีมของเขา อูบูนตู คือ แนวคิดที่พูดถึงการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ในหมู่คนแอฟริกัน การที่บุคคลหนึ่งจะมีตัวตนขึ้นมาได้นั้น เกิดจากการมีตัวตนร่วมกันกับคนอื่น กับทีมทั้งหมด เพราะ อูบูนตู คือ แก่นของการเป็นมนุษย์ มนุษย์ต้องมีสังคม เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ไม่ได้โดดเดี่ยว “พึงเรียนรู้ว่าทำคนเดียวไม่ไหว และ คอยหมั่นเรียนรู้จากผู้อื่น ทำร่วมกันเป็นทีม” เพราะ กีฬาบาสเกตบอลเป็นกีฬาที่หากมีคนเก่ง ๆ มารวมกัน แต่ต่างคนต่างเล่น ต่างคนต่างทำ การแข่งขันในครั้งนั้นคงห่างไกลคำว่า “แชมป์” แนวคิดอูบูนตู ที่ด็อค ริเวอร์ส ได้หล่อหลอมลูกทีมของเขา จึงทำให้ลูกทีมของเขาซึมซับแนวคิดนี้ และ เชื่อเสมอว่า “ชัยชนะที่ได้มาไม่ใช่เพราะใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเพราะเรา เป็นเพราะทีม” เพื่อให้ทีมคนเก่ง กลายเป็นทีมแชมป์ได้
​เมื่อเป็นแชมป์แล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือความกดดันในการรักษาแชมป์ แต่ ด็อค ริเวอร์ส ได้แปรเปลี่ยนความกดดันให้เป็นความสนุก และ ความท้าทาย (Pressure is a Privilege) เราจะทำมันไปทำไม? ถ้าเราไม่อยากเป็นแชมป์ เพราะ ด็อค ริเวอร์ส รู้ดีว่า ความกดดันอาจส่งผลในแง่ลบหากไม่รู้จักวิธีการรับมือที่ถูกต้อง แต่ในอีกแง่หนึ่งก็เป็นแรงกระตุ้นชั้นดีนั่นเอง “เราคือบอสตัน เซลติกส์ และ สิ่งที่เราทำทั้งหมดคือ การเอาชนะ” เลยกลายเป็นแนวคิดที่ ด็อค ริเวอร์ส ฝังรากลึกลงไปในในใจแก่บรรดาลูกทีมของเขา
​และ สิ่งสำคัญที่สุดของแชมป์ นั้นคือ แชมป์นั้นต้องเดินหน้าต่อไปไม่หยุด (Champion keep moving forward) เพราะ คนทั่วไปชอบคิดว่า การเป็นแชมป์ คือ ความสวยหรูของสนามกีฬา แต่มักลืมไปว่า กว่าจะได้แชมป์มานั้น นักกีฬาคนนั้นต้องผ่านการทุ่มเทพลังกาย และ พลังใจมากมายขนาดไหน? ด็อค ริเวอร์ส ได้ยกตัวอย่าง มูฮัมหมัด อาลี อดีตยอดนักมวยชาวอเมริกันรุ่นเฮฟวี่เวทผู้เป็นตำนานที่เป็นไอดอลของเขาแก่ลูกทีมว่า อาลีโดนโดนชกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ล้มลงหลายครั้งแต่ทุกครั้งก็ลุกขึ้นมาสู้เพื่อชัยชนะต่อ เพราะ เขาเป็นคนที่ตัดสินใจว่าจะยอมโดนชกให้ล้มลงอยู่ตรงนี้ หรือ จะลุกขึ้นเดินหน้าสู้ต่อต่อเพื่อเอาชนะให้ได้ และ เพราะ อาลี “เชื่อ” ว่าเขาสามารถเอาชนะได้ เขาจึงกลายเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวท เป็นนักชกในตำนานของวงการมวยตั้งแต่นั้นมา
“การรวมเป็นหนึ่งเดียว” ที่ด็อค ริเวอร์ส (Doc Rivers) ได้พูดถึงผ่านสารคดีกีฬานี้ ทำให้ผมนึกถึงคำว่า “Teamwork” ที่ผมพึ่งได้รับการแชร์มาจากทีมงาน IBE ทีมงานที่ช่วยโค้ชผมเรื่องการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพ ...
​“Teamwork” มีองค์ประกอบ ส่วนหลัก ที่สำคัญ นั้นคือ
1. Common Target ​: เป้าหมาย คือ ความคิดร่วมกันเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำ ในตัวอย่างDoc Rivers คือมุ่งมั่นกับการเป็นแชมป์ในตำนานที่ทำลายทุกสถิติ สำคัญข้อนี้คือเป้าหมายนั้นชัดเจนและสร้าง Passion ให้รู้สึกเป็นเจ้าของร่วมต่อเป้าหมายมากน้อยแค่ไหน
2. Trust​​: ความไว้วางใจ คือ การไว้วางใจผู้อื่นให้ทำในสิ่งที่เหมาะสมสำหรับทีม และ เพื่อกันและกัน .....อันนี้ อูบุนตู คือ ปัจจัยในการเปลี่ยนแปลง mindset และนำไปสู่ความสำเร็จ
3. Talent​​: พรสวรรค์ คือ ทักษะโดยรวมที่จำเป็นในการทำงานให้สำเร็จ ...อันนี้เป็นหน้าที่ของโค้ช ที่ต้องแสวงหา เพื่อให้ทีมมีส่วนผสมที่ลงตัว เช่น ถ้าเป็นธุรกิจ ต้องมี คนเก่งทั้งการวางแผนกลยุทธ์ เก่งการตลาด เก่งในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ และเก่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มารวมกันเป็นทีม
4. Teaming Skills​: ทักษะการทำงานร่วมกัน เพื่อให้ทีมมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ...หมายถึง ทีมงานมีการวางแผนใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการเรียนรู้ พัฒนา ทักษะใหม่ๆ และมีการสือสารที่ดีมีการนำเอาประเด็น ปัญหายากๆมาหารือเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน สร้างบรรยากาศการทำงานร่วมกันที่สนุกและเคารพให้เกียรติกัน
5. Task Skills​: ทักษะการทำงาน คือ ความพยายามที่จำเป็นในการดำเนินการให้สำเร็จ ทั้งเรื่องการโฟกัส การจัดลำดับความสำคัญ และมุ่งมั่นหาทางทำงานให้สำเร็จ
หากเชื่อมโยงกับเรื่องราวของด็อค ริเวอร์ส (Doc Rivers) ข้างต้นนั้น คือ เพราะ เขาหล่อหลอมให้ลูกทีมของเขามี
Common Target คือ มีการกำหนดภารกิจ/ เป้าหมาย ร่วมกัน ร่วมมือร่วมใจกันเพื่อทำให้เป้าหมายของทีมสำเร็จ และ ยังปลูกฝังให้ลูกทีมทุกคน มี Trust คือ การสื่อสารกันอย่างเปิดใจ พร้อมแก้ไขปัญหาร่วมกันด้วยความไว้วางใจ และ มีความทีม มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็เพื่อที่จะปรับปรุง และ พัฒนาขีดความสามารถของทีมให้พร้อมสู้กับการแข่งขันในครั้งต่อไป
​สุดท้ายนี้ผมขอมอบกำลังใจกับทุกทีมที่มีความฝัน มี passion มี เป้าหมายที่ท้าทายความสามารถ อยากให้ลองนำวิธีคิดข้างต้นไปปรับใช้ และ คิดเสมอว่าเราไม่ได้ตัวคนเดียว เพื่อนร่วมงาน คนรอบข้างในทีมของเรา อาจมีความถนัดในสิ่งที่เราไม่ถนัด และ เขาสามารถทำมันได้ดีกว่าเรา ก็ขอให้เชื่อมั่นในความสามารถของกันและกัน เรียนรู้ที่จะไว้ใจกัน หมั่นเติม passion ให้กับตัวเองและทีมงาน เปลี่ยนความกดดันเป็นความท้าทายที่สนุกที่จะทำให้สำเร็จ เพราะ สุดท้ายแล้ว ผลงานของทีมที่ออกมานั้นจะทำให้เราสุดภูมิใจ และมีความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ประสบความสำเร็จ
โฆษณา